สวัสดีครับ เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนรีวิวท่องเที่ยวนะครับผม เนื่องจากตัวผมเองไม่เคยได้มีโอกาสเดินทางไปภาคเหนือเลย มีวันหนึ่งได้เกิดต่อมความอยากของผมเองจากรูมเมทที่มันเคยไปเหนือมาคนเดียวแล้วมาเล่าให้ฟัง ยังไงดีละ ทีนี้ก็อยากเลย จึงตัดสินใจว่าปลายปีต้องไปให้ได้ครับ .

IG : CATCHAOAH
https://www.facebook.com/danunai.thaidumrong
danunaio.vsco.co



จะบอกว่าไม่ตื่นเต้นเลยครับ ก่อนไปหนึ่งวันได้มีการซ้อมกางเต๊นในหอพักด้วย 555



หลังจากที่เราได้ตัดสินใจว่าจะไปก็ได้วางแผนกับเพื่อนๆและหาเพื่อนร่วมทริปครับผม ซึ่งสรุปมากันทั้งหมดรวมผมแล้ว 6 คน พอดี ผมได้คุยกะรูมเมทว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง ปรึกษากันจนได้สรุปว่าเราจะไปอินทนนด์ 2 คืน ปาย 2 คืน และตัวเชียงใหม่ 1 คืน การเดินทางเป็นมอเตอร์ไซด์ล้วนๆจนจบทริปครับ จากนั้นก็ได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางจาก กทม ด้วยภาวะที่อยากลุยมาก และอยากลองที่สุด นั่นก็คือรถไฟฟรีครับ (เห็นเค้าบอกว่าโหด อิอิ จัดสิรอไรละ) เนื่องจากสรุปกันในกลุ่มแล้ว มีผู้ร่วมเดินทางไปรถไฟฟรีกับเราจำนวน 4 คนครับรวมผมแล้ว ส่วนอีก 2 คน จะนั่งเครื่องตามไปตอนเช้าเนื่องจากติดสอบพอดิบพอดี (แอบคิดในใจอยากให้มันมาลองรถไฟฟรีแบบเรานะ 5555)  เราไม่รอช้าครับ เดินทางไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ถึงที่สถานีตอนเวลา 11.30 ครับ รถไฟออกจากสถานี เวลา 12.45 ครับ ไปถึงก็ไม่รอช้า หาข้าวกินด่วน หิวมากกกก จากนั้นพอถึงเวลาก็หาซื้อของเป็นเสบียงไว้ครับ ผมไม่รู้ว่ามันจะมีของขายบนรถไฟตลอดไหม ซื้อไปซื้อมาดูเวลาอีกที 12.40 ผมนี่วิ่งเลย


ทุกคนล้วนมาเพื่อสิ่งเดียวครับ นั่นคือจุดหมายปลายทาง ผมชอบนะ ทำให้การนั่งรถไฟฟรีของผมรู้สึกดีมาก เด่วๆ แค่ช่วงนี้นะ 555555

ช่วงเวลาต่างๆกำลังดำเนินไปเรื่อยๆครับ รู้ว่านั่งมาจนถึงเวลาประมาน บ่าย 3 แล้ว อากาศก็เริ่มเยนๆแล้วครับผม

นั่งสักพักจนรู้สึกหิวข้าวครับ คราวนี้ทางพี่ที่คุมขบวนบอกว่ามีตู้อาหารมีอาหารตามสั่งที่ตู้ด้านหน้าใครหิวก็ไปได้ เราเลยชวนเพื่อนไป พอนั่งเค้าก็เอาเมนูมาให้ อ่านไปอ่านมา เห็นราคาแล้วช็อคเลยครับ นั่งมองหน้ากันทำตาปริบๆ แต่ด้วยการที่เค้ามายืนรอรับเมนูอยู่ทำให้เราตัดสินใจจากเค้าไมไ่ด้เลย 5555 จึงทำการสั่งไปเป็นที่เรียบร้อย (สั่งไปจานเดียวกินสองคนครับ อิอิ) พอข้าวที่สั่งมา ผมยิ่งทำตาปริบๆใส่เพื่อนมากขึ้นอีก 5555 เราได้แต่ว่าข้าวมื้อนี้ (คงเป็นมื้อสุดท้าย บนขบวนนี้ 55 ) ในระหว่างที่กิน รถไฟได้ไปจอดเปลี่ยนขบวนมั้งครับถ้าไม่ผิดนะครับ ผมเลยกินไปน้อยมาก เหลือด้วย (ยังคงเสียดาย) ข้าวจานนี้ราคา 90 บาท ครับ ผมไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นมันแพงไหม สำหรับผมคือสุดตีน ผมนี่พีคคเช๊ยะ ก่อนเดินลงรถไฟยังหันมามองอีกรอบ 555 (เข้าใจนะครับทริปนี้ต้องประหยัดสุดๆ)

