เพื่อนๆเชื่อไหมว่า แต่ก่อนผมไม่เคยสนใจนักการเมืองเลย เพราะนักการเมืองมาหาเสียง(สนใจชอบไปฟังเมื่อก่อนมีการตั้งเวทีปราศัย) ส่วนใหญ่มาหาเสียงก็บอกว่าจะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้แต่สุดท้ายแล้วก็เงียบหาย ในความรู้สึกของผมตอนนั้นก็คือ นักการเมืองเลว (คงเหมือนกับความรู้สึกของหลายๆคนในตอนนี้)
แต่..พอมีพรรคทรท.มาหาเสียง บอกจะมีนโยบายกองทุนหมู่บ้านๆละ 1ล้าน 7หมื่นกว่าหมู่บ้าน พักหนี้เกษตร 30บาทรักษาทุกโรค ทั้งๆที่ประเทศไทยตอนนั้น ยังเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ คุณรู้ไหมผมคิดยังไง และคุยกันกับพรรคพวกว่ายังไง ผมบอกว่า "มันโม้อีกแล้ว เดี๋ยวมันก็เงียบเหมือนๆเดิม" "เออ..ว่าแต่มันคิดแปลกแหวกแนวดี" และเป็นพรรคใหม่ ลองเลือกๆมันไป เลือกไปงั๊นๆแหร่ะไม่ได้ฝันว่าจะได้เห็นจริงตามที่มาโม้
แต่..เขาก็ทำได้ครับ ทำได้ตามที่หาเสียง ทั้งๆที่ไม่น่าจะทำได้ เพราะขณะนั้นประเทศเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟอยู่ แต่มีปัญญาพักหนี้เกษตร มีปัญญาให้กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน 7หมื่นหมู่บ้าน 7หมื่นล้าน
ซึ่งในขณะนั้นผมก็ยังไม่สนใจอะไรมาก เพราะถือว่า "ทักษิณเอ็งทำดีเอ็งทำได้" "แต่ก็แค่เอ็งทำตามหน้าที่ๆได้โม้ไว้" หากเลือกตั้งครั้งต่อไปข้าจะเลือกเอ็งแน่ๆ โดยไม่ต้องคิดมากเพราะไม่เคยมีปรากฏในอดีตที่ผ่านมา
จนมาเกิดปรากฏการสนธิลิ้ม ทองกุล ออกมาด่าทักษิณออกทีวี (ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักสนธิลิ้ม แต่ก็เคยเห็นแว๊บๆในทีวีออกมาพูดเกี่ยวกับโจรใต้ ที่ผทฟังแล้วมันทะ
ๆเหมือนสร้างความชอบธรรมให้โจรใต้ แต่ก็ไม่ได้สนใจ) (ผมยังถามน้องชายเลยชายว่าไอ้คนนี้มันใครวะ) พอเห็นมันออกมาด่าทักษิณ ผมบอกว่าเฮ้ย...มันไม่ใช่แล้ว ที่ผ่านมากูก็ไม่เคยเห็นใครทำได้ดีเท่าทักษิณ แล้วไอ้ตัวนี้มันบ้าอะไรวะ ผมเลยเริ่มสนใจค้นหาความเป็นมา และลงลึกทางการเมืองมากขึ้น และได้รู้ข้อมูล ความดี ความเลวของแต่ละคนที่ออกมาด่าทักษิณ ตั้งแต่ยังไม่มี นปก.นปช. เสื้อแดง เสื้อเหลือง สลิ่ม
เสื้อเหลืองรักพระเจ้าอยู่หัว เกิดจากทักษิณ เสนอให้ใส่เสื้อเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดีทุกวันจันทร์ และมีประชาชนใส่จำนวนมากมายทั้งประเทศ ผมมีเป็นโหลในตอนนั้น
แต่สนธิลิ้มก็ฉวยโอกาสเอามาใช้เป็นสัญลักษณ์โคนทักษิณ โดยการแอบอ้างหลายๆอย่าง หลายๆครั้ง เพื่อจะได้มีมวลชนจำนวนมากและยังหลอกขายเสื้อเหลืองเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกด้วย
