เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่เมือง Sapporo มีเทศกาลหิมะ ซึ่งตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นต้นเดือนเลยจัดซะ ต้นเดือนจริงๆ บิน Thai Airasia X ไปกลับดอนเมืองนาริตะ คืนวันที่ 31 มกราคม กลับเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ได้ราคา 6900 บาท + Vanilla Air ไปกลับนาริตะ ซัปโปโร 1800 บาท
แต่จริงๆ งานเริ่มวันที่ 5 กุมภาพันธ์พอดี เงิบบบบบบบบบ แต่ไหนๆก็จองไปแล้วลุยกันเลยดีกว่า
ด๋อยหนูมิกุ ลองกล้องก่อนไป

เลิกงาน 18.00 ถึงบ้าน 18.30 กินข้าวอาบน้ำแต่งตัว 20.00 มุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง
แนะนำให้ทำ web check in มาจะดีกว่านะครับ คนเยอะมาก



ภายในสนามบินเงียบจริงๆครับ ผ่าน ตม.ใช้เวลาไม่นานเลย ต่างกับสุวรรณภูมิเยอะ

เช็คอินแล้ววันนี้ได้เกท 15 TAAX ไม่มีบัสเกทเลยครับ เดินขึ้นเครื่องชิวๆ


ระยะห่างที่นั่งกำลังดี แต่ตัวเก้าอี้พอดีตูดผมเลย (สูง 180 หนักร้อยสิบกว่าๆ ฮา)
Thai Airasia X a330 จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 ทำให้ที่นั่งแคบมาก....(หรือตัวผมใหญ่?)

อาหารบนเครื่องแอบถ่ายของคนนั่งข้างๆมาด้วย

set อาหารเช้า 190 บาท ได้ชิ้นไม่ใหญ่แบบในรูป T_T จริงๆมีน้ำส้มด้วยแต่แฟนผมยึด

ไก่เทอริยากิ 150 บาท รสชาติธรรมดาหน้าตาสวย

ถึงสนามบินนั่ง NEX 1500 yen ไปช้อปปิ้งโตเกียว


ที่นั่งกว้างมากครับ
แวะกินพิซซ่ารสชาติธรรมดาๆ แป้งบางกรอบดี ส่วนสปาเก็ตตี้อร่อยมาก สองจานนี้ไม่ถึง 2500 เยน


มีเดินขบวนอะไรสักอย่าง ที่ shinjuku แต่พอเดาได้ว่าเป็นเรื่องจับตัวประกัน เดินกันได้สุภาพเรียบร้อยมากเลย

ช้อปปิ้งเสร็จแล้วนั่งรถกลับไปสนามบินรอรถโรงแรม ผมพักที่ Toyoko inn Narita Kuko ห้อง Double Room แค่ 5100 เยน แถมห้องกว้างมาก


ตอนเย็นเผื่อใครหิว

ตอนเช้าตื่นมาเข้าสนามบิน ขนาดนั่งรถบัสโรงแรมเขายังตรวจละเอียด เดินขึ้นมาตรวจพาสปอร์ตบนรถ เปิดดูห้องเก็บของ ละเอียดมาก

ไป Narita Terminal 2 ฝั่งเดินในประเทศ Vanilla Air

มาเร็วเกิน ยังไม่เปิดให้เช็คอินเลย

ระเบียบข้อห้าม Carry on ได้ใบเดียว + กระเป๋าโน้ตบุค รวมกันไม่เกิน 10กิโล



นั่งรอ Boarding แน่นอนว่าเป็น Bus Gate



ที่นั่งจัดแบบ 3-3 เหมือนแอร์เอเชียทั่วไปครับ


Yokoso Sapporo!!




