จขกท. อยู่กับไฮเปอร์ไทรอยด์มา 2 ปีกว่าค่ะ
แรกเริ่มเพราะเพื่อนที่ทำงานสังเกตุเห็นว่า ผอมลงมาก ตัวดำ ตาโปน ก็ไม่ได้สังเกตตัวเอง รู้สึกแค่ว่าผอมลงทั้งๆ ที่กินเยอะมาก ดีใจด้วยซ้ำ555 แต่ในวันสงกรานต์ในพิธีต้องรดน้ำดำหัว สังเกตุเห็นมือสั่นมาก ขณะที่กำลังรดน้ำผู้ใหญ่ เลยโดนแซวว่าตื่นเต้น ตัวเรารู้ว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และแม่เริ่มทักว่า ทำไมคอโต จะเป็นไทรอยด์รึเปล่า ตัดสินใจไปตรวจที่ รพ. และก็พบว่าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ กืนยารักษาอยู่ประมาณ 1 ปี พอย้ายที่ทำงานไปอีกจังหวัด ก็เลยหยุดรักษา
หลังจากหยุดยาเองไป 1 ปี ย้ายกลับมาบ้าน โดนแม่บ่นว่า คอโตขึ้นมาก ตาโปน เลยอยากให้ไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ มข. ผลเลือดก็เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ เดือนที่ 1-2 หมอให้กินยา methimazole 3 เม็ด + แก้ใจสั่น 1 เม็ด (วันละครั้ง ช่วงเช้า) ตรวจเลือดผลเลือดยังไม่ดีขึ้น
เดือนที่ 3-4 หมอเพิ่มยาเป็น methimazole 6 เม็ด + ใจสั่น 2 เม็ด (แบ่งกินวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น) ตรวจเลือดผลก็ยังไม่ดีขึ้น
เดือนที่ 5-6 หมอเพิ่มยาเป็น methimazole 9 เม็ด+ ใจสั่น 2 เม็ด (แบ่งกินวันละ -3 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น)
หลังจากกลับมารักษา 6 เดือนแล้ว รู้สึกได้เลยว่า ตัวเองอ้วนขึ้นมาก มากจนตัวจะแตก น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 10 กิโล เสื้อผ้าจาก size M ก็ต้องเปลี่ยนเป็น L แก้มยุ้ย คาง 2 ชั้น แขนขาใหญ่ แถมคอโต หมดความมั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่จะถ่ายรูป ยังมีอาการนอนไม่หลับ พอหลับก็ฝันทุกคืน ตื่นมาใจก็สั่น เต้นเร็ว เหนื่อย
เวลาไปพบเจอเพื่อนของแม่ ก็มักจะถูกถามว่า "ทำไมอ้วนจัง" ก็ได้แต่ตอบว่า กินยารักษาไทรอยด์เลยอ้วนขึ้น เพื่อนๆ ของแม่ทุกคนก็จะพูดว่า "ไทรอยด์ต้องผอมสิ ใครเค้าอ้วนกัน" เราเองแทบไม่อยากพูดต่อ รู้สึกเบื่อที่ต้องอธิบายอะไร ใครไม่ป่วยก็คงไม่รู้หรอกว่า อาการไทรอยด์มันมีผลอะไรกับร่างกายบ้าง
เมื่อคุณหมอนัดตรวจเลือดอีกครั้งหลังจากเดือนที่ 6 ที่เพิ่มยา 3 เวลาแล้ว ได้ยินคุณหมอ 2 คนปรึกษากัน ว่ายาที่ให้ครั้งล่าสุดมันเกินโดส หมอคุยกันสักพัก แล้วหันมา เราถามหมอว่า ไทรอยด์มันไม่ลดเหรอคะ หมอตอบว่า "ตอนนี้มันต่ำไปด้วยซ้ำ" หมอแนะนำให้กลืนแร่ ไม่ก็ผ่าตัด แต่จะมีแผลเป็นใหญ่นะ หมอไม่แนะนำให้กินยานานๆ จะเสี่ยงกับกระดูกพรุน หมอคงเห็นหน้าเราซีด ถามเราว่า ไม่อยากกลืนแร่เหรอ เราตอบ ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ
หมอปรึกษากันอีกครั้ง แล้วบอกว่าจะให้กินยา 15 วัน แล้วมาดูผลเลือดกันอีกที หมอนัด วันที่ 4 ก.พ.
