ในอดีตสมัยโสเครตีส
     โสเครตีสเป็นนักปรัชญาที่สำคัญของตะวันตก โสเครตีสถามในสิ่งที่ทุกคนชินชา อันเกิดจากกระบวนการเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ในตอนทารก หรือเด็กเมื่อเราเห็นอะไรแปลกประหลาด เราก็สนุก สงสัย ไปกับมัน แต่เมื่อเราโตขึ้นเรากับชินชากับสิ่งเหล่านั้นและเลิกสนใจ
ชาติคืออะไร? ความงามคืออะไร? โลกคืออะไร? การถามของโสเครตีสนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนเริ่มหันมาสนใจปรัชญามากขึ้น
แต่ด้วยการถามที่ไม่หยุด ทำให้โสเครตีสถูกตัดสินประหารชีวิต ข้อหา 1.ทำให้เด็กในเอเธนส์เสียคน 2.ไม่เข้าร่วมศาสนกิจของเอเธนส์
โดยการให้ดื่มไวน์ผสมยาพิษ สหายของโสเครติคนหนึ่งบอกโสเครติสว่าจะพาหนี แต่โสเครตีสบอกเขาว่า ถ้ากฎหมายที่มีอยู่ทำให้พ่อแม่ของเขามีชีวิตอยู่ได้
เขาก็ยินดีที่จะทำตามกฎหมาย(สมัยนั้นเอเธนส์มีกฎหมายแปลกๆเยอะ เช่น มีการโหวตไล่คนออกจากเมือง เธมิสโตเคิลแม่ทัพกรีกครั้นศึกซาลามิสเอง
หลังซาลามิส10ปีก็ถูกโหวตไล่ออกจากเมืองเธมิสโตเคิลจึงย้ายไปอยู่เปอร์เซีย -- ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร)
โสเครตีสจึงดื่มไวน์องุ่นผสมยามพิษและเสียชีวิตลงในคุก เพลโตตัดสินใจเลิกเป็นนักการเมืองมาเป็นนักปรัชญา
     เพลโตเป็นศิษย์เอกของโสเครตีส เพลโตเชื่อว่าการปกครองที่ดีทึ่สุดต้องปกครองโดยราชาปราชญ์ Philosopher King เพลโตจึงตามหาแต่ก็ไม่เจอ ในบั้นทายของชีวิต เพลโตหันมาสนใจกฎหมาย มีแนวคิดว่า คนทุกคนควรถูกปกครองด้วยกฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะชนชั้นไหน
เพลโตเชื่อว่าความจริงคือสิ่งที่อยู่ข้างบน คือ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่ เช่นวงกลม ต่อให้เราวาดวงกลมกลมแค่ไหนแต่มันก็ยังมีส่วนที่ไม่กลม
เข้าใจง่ายๆคือ มันมีแบบแผนของวงกลมอยู่แล้ว คนจึงทำตาม หลักการคิดของเพลโตส่วนใหญ่ใช้ตรรกะ หรือการคิดแบบเหตุผล
     อริสโตเติล ลูกศิษย์ของเพลโต อาจารย์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช สืบต่อเรื่องกฎหมายจากเพลโต อริสโตเติลเชื่อว่าความจริงคือสิ่งที่รับได้
จากผัสสะ(ประสาทสัมผัสทั้ง5)

//ขอแท็กศาสนาด้วยนะครับ เพราะคำสอนของเพลโต และอริสโตเติล จะถูกนำไปใช้เกี่ยวกับศาสนาในตอนถัดไป
ปล.ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขอโทษด้วยนะครับ