จอดที่สถานีรถไฟเนินมะกอกครับ

ค่อยๆเริ่มค่ำแล้วครับ รู้สึกได้ถึงความหนาวเลย มีเพื่อนบอกว่า ช่วงตี 4 จะหงิก ผมก็ได้ มาเลย อยากเจอ คือเก่งไง มาเหนือต้องเจอหนาวๆไรงี้ ผมหลับๆตื่นๆครับ เดินไปเดินมา เปิดโทรศัพย์ดูสถานีว่าเหลืออีกกี่สถานี ตอนนี้เรามาจอดที่ อุตรดิตถ์ ครับ เหมือนจะครึ่งทางแต่พอเปิดแผนที่เท่านั้นและ ...


บอกเลยอิจฉาลุงมาก อยากหลับสบายๆแบบนั้นบ้าง 555 แล้วพอเข้าเขตลำปาง สิ่งที่เพื่อนผมบอกมันก็ได้เกิดขึ้นจริงๆครับ ช่วงเวลาตี 4 กว่าๆ ระดับความหนาวประมาน -12000 องศาได้ ถุ้ย! เอาเป็นว่าหนาว ย ขนาดทุกคนร่วมใจกันปิดหน้าต่างของตัวเองกันแล้วยังมีลมอันน้อยนิดทะลุทลวงเข้ามาอีก ดีงามมากครับ จำช่วงเวลานั้นได้เลยครับ รู้ซึ้งเลย ทรมานสุดๆ เพื่อนที่ไปด้วยกันมันถามผมว่าไมไม่เอาเสื้อกันหนาวมาใส่ผมบอกไปอย่างแมนๆว่า อยากจะเจอความหนาวทั้งที กลัวที่ไหน (ในใจนี่ไม่ไหวแล้วครับไอ้ 55) จากนั้นสักพักเราได้เข้าสู่สถานีเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยครับ ประมาน ตี 5 กว่าๆโดนประมาน



หลังจากที่เราได้ทำภารกิจส่วนตัวหาความอุ่นใส่ร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็ได้มีโอกาสจัดภาพแรกที่เชียงใหม่เลยครับ ฮิปสเตอร์เบาๆ
จากนั้นเราก็นั่งรถแดงไปร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ครับ ร้านอยู่แถวๆอาเขตเลยครับ เราทำสัญญาเช่ารถกับทางร้านและจ่ายเงินจนเสร็จสิ้น (โปรดเช็คสภาพรถก่อนด้วยนะครับ) แวะเติมแปป เอ่ย เติมน้ำมันครับ จขกท เป็นคนเฮฮานะครับ 5555  พอเราเต็มน้ำมันเสร็จได้เวลาออกเดินทางครับ โดยกำหนดเวลาว่าต้องถึงอินทนนท์ก่อน 6โมงเยน เราออกจากอาเขต เวลาประมาน 11 โมงได้ เส้นทางนี้ GPS นำทางล้วนๆ



เห็นรูปนี้ทีไรนึกถึงเลยครับ อยู่ด้วยกันมาตลอดทริป สิ่งของบางสิ่งถ้าเราได้อยู่ด้วยกันหรือเดินทางไปด้วยกัน ย่อมมีความผูกพันเสมอครับ (ลูกชาย 55)
หลังจากที่เราได้ลุยกัน  บอกเลยหน้าไหม้ครับ 555 แดดพอได้เลย เราได้แวะดอยสุเทพไปไหว้พระขอพรกันก่อนครับ บอกเลยตื่นเต้นครับไม่เคยมาเลย 55555



จากที่เราได้ไหว้พระเสร็จ แว๊นขึ้นไปต่อที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ครับ