หมอให้ยาเป็น methimazole 2 เม็ด+ ใจสั่น 1 เม็ด (กินเฉพาะเช้า)
หลังจากกินยาเกือบจะครบ 15 วัน อาการที่เป็นไม่รู้จะคิดไปเองรึเปล่า แต่เป็นช่วงที่รู้สึกทรมาน อากานใจสั่น ใจเต้นเร็วเมื่อตื่นนอนยังมีอยู่ อ้วนขึ้นอีก และปวดตามเนื้อตัว โดยเฉพาะแขน ไหล่ และช่องอก มือชา ขาชา เหมือนปวดกระดูก ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ยกของหนักหรือใช้แขนมากกว่าเดิม พยายามใช้กำลังแขนให้น้อยลงกว่าเดิมอีก เพราะกลัวจะปวดมากขึ้น ปวดเกือบทุกวันโดยเฉพาะช่วงเย็น - เช้าของอีกวัน จะนวดด้วยยา ประคบ ร้อน- เย็นก็ไม่หาย ท้องอืดแน่นท้องทุกวัน ไม่ว่าจะกินมากหรือน้อย ปวดร้อนวูบวาบที่ท้อง อึดอัดสุดๆ
วันมะรืนนี้แล้วที่หมอนัด ต้องรอดูผลเลือดอีกที ถ้าต้องรักษาด้วยการกลืนแร่ ก็คงไม่กลัวเท่าไหร่แล้ว บางครั้งหาข้อมูลผลข้างเคียงมากๆ ก็รู้สึกกลัวค่ะ แต่ก้คิดไปว่า มันไม่ได้เกิดกับทุกคนทุกอาการ ถ้าต้องกลืนจริงๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิต (ปลอบใจตัวเอง) เป็นคนที่ไม่ชอบกินยาเลย แต่ก็ต้องมากินประจำเพราะไทรอยด์ ไม่ชอบกินอะไรที่รสชาดแปลกๆ น้ำแร่มันก็แปลกสำหรับเรานะ แต่มันไม่ได้ทำให้เราชัก ซะหน่อย ไม่ใช่ทุกคนจะได้กินนะ เราเป็นคนพิเศษ ผ่าตัดก็เคยมาแล้ว กลืนน้ำแก้วเดียว จิ๊บๆ ใช่มั้ยคะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เป็นไทรอยด์เหมือนกัน ขอให้หายไวๆ ค่ะ
ส่วนตัว จขกท. ได้มีโรคประจำตัวกับเค้าแล้ว (คิดได้แค่นี้เองค่ะ)
กินยารักษาไฮเปอร์ไทรอยด์ จนไทรอยด์ต่ำไป +อาการอื่นๆ เริ่มรู้สึกทรมานนิดๆ
แรกเริ่มเพราะเพื่อนที่ทำงานสังเกตุเห็นว่า ผอมลงมาก ตัวดำ ตาโปน ก็ไม่ได้สังเกตตัวเอง รู้สึกแค่ว่าผอมลงทั้งๆ ที่กินเยอะมาก ดีใจด้วยซ้ำ555 แต่ในวันสงกรานต์ในพิธีต้องรดน้ำดำหัว สังเกตุเห็นมือสั่นมาก ขณะที่กำลังรดน้ำผู้ใหญ่ เลยโดนแซวว่าตื่นเต้น ตัวเรารู้ว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และแม่เริ่มทักว่า ทำไมคอโต จะเป็นไทรอยด์รึเปล่า ตัดสินใจไปตรวจที่ รพ. และก็พบว่าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ กืนยารักษาอยู่ประมาณ 1 ปี พอย้ายที่ทำงานไปอีกจังหวัด ก็เลยหยุดรักษา