นั่งรถไฟไปสถานี Sapporo 1070 เยนแบบไม่จองที่นั่ง แต่ถ้าไม่อยากตบตีแย่งชิงกับใครแนะนำเสียค่าจองที่นั่งเพิ่ม 300 เยน





จากสถานี Sapporo จะมีทางเดินเชื่อมใต้ดินถึงบริเวณสถานี Odori เลย เดินกันยาวๆ ไป 555+




โผล่ขึ้นมาแถวนี้ กำลังตื่นเต้นกับหิมะ



สักพักหิมะตก กริ๊ดดดดดด เพิ่งเคยเจอ



แวะเข้ามาหลบหิมะที่ห้างนี้

สาวน้อยมืดมนมาโดกะ

หยิบโบร์ชัวร์มาดูหน่อย


ขึ้นไปชั้น 7 ก็เจอกับ.....

คุณมามิ.........

เอ้อ ไม่ใช่ ^^



เดินสำรวจดูรอบๆ



โดนของที่ระทึกไปเล็กน้อย ซื้อครบ(เท่าไรไม่รู้ฟังไม่ออก)ได้หมุนเสี่ยงโชค 1 ครั้ง หมุนได้กระดาษทิชชู่มาห่อนึง -_-"



เดินหลงทางแบบหิวโซขึ้นมาที่ชั้น 8 พบกับคาเฟ่มาโดกะแต่ไม่ได้เข้าเนื่องจากแฟนอยากกินบุฟเฟ่เค้กหิว เลยไปกินบุฟเฟ่แทน (น่าเสียดาย)



แวะเก็บภาพยามค่ำคืน


ตื่นเช้ามาอีกวันผมซื้อ 1 day pass แบบรวมทุกอย่าง 1000 yen เพื่อไปตามหารถไฟหนูมิกุ



แต่น่าเสียดาย ยืนรออยู่นานรถไฟหนูมิกุก็ยังไม่มา T_T

ผมเลยต้องเลือกระหว่าง รอรถไฟจนหนาวตายหรือเดินกลับสถานีเรื่อยๆ เผื่อฟลุคเจอ....แต่ก็ไม่เจอ



สุดท้ายยอมแพ้ ทนต่อความหนาวไม่ไหวเดินไปสวน Odori เก็บภาพก่อนวันงานจะเริ่ม เพราะวันงานคนน่าจะมารีวิวเยอะแล้ว แต่จริงๆคือจองวันไปผิด



คนทำนี่อวยอาสึกะรึเปล่า 55555+





เดินกลับโรงแรมไปเปลี่ยนขาก่อน เดินเยอะเกิน 555+


ต่อไป Shiroi Koibito Park ให้รูปภาพเล่าเรื่องดีกว่าครับ





เจอทัวร์คนไทยลงพอดี ถ่ายรูปยืนกันเกะกะขวางทางมาก ผมไปยืนรอจะเดินผ่านก็ยังไม่หลบ ถ่ายรูปกันไม่สนใจใคร.....แต่คนอื่นๆเที่ยวแบบเงียบๆ นิสัยดีมีเยอะครับ เสียอยู่กลุ่มเดียว ดูจากอายุแล้วน่าจะรุ่นเดียวกับผมนี่แหละ แต่ประเมินสถานการณ์แล้วมาเฟียไม่กลัว กลัวมาเยอะ 5555+ พล่ามอะไรอยู่เนื่ย

เดินผ่านร้านไอติม น่ากินมาก


อันนี้ 1290 เยน จำแม่นเลย เพราะกินจนจุก

อันนี้ Cocktail อะไรสักอย่าง กินไม่เป็นยังบ้าจี้สั่งมา สรุปกินไม่หมดครับ T_T

วิวระหว่างกินพยายามยัดฟาเฟ่ลงกระเพาะ



ภาพภายใน

ตอนเหลือบไปเห็นลินคอนผมตกใจจริงๆนะ - -




ถึงเวลากลับสถานี




เจอ ClariS ใน Animate ที่นี่สมเป็นบ้านเกิดจริงๆ ขนาดใน Matsumoto Kiyoshi ยังเปิด ClariS




เล่นเครนเกม ได้หนูมิกุมา 1 ea แต่หมดไป 900 เยน



ข้อความยาวเกินซะงั้น เดี๋ยวมาต่อ คห. ต่อไป