ในมุมมองผมที่เห็นปรากฏการณ์นั้นของสนธิลิ้มในตอนนั้นคือ คนรักทักษิณมากเนื่องเพราะจากผลงาน แต่คนรักในหลวงทั้งประเทศย่อมมีมากกว่า การจะโค่นทักษิณลงได้ ต้องอ้างในหลวงให้คนรักในหลวงมาชนทักษิณเท่านั้น เพราะคนรักทักษิณก็คือคนที่รักในหลวงด้วย และรักในหลวงมากกว่าทักษิณแน่ๆ แต่การที่สถาบันถูกดึงมาใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝั่งตรงข้ามบ่อยเข้า ย่อมทำให้คนรักทักษิณบางส่วนเริ่มเสื่อมศรัทธาต่อสถาบัน (แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อย) แต่คนเกลียดทักษิณก็ไม่ยอมหยุดการแอบอ้าง ซ้ำยังเหมารวมว่าฝ่ายคนรักทักษิณคือคนไม่เอาเจ้า ยิ่งสร้างความเลวร้ายและเสื่อมต่อสถาบัน กลับไม่มีใครออกมาห้ามปรามการกระทำเลวร้ายนั้น และส่วนใหญ่คนที่เกลียดทักษิณคือคนที่ถูกเป่าหูและเชื่อว่าทักษิณไม่เอาเจ้า (ผมเชื่อว่าตรงนี้มีเยอะกว่าคนที่เชื่อว่าทักษิณโกง) เพราะเขารู้ๆกันอยู่ว่าที่ผ่านๆมามันโกงกันแน่ๆชัดเจน ในส่วนทักษิณโกงมันยังไม่ชัดเจน
ผมยังมองว่าคนเสื้อแดงที่ต่อต้านสถาบัน คือเหยื่อของความขัดแย้งที่ตกหลุมพรางเข้าทาง ฝั่งตรงข้ามที่ต้องการอ้างสถาบัน ยิ่งพอมีคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านสถาบันมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าทางเขามากขึ้น ทำให้ถูกเหมารวมว่าแดงไม่เอาเจ้า ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพียงแต่สถานการณ์ทางการเมืองบีบให้เขาเป็นไปโดยไม่รู้ตัว
ความเสียหายของสถาบัน จึงเกิดขึ้นเพราะบุคคลที่อ้างว่ารักเจ้า แล้วเอาข้ออ้างนั้นไปกดหัวศรัตรูทางการเมือง เมื่อไรผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลายที่แท้จริง จะตระหนักได้สักทีว่าการกระทำของพวกเขาคือการทำลายสถาบันโดยแท้จริง
เราถูกฝั่งหัวมาเนิ่น ที่ว่านักการเมืองเลว ชั่ว โกงกิน (เพราะความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น ในยุคก่อนทักษิณ) แต่ทักษิณเปิดนวัตกรรมใหม่ให้ประชาชนตื่นรู้ว่าอำนาจเขาในการเลือกตั้ง สามารถเลือกคนที่ทำเพื่อเขาได้ จนทำให้พวกนักการเมืองยุคไดโนเสาร์ พ่ายแพ้อย่างราบคาบ และมองเห็นอนาคตว่าหมดทางสู้ทักษิณได้อีกต่อไป จึงเกลียดและหาวิธีโค่นล้มทุกรูปแบบ โดยไม่สนใจกติกาและความเป็นธรรม แต่ยิ่งกระทำกับทักษิณมากเท่าไร กลับยิ่งทำให้ประชาชนสงสารทักษิณมากยิ่งขึ้น โค่นทักษิณแต่ประชาชนเจ็บใจ ใช้ตุลาการเป็นเครื่องมือ ตุลาการที่เมื่อก่อนประชาชนเคยเคารพศรัทธาก็เสื่อมลง
เอาทักษิณออกจากเมืองไทยได้ แต่ไม่สามารถเอาทักษิณออกจากใจประชาชนได้ สู้อีก100ปีก็ไม่มีทางชนะทักษิณ เพราะเขาไม่รู้ตัวเองว่าเขาสู้อยู้กับประชาชน เอาอะไรมาสู้อันนั้นก็เสื่อม เอากฏหมายมาสู้กฏหมายก็เสื่อม เอาตุลาการมาสู้ตุลาการก็เสื่อม เอาองค์กรอิสละมาสู้องค์กรอิสละก็เสื่อม เราคงได้เห็นความขัดแย้งนี้ไปอีกนานแสนนาน จนกว่าพวกอภิสิทธิ์ชนจะตระหนักได้ว่าพวกเขาสู้กับประชาชนอยู่ และยอมรับความจริงว่าโลกยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปแล้วเขาควรเปลี่ยนตามโลก
