บอกก่อนเลยนะครับว่า มาจ้างผมเขียนรีวิวทีเถอะครับ #เพ้อเจ้อ #อย่าถือสา เพราะผมมักจะใช้สินค้าอะไรแล้วเข้าใจถึงมันจริงๆ

หลายคนเคยได้ยินพักนึงว่าจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องต่อไปรุ่นไหนดี เพราะสมัยนี้มือถือมีให้เลือกมากมาย สุดท้ายก็แล้วแต่ตังค์ในกระเป๋า

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผมได้ลังเลว่าจะใช้ iPhone 6 หรือ SS Note 4 ดี เนื่องด้วยผมเองก็เป็นคนติดใจเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงกับชีวิตประจำวัน
ผมจึงออกนอกกรอบกระแสของสังคม การแนะนำจากเพื่อนฝูง ไปซื้อ SS Note 4 เนื่องด้วยผมเชื่อว่า "iPhone คือมือถือที่ดีที่สุด"
ผมจึงมองหาเปิดใจเพื่อตอกยํ้าว่า "ผมจะไม่เจอสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนที่แข่งกัน เรียกว่าทีละไตรมาส สองไตรมาสก็ว่าได้"

ดังนั้น ผมเลือก Note 4 มาตั้งแต่ตอนเปิดตัวครับ มาดูกันว่าผมเจออะไรกับมือถือ Samsung เครื่องแรกของผมบ้าง ...

เปิดกล่องสัมผัสแรก "เฮ้ย...อย่างใหญ่เลย แต่ก็ใหญ่ดีพอที่ผมจะอ่านนู่นนี่นั่นที่ใช้ประจำบนสมาร์ทโฟนเครื่องเก่า"
ให้คะแนน 4.5/5 ครับ

เปิดเครื่องใช้งาน "เฮ้ย...มันจะดีป่าวนะ แอนดรอยส์นะเว้ย มันจะกระตุก ค้าง รีสตาร์ทเองบ่อยไหม พบว่าใช้ได้ลื่นดี ไม่ระคายเคืองแต่อย่างใด"
ให้คะแนน 4.5/5 ครับ

การสัมผัสหน้าจอ ประกอบกับทิศทางการใช้งาน แรกๆก็ไม่ค่อยชิน แต่หลังๆผมก็ปรับวางแอพให้เสมือน iOS ให้เหมาะกับการใช้งานเราคล่องสุด"
ให้คะแนน 4.5/5 ครับ (ชอบบาง widget มันง่ายดีจริงๆ)

กล้องครับ กล้อง! ผมมีประสบการณ์สุมหัวถล่มความแย่หน่วงของกล้อง SS พอมาเจอรุ่นนี้เข้าไป "เฮ้ย...มันเจ๋งดีนะ ถ่ายเร็วคมชัดได้ภาพ wide (ต่อ)
กล้องหลังเนียน ปรับแต่งได้เยอะกว่า iPhone 6 มี features จำเป็นของกล้องดิจิตอลมาให้ด้วย (ส่วนตัวผมชอบถ่ายรูป) คราวนี้ผมก็มาพิสูจน์ว่ามันดีจริงเหมือนในจอไหม ภาพทำการดึงรูปที่ถ่ายด้วยโหมดปกติเอาลงเครื่องแมคผมครับ ปรากฏว่าสีตรงใช้ได้เลย ความคมชัดละเอียดกริบ ดีจริงประทับใจครับ
ให้คะแนน 5/5 ครับ

