หลังจากเหตุระเบิดที่ พารากอน เมื่อหลายวันก่อน

ปรากฎว่า ผู้ว่า กทม เพิ่งไปตรวจที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ และสิ่งแรกที่เสนอความคิดคือ

จะเปลี่ยนถุงขยะสีดำให้เป็นแบบถุงใส  เพื่อความปลอดภัยของชาว กทม

http://hilight.kapook.com/view/115298


ตั้งแต่ ชายหมู มาเป็นผู้ว่า กทม นี่ก็เป็นเวลาประมาณ 7 ปี กทม เต็มไปด้วยปัญหาที่ทับถมมากขึ้นทุกที

การบริหารจัดการของ ชายหมู เป็นที่เอือมระอาของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในกรุงเทพ เรียกว่าไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรม

สำหรับผู้ว่าคนนี้ แต่คิดอีกที นี่ก็คือมาตรฐานของคนที่มาจากพรรคแมงสาบ


การแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนถุงขยะจากสีดำเป็นอย่างใส บ่งบอกถึงระดับมันสมองของผู้บริหาร กทม เป็นอย่างดี

และถ้าจะมองให้ดี กทม ก็เคยฉาวโฉ่กับเรื่องถังขยะมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อ 2 ปีก่อนที่ กทม ซื้อถังขยะในราคา

แพงจนโดนวิพากวิจารณ์มาแล้ว และในปัจจุบันนี้ ถังขยะรุ่นดังกล่าวก็แทบไม่เห็นใน กทม อีกเลย




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่า กทม หากินกับถังขยะตลอดเวลา ซึ่งยอดเงินในการจัดซื้ออยู่ในระดับ

ตัวเลขหลายร้อยล้านทุกครั้ง ซึ่งไม่เคยมีหน่วยงานใดกล้าตรวจสอบ ทั้งๆที่หลักฐานชัดเจนขนาดนี้


สุขุมพันธ์ เป็นหลานของ จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงค์เธอเจ้าฟ้า บริพัตร สุขุมพันธ์ (ซึ่งภายหลังโดนคณะราษฎร์

บีบบังคับให้ลี้ภัยไปอยู่อินโด และสิ้นพระชนม์ที่นั่น) ดังนั้น การบริหารงาน กทม ของชายหมู จึงติดความเป็นเจ้ายศเจ้าอย่าง

ตลอดเวลา เช่น เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554  ชายหมูออกสื่อประนามรัฐบาลนายก ปู หาว่ากลั่นแกล้งโดยส่ง

แฟกซ์ไปรบกวนตอนเวลา 4 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลานอนของชายหมูผู้สูงศักดิ์  ขณะที่วิกฤตน้ำท่วมคราวนั้น นายก ปู ต้องออกตรวจ

พื้นที่ถึงตี 3 ตี 4 บ่อยๆ


ระดับสติปัญญาของชายหมู เป็นที่น่าสงสัยตลอดเวลา จนคนส่วนใหญ่เรียกชายหมูว่า "ชายเอ๋อ" ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ

เมื่อตอนที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพ "ฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งที่ 7" กทม ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ต้องสร้างสนามใหม่มารองรับ

แต่สุดท้าย กทม ก็ทำเรื่องอัปยศให้กับคนทั้งชาติ เมื่อสร้างสนามไม่เสร็จ จนฟีฟ่าต้องสั่งเปลี่ยนสนามแข่ง

แทนที่ ชายหมู จะสำนึก กลับโวยวายไปที่ฟีฟ่าว่าไม่ให้เกียรติ แถมยังลำเลิกบุญคุณกับฟีฟ่า ทำนองว่า "ถ้าไม่มี

กทม เป็นเจ้าภาพก็ไม่มีการแข่งขันครั้งนี้ เล่นเอาฟีฟ่าถึงกับกุมขมับร้อง  "O M G" และยิ่งไปกว่านั้น ชายหมู ยังกล่าว

วาจาให้คน กทม ได้ภาคภูมิใจมาถึงทุกวันนี้ว่า " กทม สร้างสนามให้คนไทย ไม่ใช่ฟีฟ่า"




แม้แต่ จขกท ที่เป็นชาว กทม ยังอดปลาบปลื้มไม่ได้ ว่าแต่สนามที่ เอ๋อ จะสร้างให้ตอนนี้ทำไมยังไม่เสร็จ


นี่ยังไม่นับเรื่องการต่อสัญญา BTS ไป 30 ปีทั้งๆที่ยังเหลือระยะเวลาของสัญญาอีกถึง 17 ปี (คดีนี้เงียบอีกตามเคย)


ก.ท.ม เป็นมหานคร เป็นเมืองใหญ่ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ควรมีผู้ว่าที่เก่งกาจสามารถ แต่ที่ผ่านมาถือเป็นคราว

เคราะห์ของชาว กทม ที่ได้ผู้ว่าอย่างชายหมู ทั้งๆที่ผู้ว่าคนนี้ถ้าจะว่ากันจริงๆ หาคนนิยมน้อยมาก มีแต่พวกดักดาน

กับพวกได้ประโยชน์จากผู้ว่าสติปัญญาน้อยคนนี้ ที่เห็นชัดที่สุดคือการเลือกตั้งผู้ว่า กทม ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2556

โพลทุกสำนักต่างชี้ว่า พงศพัศ จากเพื่อไทยจะได้รับเลือก แต่เมื่อก่อนวันเลือกตั้ง 2-3 วัน แมงสาบได้ใช้

วิชามารปล่อยข่าวลือว่า "เพื่อไทยจะให้ จตุพร มาเป็นรองผู้ว่า สถานการณ์จึงพลิกผัน ชายหมูจึงได้เป็นผู้ว่า (ไม่ใช่คนชอบ

แต่เป็นคนเกลียดและกลัว จตุพร)


ชายหมูเคยพูดวลีตอนหาเสียงว่า "อย่าดูถูกตรู"




แต่ จขกท อยากบอกชายหมูว่า "จนถึงทุกวันนี้ ตรูก็ยังจะดูถูกมุง" เพราะมุงเป็นผู้ว่าที่เป็นสัญญลักษณ์

ของความอัปยศของชาว กทม"


ป.ล ที่ทำการแบงค์ชาติที่เรียกว่า "วังบางขุนพรหม" ก็เป็นสมบัติของตระกูล บริพัตร



แต่โดนคณะราษฏร์ยึดไป