พอได้เวลาเราก็ออกจากดอยสุเทพแล้วมุ่งหน้าสู่อินทนนท์เลยครับ บิดหน้าตั้งเลยครับ 555  เราถึงอินทนนท์ประมาน 5โมงกว่าๆครับช่วงนี้หน้าหนาวค่ำเร็วด้วยครับต้องรีบหาที่กางเต๊นกัน เราเลยสรุปว่าจะไปที่ดอยชัวร์ญ่า ดูจากในรีวิวก่อนมาด้วย พอถึงก็จ่ายเงินเสร็จสิ้นรีบไปหาที่กางเต๊นเลย การหาทำเลนี่ยากๆกับการหาแฟนเลยนะครับ ท่ดๆ เราเลือกทำเลที่เห็นภูเขากว้างๆเลยครับผม


ที่ดอยจะมีหมูกระทะขายครับ ราคาก็ถาดเล็ก 360 ถาดใหญ่ 500 บาท เราก็จัดใหญ่มาเลยสำหรับค่ำคืนนี้ ก่อนมาถึงอินทนนท์ได้แวะซื้อเบียป๋องมาด้วย 5555 เปรมเลยครับ อากาศเย็นมาก  บรรยายไม่ถูกจริงๆ

จากนั้น ก็ขึ้นมาที่ กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ สวยมากครับ ตอนขึ้นอย่างเหนื่อย ขึ้นมาหายเหนื่อยเลยครับ

จากนั้นฟิตร่างกายกันให้พร้อมครับ เดินไปหาเจ้าหน้าที่ แต่เหมือนเจ้าหน้าที่ไม่พอ เค้าเลยให้พวกผมเดินขึ้นตามทางไปเลยครับ พอดีเพื่อนที่มากับผมเค้าแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้าที่พอดีผมเลยให้มันนำครับ 55555



สวยมากครับ เป็นการเที่ยวที่คุ้มมาก หายเหนื่อยจริงๆครับ การที่ให้ตัวเองได้ออกจากความวุ่นวาย บางทีทำให้มีกำลังใจในการทำงานต่อไปนะครับ




มาถึงจนได้ครับ อิอิ

จากนั้นเราได้แวะ พระมหาธาตุนภเมทนีดล สวยงามอีกเช่นกันครับ ตามลำดับครับ ได้แว๊นกันลงมานอนพักที่ดอยชัวญ่าอีก 1 คืน เก็บแรงไว้สำหรับการเดินทางที่โหด เสียว สู่การเดินทางไป ปาย ครับผม .

ตื่นขึ้นมา หนาวมากครับ ไม่รู้จะบอกเช่นไร เอาเป็นว่าวาปมาตอนกินมื้อเช้าเลยครับ เราเดินทางจากดอยอินทนนท์ มาสู่ชานเมืองเชียงใหม่ครับ เห็นร้านนี้คนเยอะครับ เลยจัด แวะเลยย ต่างคนต่างสั่งครับ หร่อยเลยยยย


หลังจากทานเสร็จก็ลุยเลยครับ แว๊นกันยาวๆ ดำกันแน่นอนครับ 555



จากนั้นลุยกันยาวครับกับโค้ง 1,864 ครับ เอาให้อ้วกก 55 จนมาถึงจนได้ครับ เลยดิ่งตรงไปที่พักที่ได้ทำการจองไว้แล้วครับ


ต่างคนต่างกางเต๊นกันเสร็จเลยได้เวลาทัวปายครับ มีถนนคนเดินพอดีเลยครับ เลยแว๊นท่อบูมกันไปหาเลยครับ

เดินอยู่ประมาน 2 ชม.ได้ แวะซื้อพวกเห็ดมาย่างกินกันที่เต๊นด้วยครับ ช่วงนี้ช่วงพีคครับ เงินเริ่มหมด 55 ต้องประหยัด

ตื่นเช้าอีกวันก็แว๊นกันต่อครับ หาวัดที่ใกล้ๆที่พักครับถามเจ้าของที่พักด้ว แค่ได้มีโอกาสไปไหว้ก็ดีใจมากๆครับ


ไม่รอช้าไปกันต่อที่ หมู่บ้านสันติชล ชุนชุนจีนยูนนานแห่งอำเภอปาย .


ข้อความครบแล้วครับเด่วพิมต่อด้านล่างครับ .