10 ปี แห่งความขัดแย้งของสังคมไทย และเราอาจจะได้เห็น ได้อยู่กับความขัดแย้งนี้ตลอดไป
แต่..พอมีพรรคทรท.มาหาเสียง บอกจะมีนโยบายกองทุนหมู่บ้านๆละ 1ล้าน 7หมื่นกว่าหมู่บ้าน พักหนี้เกษตร 30บาทรักษาทุกโรค ทั้งๆที่ประเทศไทยตอนนั้น ยังเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ คุณรู้ไหมผมคิดยังไง และคุยกันกับพรรคพวกว่ายังไง ผมบอกว่า "มันโม้อีกแล้ว เดี๋ยวมันก็เงียบเหมือนๆเดิม" "เออ..ว่าแต่มันคิดแปลกแหวกแนวดี" และเป็นพรรคใหม่ ลองเลือกๆมันไป เลือกไปงั๊นๆแหร่ะไม่ได้ฝันว่าจะได้เห็นจริงตามที่มาโม้
แต่..เขาก็ทำได้ครับ ทำได้ตามที่หาเสียง ทั้งๆที่ไม่น่าจะทำได้ เพราะขณะนั้นประเทศเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟอยู่ แต่มีปัญญาพักหนี้เกษตร มีปัญญาให้กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน 7หมื่นหมู่บ้าน 7หมื่นล้าน
ซึ่งในขณะนั้นผมก็ยังไม่สนใจอะไรมาก เพราะถือว่า "ทักษิณเอ็งทำดีเอ็งทำได้" "แต่ก็แค่เอ็งทำตามหน้าที่ๆได้โม้ไว้" หากเลือกตั้งครั้งต่อไปข้าจะเลือกเอ็งแน่ๆ โดยไม่ต้องคิดมากเพราะไม่เคยมีปรากฏในอดีตที่ผ่านมา
จนมาเกิดปรากฏการสนธิลิ้ม ทองกุล ออกมาด่าทักษิณออกทีวี (ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักสนธิลิ้ม แต่ก็เคยเห็นแว๊บๆในทีวีออกมาพูดเกี่ยวกับโจรใต้ ที่ผทฟังแล้วมันทะๆเหมือนสร้างความชอบธรรมให้โจรใต้ แต่ก็ไม่ได้สนใจ) (ผมยังถามน้องชายเลยชายว่าไอ้คนนี้มันใครวะ) พอเห็นมันออกมาด่าทักษิณ ผมบอกว่าเฮ้ย...มันไม่ใช่แล้ว ที่ผ่านมากูก็ไม่เคยเห็นใครทำได้ดีเท่าทักษิณ แล้วไอ้ตัวนี้มันบ้าอะไรวะ ผมเลยเริ่มสนใจค้นหาความเป็นมา และลงลึกทางการเมืองมากขึ้น และได้รู้ข้อมูล ความดี ความเลวของแต่ละคนที่ออกมาด่าทักษิณ ตั้งแต่ยังไม่มี นปก.นปช. เสื้อแดง เสื้อเหลือง สลิ่ม
เสื้อเหลืองรักพระเจ้าอยู่หัว เกิดจากทักษิณ เสนอให้ใส่เสื้อเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดีทุกวันจันทร์ และมีประชาชนใส่จำนวนมากมายทั้งประเทศ ผมมีเป็นโหลในตอนนั้น
แต่สนธิลิ้มก็ฉวยโอกาสเอามาใช้เป็นสัญลักษณ์โคนทักษิณ โดยการแอบอ้างหลายๆอย่าง หลายๆครั้ง เพื่อจะได้มีมวลชนจำนวนมากและยังหลอกขายเสื้อเหลืองเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกด้วย
