+++กทม. แจง จุดระเบิดที่พารากอน ไม่ได้ติดตั้งซีซีทีวี ชี้เป็นพื้นที่เอกชน!???+++



เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายไตรภพ ขันตยาภรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง  กรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงเหตุระเบิดที่บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยาม กับห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า ในส่วนของกล้องซีซีทีวีของ กทม.ไม่มีการติดตั้งในบริเวณเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชนคือบีทีเอสและห้างสยามพารากอน อีกทั้งไม่มีการเชื่อมสัญญาณมายังกทม.

อย่างไรก็ตามในส่วนของ กทม.ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวีบริเวณพื้นที่สาธารณะด้านล่างตั้งแต่แยกปทุมวันเป็นต้นมา ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องในส่วนรับผิดชอบตั้งแต่เมื่อคืนพบว่าไม่สามารถจับภาพในช่วงเวลาเกิดเหตุได้ เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกลจากจุดเกิดเหตุ ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอดูภาพในจุดโดยรอบแล้ว ซึ่งกทม.พร้อมให้ความร่วมมือในการติดตามเบาะแสคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422848559  


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



     คสช.สั่งเร่งสอบเหตุบึ้มบีทีเอสสยามหาตัวคนร้าย "วินธัย" เผยเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเบา คาดเจตนาก่อกวน วอนปชช.อย่าตื่นตระหนก มั่นใจจนท.ดูแลได้
     เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยามเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)และเลขาธิการคสช. ได้สั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่และประสานการปฏิบัติกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล หรือจากสาเหตุอื่นใด สำหรับรายละเอียดต้องรอผลสืบสวนที่สมบูรณ์จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อกวนและไม่มีเจตนาให้มีผลต่อบุคคล ส่วนระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเบาไม่รุนแรง

  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422853205





พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวภายหลังการร่วมประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงถึงสถานการณ์เหตุลอบวางระเบิดบนสถานีรถไฟฟ้าสยามเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ทราบเบาะแสว่าเป็นบุคคลใด หรือกลุ่มใด ที่ได้สร้างสถานการณ์รุนแรงนี้ขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวัง และป้องกันให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก

ขณะเดียวกันพลเอกประวิตรยอมรับว่า ขณะนี้มีผู้เห็นต่างอยู่มาก แต่ไม่ต้องการให้ผู้เห็นต่างให้ความรุนแรงเช่นนี้ เพราะกระทบต่อทรัพย์สินของประชาชน และความเชื่อมั่นของประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศมาโดยตลอด และขอความร่วมมือให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาเพื่อเฝ้าระวังเหตุต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น

พร้อมกันนี้พลเอกประวิตรเชื่อว่าทุกคนคงคำนึงได้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ยังคงต้องมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกและการใช้มาตรา 4 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอยู่หรือไม่

  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422852957  


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


แรงดลใจต่อจากจขกท  http://ppantip.com/topic/33186013   อมยิ้ม17อมยิ้ม17อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่