The Imitation Game เป็นหนังที่มีส่วนผสมหลายๆอย่างที่เล่าเรื่องออกมาได้ลงตัวอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาตัวละครอย่าง อลัน ทัวริ่ง นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะผู้ไขรหัสโค้ดเครื่องส่งสาสน์ลับ อีนิกม่า ของเยอรมันได้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และต้องปกปิดความลับว่าเขามีรสนิยมรักร่วมเพศ หนังยังมีโทนความเป็นหนังสายลับ ในการใช้สมองขบคิดแก้ไขปัญหา และบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจในรัฐบาลที่อาจมีคนทรยศแฝงตัวอยู่ นอกจากนี้ยังมีความโรมานซ์ทั้งเรื่องราวของ ชายรักหญิง หรือชายรักชาย ที่เล่าออกมาได้อย่างลึกซึ้ง และแนบเนียนไปกับเนื้อเรื่องอย่างไม่มีสะดุด รวมถึงมีฉากตลกน่ารักๆ ที่ซ่อนมากับบทภาพยนตร์ที่ชาญฉลาด
ทั้งหมดนี้ทำให้แม้เนื้อแท้ของหนังคือหนังดราม่า แต่ก็มีความสนุก ตื่นเต้นซ่อนอยู่ตลอดเรื่อง การแสดงของนักแสดงนำอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม รอลุ้นรางวัลออสการ์ได้เลย หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างอดีตกับัจจุบัน ถึงสามช่วง แต่ก็ไม่สับสน คนดูตามเรื่องราวได้ง่าย หากแต่ว่าเรื่องราวในแต่ละช่วงเวลายังดูไม่ค่อยเชื่อมต่อกันเท่าไร นอกจากนี้เรื่องราวในส่วนของวิธีการถอดรหัสเครื่องอีนิกม่า หนังเล่าส่วนนี้ออกมารวบรัดเกินไปหน่อย คนดูรู้เแค่ว่าพระเอกเป็นอัจฉริยะด้านการไขปัญหายากๆ และทุ่มเทให้กับการทำงานมาก แต่ไม่รู้ว่าการถอดรหัสแบบนี้มันต้องมีขั้นตอนหรือวิธีการแบบไหน ถ้าเล่าออกมาแบบมีข้อมูลการทำงานของทีมถอดรหัสอีนิกม่าที่ละเอียดมากกว่านี้ หนังน่าจะออกมาตื่นเต้นได้อีก
ในส่วนของประเด็นยากๆอย่างเรื่องรักร่วมเพศ หนังก็เล่าเรื่องแบบปลอดภัยไว้ก่อน คือไม่ได้ขุดคุ้ยหรือตีแผ่อะไรให้ลึกซึ้งมาก แค่พอบรรยายถึงความลำบากของตัวละครที่ต้องพยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้ ท่ามกลางบรรยากาศสังคมแนวอนุรักษ์นิยมของอังกฤษในสมัยนั้น ซึ่งนักแสดงก็สามารถถ่ายทอดตรงจุดนี้ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
โดยรวมนี่คือหนังคุณภาพดี ที่เล่าเรื่องสนุกและมีครบทุกรสชาติครับ
3 ดาวครึ่ง (จาก 5 ดาวเต็ม)
ติดตามชมข่าวคราวหนังใหม่ และพูดคุยกันเรื่องหนังได้ที่ facebook แฟนเพจ ตามลิงค์นี้นะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "The Imitation Game" หนังดราม่าแต่ดูสนุก ของการไขรหัสยากๆ โดยคนที่เข้าใจยากๆ
ทั้งหมดนี้ทำให้แม้เนื้อแท้ของหนังคือหนังดราม่า แต่ก็มีความสนุก ตื่นเต้นซ่อนอยู่ตลอดเรื่อง การแสดงของนักแสดงนำอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม รอลุ้นรางวัลออสการ์ได้เลย หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างอดีตกับัจจุบัน ถึงสามช่วง แต่ก็ไม่สับสน คนดูตามเรื่องราวได้ง่าย หากแต่ว่าเรื่องราวในแต่ละช่วงเวลายังดูไม่ค่อยเชื่อมต่อกันเท่าไร นอกจากนี้เรื่องราวในส่วนของวิธีการถอดรหัสเครื่องอีนิกม่า หนังเล่าส่วนนี้ออกมารวบรัดเกินไปหน่อย คนดูรู้เแค่ว่าพระเอกเป็นอัจฉริยะด้านการไขปัญหายากๆ และทุ่มเทให้กับการทำงานมาก แต่ไม่รู้ว่าการถอดรหัสแบบนี้มันต้องมีขั้นตอนหรือวิธีการแบบไหน ถ้าเล่าออกมาแบบมีข้อมูลการทำงานของทีมถอดรหัสอีนิกม่าที่ละเอียดมากกว่านี้ หนังน่าจะออกมาตื่นเต้นได้อีก
ในส่วนของประเด็นยากๆอย่างเรื่องรักร่วมเพศ หนังก็เล่าเรื่องแบบปลอดภัยไว้ก่อน คือไม่ได้ขุดคุ้ยหรือตีแผ่อะไรให้ลึกซึ้งมาก แค่พอบรรยายถึงความลำบากของตัวละครที่ต้องพยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้ ท่ามกลางบรรยากาศสังคมแนวอนุรักษ์นิยมของอังกฤษในสมัยนั้น ซึ่งนักแสดงก็สามารถถ่ายทอดตรงจุดนี้ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
โดยรวมนี่คือหนังคุณภาพดี ที่เล่าเรื่องสนุกและมีครบทุกรสชาติครับ
3 ดาวครึ่ง (จาก 5 ดาวเต็ม)
ติดตามชมข่าวคราวหนังใหม่ และพูดคุยกันเรื่องหนังได้ที่ facebook แฟนเพจ ตามลิงค์นี้นะครับ https://www.facebook.com/moviepolice