ตอนผมถอดนาฬิกาวางลงโต๊ะข้างเตียงมันบอกเวลาผมตีหนึ่งสิบห้านาที นี่มันล่วงมานานพอสมควร พลิกตัวไปมาผมก็ยังเหมือนนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ แม้จะข่มตาสักปานไหนก็ตาม รึสมองผมวุ่นวายสับสนกับนัดสำคัญในวันพรุ่งนี้กับก้อย เพื่อนหญิงคนสนิทจะบินจากเชียงใหม่เพื่อมาหา เจ้ากาแฟถ้วยหัวค่ำนั่นกระมังที่ง้างเปลือกตาผมไว้แบบนี้ หรือแอสไพรินสองเม็ดเมื่อตอนบ่ายมาเขย่าสมองผมให้สร่างจากไข้กันแน่ คอแห้งอยากดื่มน้ำแต่ตอนนี้ผมขยับขาทั้งสองข้างไม่ได้เลย ปลายเท้าเหมือนจมอยู่กับฟูกนุ่มหนา ซ้ำแน่นจมูกหายใจไม่สะดวก ผมเห็นแต่หน้าก้อยกับใบหน้าผู้หญิงผมยาวอีกคนมันไม่ชัดเจนนัก รปภ.อาพาร์ทเม้นท์ เพิ่งเล่าให้ผมฟังเมื่อตอนบ่ายว่าห้องที่ผมอยู่นั้นเฮี้ยนที่สุดแล้ว เพราะนักร้องสาวรุ่นคนหนึ่งถูกเสี่ยที่เลี้ยงดูเธอฆ่าตายอย่างน่าสงสาร หรือเป็นเธอมาแกล้งผม แค่ผมเก็บกวาดห้องเสียใหม่เอี่ยมเพื่อก้อย ผมโดนผีอำแน่ ๆ แต่ก็นั่นแหละทำไมต้องเป็นคืนนี้ เสียงไลน์ดังตลอดเวลา ผมพยายามเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ ทำไมมันเหมือนไกลเกินเอื้อม ผมเริ่มสวดมนต์ทุกบทที่ผมพอจำได้และกลั้นใจเอื้อมแขนไปคว้าโทรศัพท์ ได้แล้วดูสิก้อยเหมือนรับรู้ว่าผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก “โป้ง อย่านอนคว่ำหน้า เดี๋ยวภูมิแพ้กำเริบ รักนะ” ผมอ่านข้อความสุดท้ายผมก็พลิกตัวลุกขึ้นได้ ถอนหายใจหยิบน้ำมาดื่มหันมองปอกหมอนที่สกรีนรูปก้อยถ่ายกับผมตอนไว้ผมยาวแล้วขำกับตัวเอง
ภาพจาก th.aliexpress.com
เรื่องสั้นย่อหน้าเดียว : ผีอำ
ภาพจาก th.aliexpress.com