ในวันเสาร์ ที่ 31 มกราคม 2558 เราและเพื่อนอีก 4 คนได้เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7208 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง
เวลา 06.20 น. ถึง สนามบินสุราษฎร์ธานี เวลา 07.25 น. เพื่อเดินทางต่อไปยังเขื่อนรัชประภา โดยนั่งในหมายเลขที่นั่ง 53A-53B และ 54A-54C ระหว่างการเดินทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจทุกอย่าง และเมื่อเครื่อง Landing ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ขณะที่กำลังจะหยิบกระเป๋า
เพื่อลงจากเครื่อง ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือ IPhone 5S ได้หายไป (เรานั่งในหมายเลขที่นั่ง 53B) จากกระเป๋าเสื้อคลุมที่ใส่โทรศัพท์ไว้ทางด้านขวา
(ติดกับผู้โดยสารอีกท่าน ที่นั่งในหมายเลขที่นั่ง 53C : เป็นการระบุตำแหน่งให้เห็นได้ชัดเจนเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าผู้โดยสารท่านนี้เป็นผู้หยิบติดไป)
และช่วงโชคร้ายกว่านั้นอีกคือเราไม่ได้เปิดโปรแกรม Find my IPhone ไว้ ช่วงเวลาที่มือถือหายไปนั้นอยู่ในช่วงที่เครื่อง Landing เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเข้าไปจอดเพื่อให้ผู้โดยสารทุกท่านลงจากเครื่องบิน เพราะหลังจาก Landing เราได้หยิบโทรศัพท์มาเพื่อเปิดเครื่อง (แต่ยังเปิดเป็น Airplane Mode ไว้) ก่อนที่จะเก็บใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม เนื่องจากตลอดการเดินทางก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อนี้ หลังจากทราบว่าโทรศัพท์หายไปก็ได้แจ้งให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทราบ ในขณะนั้นผู้โดยสารมากกว่า 80% ยังไม่ได้ลงจากเครื่อง ยกเว้นผู้โดยสารที่นั่งติดกับเรา (ถึงตรงนี้เราสงสัยผู้โดยสารท่านนี้มากๆ) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้ช่วยกันค้นหาบนเครื่องบินแต่ไม่เจอ เราจึงได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินด้านล่าง เพื่อให้ตรวจดูที่ผู้โดยสารท่านอื่นๆ และผู้โดยสารที่นั่งในหมายเลขที่นั่ง 53C โดยที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินด้านล่างให้เราเลย ยอมรับว่ารู้สึกแย่มากๆ กับการทำงานของสายการบินเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของสายการบินไม่ได้ช่วยเหลือประสานงานใดๆ กับเราทั้งสิ้น ทุกอย่างเราต้องติดต่อเองทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ทุกคนแทบจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ขัดกับนโยบายทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้มจริงๆ โดยเจ้าหน้าแจ้งว่าทางสายการบินไม่สามารถค้นตัวผู้โดยสารและเปิดเผยข้อมูลของผู้โดยสารได้ (อันนี้เราก็พยายามเข้าใจแต่คิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะช่วยเหลืออะไรเราได้มากกว่านี้) โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันต้องดำเนินการทำเรื่องอีกเยอะแยะมากมาย อีกอย่างนึงคือเราต้องเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่อยากให้เพื่อนๆ ที่มาด้วยต้องเสียเวลา และรู้สึกไม่สนุก ไม่ประทับใจกับการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้มีเราเป็นผู้ดำเนินการจัดทริปท่องเที่ยว แม้ตัวเราเองจะเป็นคนสุราษฎร์ธานีโดยกำเนิดยังไม่ประทับใจกับการบริการของท่าน (นี่เป็นการเดินทางไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีครั้งแรกของเรา เนื่องจากบ้านของเราอยู่ใกล้การบริการของสนามบินกระบี่มากกว่า ปกติหากจะเดินทางกลับบ้านเราจะเดินทางไปลงที่สนามบินกระบี่) แล้วผู้โดยสารท่านอื่นๆ ล่ะ ถ้าเค้าต้องการความช่วยเหลือ ท่านจะปฏิบัติอย่างไร.? จะช่วยเหลือเค้าได้เต็มที่หรือไม่.?
รบกวนฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นำไปพิจารณาแก้ไข เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารท่านอื่นๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ดูแล้วไม่มีความเป็นมิตรและไม่มีความเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้โดยสารเอาเสียเลย
ปล. หากเรื่องราวของเรานี้ได้รับรู้ไปถึงผู้ใหญ่ของสายการบินนกแอร์ เราขอให้ท่านได้นำไปแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ในโอกาสต่อไปเราก็ยังคงจะใช้บริการของสายการบินนกแอร์ต่อไปหากมีโอกาส และเราจะนำประสบการณ์จากการเดินทางครั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางครั้งต่อไป เพราะไม่ว่าท่านจะเดินทางด้วยวิธีการที่ปลอดภัยมากแค่ไหน มิชฉาชีพก็มีอยู่ในทุกๆ ที่
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่สละเวลาอ่านเรื่องราวนี้จนจบ...
