กระทู้นี้ไม่มีอะไรน่ะครับ อยากจะแชร์ประสบการณ์กับการตามหา Passive income เท่านั้นครับ
สวัสดีครับผมเป็นเด็กเชียงใหม่ ที่ต้องมาทำงานที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพครับ และฝันว่าซักวันนึงจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเรียบๆ ง่ายๆ ที่เชียงใหม่ครับ และความฝันอันสูงสุดคือมี อิสระทางการเงินและเวลาครับ ^^ ปัจจุบันผมอายุ 28 ปี แล้ว ต้องทำตามฝันให้ได้ครับ
ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือนคนนึง ที่อยากมีรายได้ประจำนอกเหนือจากเงินเดือนงานประจำ ผมจึงเริ่มทำธุรกิจ + งานอีก หลายๆ อย่าง เพื่อเพียงแค่การเพิ่ม รายได้ในการดำรงค์ชีวิตและการที่มีเงินที่มากขึ้น ใช้ซื้อของบางอย่างมี่ได้เร็วกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ผมไม่เคยลืมทุกอย่างที่ผมผ่านมาเลยครับ มันคือประสบการณ์ ในการผ่านคน ผ่านงาน ผ่านธุรกิจ ครับ และหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยิน คำว่า "Passive income" จากธุรกิจเครือข่าย หรือ Network Marketing แต่กระทู้นี้ ไม่ใช่การทำ ธุรกิจเครือข่ายน่ะครับ เราเข้าเรื่องดีกว่า
Passive income ในความหมายของผมคือ " การที่เรามีรายได้สม่ำเสมอ โดยที่มีอิสระเรื่องของการเงิน เวลา และตัวเราเองสามารถเกษียณตัวเองได้ "
ตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมตามหางานหรือธุรกิจ ที่จะสามารถสร้าง Passive income ได้ สิ่งที่เคยลองตอนนี้นคือการทำธุรกิจเครือข่าย ( ที่หลายๆคนมองว่าคือ ธุรกิจขายตรง ) แต่จริง ลึกๆแล้ว ไม่ใช่การขายตรงน่ะครับ หลายๆคนประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้ มีบ้าน มีรถ สวยและรวยด้วย แต่หวยไม่ได้ออกที่ผมน่ะสิคับ 555 ผมไม่สำเร็จครับ ทำไปด้วยเรียนไปด้วย เกรดมหาลัยผมตกเรยย แต่สิ่งที่ผมได้ ไม่ใช่ความผิดหวัง ผมได้แนวคิดทางธุรกิจ ( Business ideas) การทำการตลาด (Marketing) การพูด (Speaking) และการเป็นที่ปรึกษา (Consulting) และบทความเรื่อง "เงิน 4 ด้าน" ของหนังสือ พ่อรวยสอนลูก แค่นี้ก็คุ้มกับการใช้เวลาหลังเลิกเรียน เข้า Center แล้วครับ
มาเข้าเรื่องกันเลยน่ะครับ หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วว่า เราทำอะไรบ้าง อิอิ จิงๆ แล้ว ผมทำหลายๆอย่างมาก แต่มี 1 อย่างที่ผมคิดว่า มันเป็นรายได้ที่เป็น Passive จริงๆ และไม่ต้องมีเงินลงทุน ใช้เพียงเวลาและประสบการณ์เท่านั้นครับ ผมเองตอนนี้ยังเป็นมนุษยืเงินเดือนอยู่ และมีอีกหลายๆ ธุรกิจส่วนตัวอยู่บ้างครับ แต่มันไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือ จะทำให้ผมสามารถเกษียณตัวเองได้หรอกน่ะครับ เพราะว่า หลักการของ Passive income คือ การที่ มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ โดยที่ตัวเอง สามารถหยุด หรือ มีอิสระเรื่องของเวลา ครับ สิ่งที่ผมเรียนรู้จากธุรกิจที่ผมมีคือ การซื้อมาขายไป ถ้าอยากได้กำไรที่มากกว่าเดิม ก้ต้องทำการแปรรูป สิ่งที่เราซื้อมา และขายครับ ผมผ่านธุรกิจนี้มานานพอสมควรแล้วครับ ปัจจัยสำคัญคือ เรื่องของ ลูกค้า + คู่แข่งครับ ดังนั้น ธุรกิจประเภทนี้ ที่ผมผ่านมา เราต้องอยู่กับมันตลอด ต้องบริหาร พนักงาน การตลาด การเงิน ทุกๆ ด้าน ให้เกิดสิ่งเดียวคือ "กำไร" ซึ่ง ถามว่า มันจะมากน้อย คืออยู่กับประเภทของธุรกิจ และก็ทำให้ผมได้เห็นว่า การเปลี่ยนแนวคิด และกระบวนการในการทำงาน และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เค้าทำอะไร เค้ามีอะไร ผมเลยศึกษา สิ่งที่ผมทำได้เลย และไม่มีต้นทุน คือ "การพัฒนาระบบร้านอาหาร หรือ POS System" ครับ
ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่ผมคิดนี้ เป็นสิ่งที่ผมสามารถพอที่จะทำมันได้ และ ไม่ต้องใช่เงินลงทุน ดังนั้น เจ้า POS ของผมนี้ ไม่เหมือนกับ POS ที่เจ้าอื่นๆ มีทั้วไป เพราะว่า ผมมองคู่แข่งตลอด แต่ก่อนหน้าที่ผมจะทำมันได้ ผมลองเขียนเพียงเพราะการใช้งานในธุรกิจตัวเองเท่านั้น ในช่วงปีแรกครับ แต่พอเราทำเองใช้เอง ปรับแต่งเอง มันทำให้ระบบ สมบูรณ์มากขึ้น และ พร้อมที่ออกสู่ตลาดครับ สิ่งที่สำคัญที่สุด มันเป็นสินค้าที่ เป็นของผมเอง และมันก็จะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซื้ง หลายๆ ระบบที่ผมเคยใช้คือ เราใช้ระบบของโปรแกรมเมอร์ที่เขียนตามคำสั่ง ไม่เคยใช้จริง ไม่สามารถแก้ไขตามที่หน้างานจริงต้องการได้ ข้อมูลที่ได้ Report ที่ได้ ไม่ได้ช่วยในการบริหารจัดการร้านอย่างแท้จริง นั้นคือ ข้อได้เปรียบของ ระบบผม .. ครับ แล้ว
คำถามคือ แล้วมันเป็น Passive income ได้อย่างไร ?? สิ่งที่ทำอยู่ทุกๆวันนี้คือ การที่ลูกค้าซื้อระบบ (System) จะซื้อการบริการ (Service) พร้อมกันไปด้วยครับ ที่ระบบเรามีคือเรื่องของ Cloud Computing และ Business Intelligence ด้วยครับ ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งนอกจากการขายขาดครับ และส่วนที่ลูกค้ายยอมจ่าย มันมีประโยชน์มากกว่าเงินที่เสียในแต่ละเดือน เพราะมันคุ้มสำหรับประโยชน์ที่ได้รับ ดังนั้นเมื่อ Case นี้ผ่าน สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือการ ได้ผมเป็นที่ปรึกษาทางข้อมูล การตลาด และธุรกิจ ครับ ซึ่งเหมือนกับการวางก้อนหินทีละก้อนใน ลำธาร ซึกวันหนึ่ง เมื่อมีก้อนหินมากพอแล้ว สามารถทำให้น้ำหยุดไหลได้ครับ ถ้าจะหลุดไปบ้าง น้ำก็จะไหลน้อยกว่าที่ไม่มีหินมาวางเลยครับ Passive Income ผมก็เช่นกัน ถ้าเราช่วยให้ ธุรกิจของลูกค้าดีขึ้นได้และ ไม่ปิดกิจการ ก้อนหินก้อนนั้น ก็ไม่หลุดไปพร้อมกระแสน้ำครับ
จนถึงทุกๆวันนี้ รายได้ที่มาจาก Passive Income ก็พอๆกับเงินเดือนงานประจำของผมครับ ไม่รวมถ้าผมขยันในการหาลูกค้าใหม่ สร้างความประทับใจ และสามารถช่วยให้ธุรกิจเค้าดีขึ้นได้จริง โดยไม่ใช่แค่ คนขายโปรแกรม ผมก็จะมีทั้งเงินก้อนค่าระบบ และ ก้อนหิน ที่ผมไปวางไว้ในลำธารมากขึ้นเรื่อยครับ ตอนนี้เงินส่วนนั้นก็เป็นเงินส่วนที่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถไปเลยครับ ^^ สิ่งที่สำคัญและทำให้ผมมีทุกๆวันนี้คือลูกค้าทุกๆเจ้าครับ ที่สอนให้ผมเป็นคนที่ น้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมเรียนรู้ และปรับปรุง สิ่งที่ผมมีให้ดีขึ้นเสมอครับ แต่ถามว่าผมจะเกษียณจริงไม๊ ก็คงยังครับ ถ้าวันนึงทำถึงเป้าหมายแล้ว ผมลาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ และสนุกกับมัน ก็คงเหนื่อยน้อยลง และมีเวลามากขึ้นครับ ^^
เดี๊ยวมาเล่าให้ฟังต่อน่ะครับ มีอีกหลายเรื่องเลยที่อยากแชร์ครับ
ทำไมมนุษย์เงินเดือนถึงจะมี Passive income และเกษียณตัวเองก่อนวัย 30 ไม่ได้ ??
