ทฤษฎีขึ้นกับความจำของแต่ละคนค่ะ ท่องๆจำๆเอาหน่อยก็เต็มได้ไม่ยากค่ะ
บางที่มีขายหนังสือข้อสอบด้วยค่ะ เราก็ซื้อ 50 บาท ได้คะแนนเต็มเลย

ปัญหาอยู่ที่สอบปฏิบัติค่ะ
เราสอบครั้งแรกตกทุกท่าค่ะ เพราะว่าตอนซ้อมเราได้หมดทำได้ดีเลยประมาทค่ะ
พอขับเข้าสนามเจอคนคุมสอบโหวกเหวกยิ่งไม่มีสมาธิ
พอเค้าเห็นเราเสียสมาธิเค้าจะพูดเร่งและกดดัน เราก็จะลนและรีบ ทำให้ทำผิดค่ะ

แต่หลังจากนั้นหลายเดือนเราไปสอบใหม่ เปลี่ยนที่สอบ
ไปคนเดียวไม่ได้ซ้อมขับเลย แค่ทบทวนสเต็ปให้แม่นก็ผ่านค่ะ
พอดีว่ารถที่เคยหัดกับรถเช่าของขนส่งเป็นรถเล็กเหมือนกัน ระยะเลยเท่าๆกันค่ะ

สำคัญที่สุดก่อนสอบปฏิบัติคือก่อนสตาร์ทรถ ต้องปรับเบาะ ปรับกระจกข้างกระจกมองหลัง คาดเข็มขัดให้พร้อมก่อนค่ะ
ถ้ามีเวลาลองเดินดูสนามก่อนก็ได้ค่ะว่าเราต้องเริ่มขับจากตรงไหนไปเลี้ยวตรงไหน
แต่ละด่านอยู่ตรงไหน ลองจำลองเส้นทางว่าต้องขับจากไหนไปไหน
คิดล่วงหน้าว่าด่านต่อไปเป็นอะไรแล้วตั้งต้นรถให้ดี ให้พร้อมจะเลี้ยวเข้าจอดหรือเทียบ
หักพวงมาลัยตอนไหน เปลี่ยนเกียร์เมื่อไร

อีกข้อคือ ควรเลือกวันให้ดีๆค่ะ ถ้าเป็นไปได้อย่าไปวันฝนตก
สนามสอบกลางแจ้ง ฝนตก แต่เราต้องเปิดกระจกคนที่สอบครั้งแรกจะพะวง
สนามก็ไม่คุ้น ฝนก็ตก กระจกก็มองไม่ชัด น้ำท่วมไม่เห็นเส้น บลาๆ

สุดท้ายคือ นิ่งๆไว้ค่ะ ถ้าเราผิดหรือพลาดนิดนึงก็นิ่งๆ อย่าโวยวาย อย่าลนค่ะ
เจ้าหน้าที่เค้าดูอยู่ ถ้าเสาล้มเราตกอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ล้ม บางทีเฉียดเส้นนิดนึง
ถ้าเรานิ่งๆไว้บางทีแอบมีลุ้น เค้าอาจจะให้เราผ่านค่ะ
แต่ถ้าเราโวยวายหรือออกอาการลุกลี้ลุกลน เจ้าหน้าที่จะมองว่าเรายังพร้อมพอจะขับรถ
เค้าก็จะเซ็นให้เราตกให้เรากลับไปฝึกมาใหม่ค่ะ