ในมุมมองผมที่เห็นปรากฏการณ์นั้นของสนธิลิ้มในตอนนั้นคือ คนรักทักษิณมากเนื่องเพราะจากผลงาน แต่คนรักในหลวงทั้งประเทศย่อมมีมากกว่า การจะโค่นทักษิณลงได้ ต้องอ้างในหลวงให้คนรักในหลวงมาชนทักษิณเท่านั้น เพราะคนรักทักษิณก็คือคนที่รักในหลวงด้วย และรักในหลวงมากกว่าทักษิณแน่ๆ แต่การที่สถาบันถูกดึงมาใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝั่งตรงข้ามบ่อยเข้า ย่อมทำให้คนรักทักษิณบางส่วนเริ่มเสื่อมศรัทธาต่อสถาบัน (แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อย) แต่คนเกลียดทักษิณก็ไม่ยอมหยุดการแอบอ้าง ซ้ำยังเหมารวมว่าฝ่ายคนรักทักษิณคือคนไม่เอาเจ้า ยิ่งสร้างความเลวร้ายและเสื่อมต่อสถาบัน กลับไม่มีใครออกมาห้ามปรามการกระทำเลวร้ายนั้น และส่วนใหญ่คนที่เกลียดทักษิณคือคนที่ถูกเป่าหูและเชื่อว่าทักษิณไม่เอาเจ้า (ผมเชื่อว่าตรงนี้มีเยอะกว่าคนที่เชื่อว่าทักษิณโกง) เพราะเขารู้ๆกันอยู่ว่าที่ผ่านๆมามันโกงกันแน่ๆชัดเจน ในส่วนทักษิณโกงมันยังไม่ชัดเจน
ผมยังมองว่าคนเสื้อแดงที่ต่อต้านสถาบัน คือเหยื่อของความขัดแย้งที่ตกหลุมพรางเข้าทาง ฝั่งตรงข้ามที่ต้องการอ้างสถาบัน ยิ่งพอมีคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านสถาบันมากขึ้น ก็ยิ่งเข้าทางเขามากขึ้น ทำให้ถูกเหมารวมว่าแดงไม่เอาเจ้า ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพียงแต่สถานการณ์ทางการเมืองบีบให้เขาเป็นไปโดยไม่รู้ตัว
ความเสียหายของสถาบัน จึงเกิดขึ้นเพราะบุคคลที่อ้างว่ารักเจ้า แล้วเอาข้ออ้างนั้นไปกดหัวศรัตรูทางการเมือง เมื่อไรผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลายที่แท้จริง จะตระหนักได้สักทีว่าการกระทำของพวกเขาคือการทำลายสถาบันโดยแท้จริง
เราถูกฝั่งหัวมาเนิ่น ที่ว่านักการเมืองเลว ชั่ว โกงกิน (เพราะความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น ในยุคก่อนทักษิณ) แต่ทักษิณเปิดนวัตกรรมใหม่ให้ประชาชนตื่นรู้ว่าอำนาจเขาในการเลือกตั้ง สามารถเลือกคนที่ทำเพื่อเขาได้ จนทำให้พวกนักการเมืองยุคไดโนเสาร์ พ่ายแพ้อย่างราบคาบ และมองเห็นอนาคตว่าหมดทางสู้ทักษิณได้อีกต่อไป จึงเกลียดและหาวิธีโค่นล้มทุกรูปแบบ โดยไม่สนใจกติกาและความเป็นธรรม แต่ยิ่งกระทำกับทักษิณมากเท่าไร กลับยิ่งทำให้ประชาชนสงสารทักษิณมากยิ่งขึ้น โค่นทักษิณแต่ประชาชนเจ็บใจ ใช้ตุลาการเป็นเครื่องมือ ตุลาการที่เมื่อก่อนประชาชนเคยเคารพศรัทธาก็เสื่อมลง
เอาทักษิณออกจากเมืองไทยได้ แต่ไม่สามารถเอาทักษิณออกจากใจประชาชนได้ สู้อีก100ปีก็ไม่มีทางชนะทักษิณ เพราะเขาไม่รู้ตัวเองว่าเขาสู้อยู้กับประชาชน เอาอะไรมาสู้อันนั้นก็เสื่อม เอากฏหมายมาสู้กฏหมายก็เสื่อม เอาตุลาการมาสู้ตุลาการก็เสื่อม เอาองค์กรอิสละมาสู้องค์กรอิสละก็เสื่อม เราคงได้เห็นความขัดแย้งนี้ไปอีกนานแสนนาน จนกว่าพวกอภิสิทธิ์ชนจะตระหนักได้ว่าพวกเขาสู้กับประชาชนอยู่ และยอมรับความจริงว่าโลกยุคใหม่ได้เปลี่ยนไปแล้วเขาควรเปลี่ยนตามโลก