กล้องหน้าล่ะ ยังไงดี ผมคนนึงที่เป็นผู้ชายที่ไม่ชอบถ่ายกล้องหน้า ไม่ชอบถ่ายเซลฟี่แต่อย่างใด แฟนชวนถ่ายก็อายไม่เอาเพราะหน้าอ้วน ยกมือถือไรกลางถนนเขิน แต่ประหนึ่งว่าผมได้มาเจอฟังค์ชั่นอันนึงที่ปลดความอายของออกไป มันคือ "Wide Selfie" เฮ้ย...ไม่ธรรมดา อธิบายนิดนึงนะครับ มันคือการเอาวิธีการถ่ายพาโนรามา (360) มาไว้ที่กล้องหน้า แต่มันเก็บได้ประมาน 130 องศา มันก็จะได้ภาพที่สวยกว้าง ไม่ Distrort มาก แต่ก็มีบ้างตามภาษา wide shot แต่สิ่งที่ผมชอบอันนี้คือ มันคือสิ่งที่ผมเริ่มทำกับแฟนมากขึ้น ถ่ายรูปสวย เก็บเพื่อนได้ทั้งแก๊งค์ แถมยังเก็บภาพครอบครัวได้หมดกว่า 20 กว่าคน ภาพชัดสีสวย อาจจะสู้ Go Pro เก็บ wide ได้เลย พูดเยอะไปละ อย่าเพิ่งรำคาญ ของดีผมจะบอกต่อ ของห่วยผมจะเงียบๆ แต่สิ่งนี้คือไฮไลท์ที่ผมไม่อวดไม่ได้ ผมชอบจริงๆ (ขอค่าตัวอวยของด้วยครับ)
ให้คะแนน 5/5 ครับ

สุดท้ายครับ ตามชื่อรุ่น คือปากกา!!!
ผมหาเหตุผลหลายอย่างที่จะใช้ปากกาเพื่อจดโน๊ตเวลาที่ผมไม่มีกระดาษ แต่เอาจริงๆแล้วมันไม่ได้ใช้บ่อยๆในชีวิตหรอกครับ แต่มีไว้ดีกว่าไม่มีจริงๆ
ไม่ใช่ว่าผมโลภ จะเอามันทุกอย่างนะครับ แต่เพียงเพราะผมได้ใช้มันในเวลาที่ใช่ มันจะโดนมากครับ อย่างว่าอะไรไม่ใช่อย่าฝืน อะไรใช่มันก็จะโอเคเอง
ปากกาเขียนได้ลื่นดี ใช้ได้หลายโอกาสเหมือนกันครับ จะหยิบมาเขียนบนรถไฟฟ้าก็แรดไปหน่อยครับ ผมเอาไปคิดงาน เขียนอะไรเล่นๆ ตามร้านกาแฟ หรือบางทีการนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยลงบนจอมือถือ ซึ่งนอนควํ่ำยกขากระดิกบนเตียงนุ่มๆ มันก็เพลินดี แล้วเหมือนว่าไอเดียบางอย่างมันไหลลื่นดีกว่านั่งจ้องอยู่หน้าคอมหรือว่าเขียนลงบนกระดาษอีกนะ
เพิ่มอีกหน่อย (กลัวเค้าไม่จ้าง) ปากกาตัวนี้ผมเรียกไม่ถูกอะ มันเหมือนตัวช่วยให้เราตัดภาพนี้ไปส่งไลน์ได้เลย โดยที่ไม่ต้อง Screenshot ให้เยอะแยะ ก็คล่องตัวดีนะครับ
ให้คะแนน 4/5 ครับ

สรุปครับ ใครอยากให้ผมเขียนรีวิวติดต่อได้ 25 ชั่วโมงครับ (ล้อเล่นนะครัช แต่เอาจริงนะ ฮ่าๆๆ)

Note 4 ไม่ทำให้ผมผิดหวังกับเงินที่เสียไป ผมว่ามันมีความรู้สึก Something New มากกว่า Feel iOS the same ซึ่งดีอยู่แล้วไม่ได้ว่าอะไร
ใครกำลังตัดสินใจผมว่าอย่าซื้อเลยครับ เพราะมันจะติดใจจนไม่มีเวลาไปทำมาหากิน (เว่อร์ๆๆ) ผมแนะนำครับ จากประสบการณ์ตรงที่คุณจะชอบ ผมว่านะ