สวัสดีครับผมเป็นเด็กเชียงใหม่ ที่ต้องมาทำงานที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพครับ และฝันว่าซักวันนึงจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเรียบๆ ง่ายๆ ที่เชียงใหม่ครับ และความฝันอันสูงสุดคือมี อิสระทางการเงินและเวลาครับ ^^ ปัจจุบันผมอายุ 28 ปี แล้ว ต้องทำตามฝันให้ได้ครับ
ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือนคนนึง ที่อยากมีรายได้ประจำนอกเหนือจากเงินเดือนงานประจำ ผมจึงเริ่มทำธุรกิจ + งานอีก หลายๆ อย่าง เพื่อเพียงแค่การเพิ่ม รายได้ในการดำรงค์ชีวิตและการที่มีเงินที่มากขึ้น ใช้ซื้อของบางอย่างมี่ได้เร็วกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ผมไม่เคยลืมทุกอย่างที่ผมผ่านมาเลยครับ มันคือประสบการณ์ ในการผ่านคน ผ่านงาน ผ่านธุรกิจ ครับ และหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยิน คำว่า "Passive income" จากธุรกิจเครือข่าย หรือ Network Marketing แต่กระทู้นี้ ไม่ใช่การทำ ธุรกิจเครือข่ายน่ะครับ เราเข้าเรื่องดีกว่า
Passive income ในความหมายของผมคือ " การที่เรามีรายได้สม่ำเสมอ โดยที่มีอิสระเรื่องของการเงิน เวลา และตัวเราเองสามารถเกษียณตัวเองได้ "
ตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมตามหางานหรือธุรกิจ ที่จะสามารถสร้าง Passive income ได้ สิ่งที่เคยลองตอนนี้นคือการทำธุรกิจเครือข่าย ( ที่หลายๆคนมองว่าคือ ธุรกิจขายตรง ) แต่จริง ลึกๆแล้ว ไม่ใช่การขายตรงน่ะครับ หลายๆคนประสบความสำเร็จกับธุรกิจนี้ มีบ้าน มีรถ สวยและรวยด้วย แต่หวยไม่ได้ออกที่ผมน่ะสิคับ 555 ผมไม่สำเร็จครับ ทำไปด้วยเรียนไปด้วย เกรดมหาลัยผมตกเรยย แต่สิ่งที่ผมได้ ไม่ใช่ความผิดหวัง ผมได้แนวคิดทางธุรกิจ ( Business ideas) การทำการตลาด (Marketing) การพูด (Speaking) และการเป็นที่ปรึกษา (Consulting) และบทความเรื่อง "เงิน 4 ด้าน" ของหนังสือ พ่อรวยสอนลูก แค่นี้ก็คุ้มกับการใช้เวลาหลังเลิกเรียน เข้า Center แล้วครับ
มาเข้าเรื่องกันเลยน่ะครับ หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วว่า เราทำอะไรบ้าง อิอิ จิงๆ แล้ว ผมทำหลายๆอย่างมาก แต่มี 1 อย่างที่ผมคิดว่า มันเป็นรายได้ที่เป็น Passive จริงๆ และไม่ต้องมีเงินลงทุน ใช้เพียงเวลาและประสบการณ์เท่านั้นครับ ผมเองตอนนี้ยังเป็นมนุษยืเงินเดือนอยู่ และมีอีกหลายๆ ธุรกิจส่วนตัวอยู่บ้างครับ แต่มันไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือ จะทำให้ผมสามารถเกษียณตัวเองได้หรอกน่ะครับ เพราะว่า หลักการของ Passive income คือ การที่ มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ โดยที่ตัวเอง สามารถหยุด หรือ มีอิสระเรื่องของเวลา ครับ สิ่งที่ผมเรียนรู้จากธุรกิจที่ผมมีคือ การซื้อมาขายไป ถ้าอยากได้กำไรที่มากกว่าเดิม ก้ต้องทำการแปรรูป สิ่งที่เราซื้อมา และขายครับ ผมผ่านธุรกิจนี้มานานพอสมควรแล้วครับ ปัจจัยสำคัญคือ เรื่องของ ลูกค้า + คู่แข่งครับ ดังนั้น ธุรกิจประเภทนี้ ที่ผมผ่านมา เราต้องอยู่กับมันตลอด ต้องบริหาร พนักงาน การตลาด การเงิน ทุกๆ ด้าน ให้เกิดสิ่งเดียวคือ "กำไร" ซึ่ง ถามว่า มันจะมากน้อย คืออยู่กับประเภทของธุรกิจ และก็ทำให้ผมได้เห็นว่า การเปลี่ยนแนวคิด และกระบวนการในการทำงาน และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เค้าทำอะไร เค้ามีอะไร ผมเลยศึกษา สิ่งที่ผมทำได้เลย และไม่มีต้นทุน คือ "การพัฒนาระบบร้านอาหาร หรือ POS System" ครับ
ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่ผมคิดนี้ เป็นสิ่งที่ผมสามารถพอที่จะทำมันได้ และ ไม่ต้องใช่เงินลงทุน ดังนั้น เจ้า POS ของผมนี้ ไม่เหมือนกับ POS ที่เจ้าอื่นๆ มีทั้วไป เพราะว่า ผมมองคู่แข่งตลอด แต่ก่อนหน้าที่ผมจะทำมันได้ ผมลองเขียนเพียงเพราะการใช้งานในธุรกิจตัวเองเท่านั้น ในช่วงปีแรกครับ แต่พอเราทำเองใช้เอง ปรับแต่งเอง มันทำให้ระบบ สมบูรณ์มากขึ้น และ พร้อมที่ออกสู่ตลาดครับ สิ่งที่สำคัญที่สุด มันเป็นสินค้าที่ เป็นของผมเอง และมันก็จะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซื้ง หลายๆ ระบบที่ผมเคยใช้คือ เราใช้ระบบของโปรแกรมเมอร์ที่เขียนตามคำสั่ง ไม่เคยใช้จริง ไม่สามารถแก้ไขตามที่หน้างานจริงต้องการได้ ข้อมูลที่ได้ Report ที่ได้ ไม่ได้ช่วยในการบริหารจัดการร้านอย่างแท้จริง นั้นคือ ข้อได้เปรียบของ ระบบผม .. ครับ แล้ว
คำถามคือ แล้วมันเป็น Passive income ได้อย่างไร ?? สิ่งที่ทำอยู่ทุกๆวันนี้คือ การที่ลูกค้าซื้อระบบ (System) จะซื้อการบริการ (Service) พร้อมกันไปด้วยครับ ที่ระบบเรามีคือเรื่องของ Cloud Computing และ Business Intelligence ด้วยครับ ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งนอกจากการขายขาดครับ และส่วนที่ลูกค้ายยอมจ่าย มันมีประโยชน์มากกว่าเงินที่เสียในแต่ละเดือน เพราะมันคุ้มสำหรับประโยชน์ที่ได้รับ ดังนั้นเมื่อ Case นี้ผ่าน สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือการ ได้ผมเป็นที่ปรึกษาทางข้อมูล การตลาด และธุรกิจ ครับ ซึ่งเหมือนกับการวางก้อนหินทีละก้อนใน ลำธาร ซึกวันหนึ่ง เมื่อมีก้อนหินมากพอแล้ว สามารถทำให้น้ำหยุดไหลได้ครับ ถ้าจะหลุดไปบ้าง น้ำก็จะไหลน้อยกว่าที่ไม่มีหินมาวางเลยครับ Passive Income ผมก็เช่นกัน ถ้าเราช่วยให้ ธุรกิจของลูกค้าดีขึ้นได้และ ไม่ปิดกิจการ ก้อนหินก้อนนั้น ก็ไม่หลุดไปพร้อมกระแสน้ำครับ
จนถึงทุกๆวันนี้ รายได้ที่มาจาก Passive Income ก็พอๆกับเงินเดือนงานประจำของผมครับ ไม่รวมถ้าผมขยันในการหาลูกค้าใหม่ สร้างความประทับใจ และสามารถช่วยให้ธุรกิจเค้าดีขึ้นได้จริง โดยไม่ใช่แค่ คนขายโปรแกรม ผมก็จะมีทั้งเงินก้อนค่าระบบ และ ก้อนหิน ที่ผมไปวางไว้ในลำธารมากขึ้นเรื่อยครับ ตอนนี้เงินส่วนนั้นก็เป็นเงินส่วนที่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถไปเลยครับ ^^ สิ่งที่สำคัญและทำให้ผมมีทุกๆวันนี้คือลูกค้าทุกๆเจ้าครับ ที่สอนให้ผมเป็นคนที่ น้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมเรียนรู้ และปรับปรุง สิ่งที่ผมมีให้ดีขึ้นเสมอครับ แต่ถามว่าผมจะเกษียณจริงไม๊ ก็คงยังครับ ถ้าวันนึงทำถึงเป้าหมายแล้ว ผมลาออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ และสนุกกับมัน ก็คงเหนื่อยน้อยลง และมีเวลามากขึ้นครับ ^^
เดี๊ยวมาเล่าให้ฟังต่อน่ะครับ มีอีกหลายเรื่องเลยที่อยากแชร์ครับ