IPhone 5S หายบนเครื่องบิน สายการบิน (นกแอร์) จะรับผิดชอบหรือไม่.?
เวลา 06.20 น. ถึง สนามบินสุราษฎร์ธานี เวลา 07.25 น. เพื่อเดินทางต่อไปยังเขื่อนรัชประภา โดยนั่งในหมายเลขที่นั่ง 53A-53B และ 54A-54C ระหว่างการเดินทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความประทับใจทุกอย่าง และเมื่อเครื่อง Landing ที่สนามบินสุราษฎร์ธานี ขณะที่กำลังจะหยิบกระเป๋า
เพื่อลงจากเครื่อง ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือ IPhone 5S ได้หายไป (เรานั่งในหมายเลขที่นั่ง 53B) จากกระเป๋าเสื้อคลุมที่ใส่โทรศัพท์ไว้ทางด้านขวา
(ติดกับผู้โดยสารอีกท่าน ที่นั่งในหมายเลขที่นั่ง 53C : เป็นการระบุตำแหน่งให้เห็นได้ชัดเจนเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าผู้โดยสารท่านนี้เป็นผู้หยิบติดไป)
และช่วงโชคร้ายกว่านั้นอีกคือเราไม่ได้เปิดโปรแกรม Find my IPhone ไว้ ช่วงเวลาที่มือถือหายไปนั้นอยู่ในช่วงที่เครื่อง Landing เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเข้าไปจอดเพื่อให้ผู้โดยสารทุกท่านลงจากเครื่องบิน เพราะหลังจาก Landing เราได้หยิบโทรศัพท์มาเพื่อเปิดเครื่อง (แต่ยังเปิดเป็น Airplane Mode ไว้) ก่อนที่จะเก็บใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม เนื่องจากตลอดการเดินทางก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อนี้ หลังจากทราบว่าโทรศัพท์หายไปก็ได้แจ้งให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทราบ ในขณะนั้นผู้โดยสารมากกว่า 80% ยังไม่ได้ลงจากเครื่อง ยกเว้นผู้โดยสารที่นั่งติดกับเรา (ถึงตรงนี้เราสงสัยผู้โดยสารท่านนี้มากๆ) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้ช่วยกันค้นหาบนเครื่องบินแต่ไม่เจอ เราจึงได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินด้านล่าง เพื่อให้ตรวจดูที่ผู้โดยสารท่านอื่นๆ และผู้โดยสารที่นั่งในหมายเลขที่นั่ง 53C โดยที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินด้านล่างให้เราเลย ยอมรับว่ารู้สึกแย่มากๆ กับการทำงานของสายการบินเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของสายการบินไม่ได้ช่วยเหลือประสานงานใดๆ กับเราทั้งสิ้น ทุกอย่างเราต้องติดต่อเองทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ทุกคนแทบจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ขัดกับนโยบายทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้มจริงๆ โดยเจ้าหน้าแจ้งว่าทางสายการบินไม่สามารถค้นตัวผู้โดยสารและเปิดเผยข้อมูลของผู้โดยสารได้ (อันนี้เราก็พยายามเข้าใจแต่คิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะช่วยเหลืออะไรเราได้มากกว่านี้) โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันต้องดำเนินการทำเรื่องอีกเยอะแยะมากมาย อีกอย่างนึงคือเราต้องเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่อยากให้เพื่อนๆ ที่มาด้วยต้องเสียเวลา และรู้สึกไม่สนุก ไม่ประทับใจกับการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้มีเราเป็นผู้ดำเนินการจัดทริปท่องเที่ยว แม้ตัวเราเองจะเป็นคนสุราษฎร์ธานีโดยกำเนิดยังไม่ประทับใจกับการบริการของท่าน (นี่เป็นการเดินทางไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีครั้งแรกของเรา เนื่องจากบ้านของเราอยู่ใกล้การบริการของสนามบินกระบี่มากกว่า ปกติหากจะเดินทางกลับบ้านเราจะเดินทางไปลงที่สนามบินกระบี่) แล้วผู้โดยสารท่านอื่นๆ ล่ะ ถ้าเค้าต้องการความช่วยเหลือ ท่านจะปฏิบัติอย่างไร.? จะช่วยเหลือเค้าได้เต็มที่หรือไม่.?
รบกวนฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นำไปพิจารณาแก้ไข เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารท่านอื่นๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ดูแล้วไม่มีความเป็นมิตรและไม่มีความเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้โดยสารเอาเสียเลย
ปล. หากเรื่องราวของเรานี้ได้รับรู้ไปถึงผู้ใหญ่ของสายการบินนกแอร์ เราขอให้ท่านได้นำไปแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ในโอกาสต่อไปเราก็ยังคงจะใช้บริการของสายการบินนกแอร์ต่อไปหากมีโอกาส และเราจะนำประสบการณ์จากการเดินทางครั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางครั้งต่อไป เพราะไม่ว่าท่านจะเดินทางด้วยวิธีการที่ปลอดภัยมากแค่ไหน มิชฉาชีพก็มีอยู่ในทุกๆ ที่
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่สละเวลาอ่านเรื่องราวนี้จนจบ...