หลังจากหยุดยาเองไป 1 ปี ย้ายกลับมาบ้าน โดนแม่บ่นว่า คอโตขึ้นมาก ตาโปน เลยอยากให้ไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ มข. ผลเลือดก็เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ เดือนที่ 1-2 หมอให้กินยา methimazole 3 เม็ด + แก้ใจสั่น 1 เม็ด (วันละครั้ง ช่วงเช้า) ตรวจเลือดผลเลือดยังไม่ดีขึ้น
เดือนที่ 3-4 หมอเพิ่มยาเป็น methimazole 6 เม็ด + ใจสั่น 2 เม็ด (แบ่งกินวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น) ตรวจเลือดผลก็ยังไม่ดีขึ้น
เดือนที่ 5-6 หมอเพิ่มยาเป็น methimazole 9 เม็ด+ ใจสั่น 2 เม็ด (แบ่งกินวันละ -3 ครั้ง เช้า เที่ยง เย็น)
หลังจากกลับมารักษา 6 เดือนแล้ว รู้สึกได้เลยว่า ตัวเองอ้วนขึ้นมาก มากจนตัวจะแตก น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 10 กิโล เสื้อผ้าจาก size M ก็ต้องเปลี่ยนเป็น L แก้มยุ้ย คาง 2 ชั้น แขนขาใหญ่ แถมคอโต หมดความมั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่จะถ่ายรูป ยังมีอาการนอนไม่หลับ พอหลับก็ฝันทุกคืน ตื่นมาใจก็สั่น เต้นเร็ว เหนื่อย
เวลาไปพบเจอเพื่อนของแม่ ก็มักจะถูกถามว่า "ทำไมอ้วนจัง" ก็ได้แต่ตอบว่า กินยารักษาไทรอยด์เลยอ้วนขึ้น เพื่อนๆ ของแม่ทุกคนก็จะพูดว่า "ไทรอยด์ต้องผอมสิ ใครเค้าอ้วนกัน" เราเองแทบไม่อยากพูดต่อ รู้สึกเบื่อที่ต้องอธิบายอะไร ใครไม่ป่วยก็คงไม่รู้หรอกว่า อาการไทรอยด์มันมีผลอะไรกับร่างกายบ้าง
เมื่อคุณหมอนัดตรวจเลือดอีกครั้งหลังจากเดือนที่ 6 ที่เพิ่มยา 3 เวลาแล้ว ได้ยินคุณหมอ 2 คนปรึกษากัน ว่ายาที่ให้ครั้งล่าสุดมันเกินโดส หมอคุยกันสักพัก แล้วหันมา เราถามหมอว่า ไทรอยด์มันไม่ลดเหรอคะ หมอตอบว่า "ตอนนี้มันต่ำไปด้วยซ้ำ" หมอแนะนำให้กลืนแร่ ไม่ก็ผ่าตัด แต่จะมีแผลเป็นใหญ่นะ หมอไม่แนะนำให้กินยานานๆ จะเสี่ยงกับกระดูกพรุน หมอคงเห็นหน้าเราซีด ถามเราว่า ไม่อยากกลืนแร่เหรอ เราตอบ ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ
หมอปรึกษากันอีกครั้ง แล้วบอกว่าจะให้กินยา 15 วัน แล้วมาดูผลเลือดกันอีกที หมอนัด วันที่ 4 ก.พ.
หมอให้ยาเป็น methimazole 2 เม็ด+ ใจสั่น 1 เม็ด (กินเฉพาะเช้า)
หลังจากกินยาเกือบจะครบ 15 วัน อาการที่เป็นไม่รู้จะคิดไปเองรึเปล่า แต่เป็นช่วงที่รู้สึกทรมาน อากานใจสั่น ใจเต้นเร็วเมื่อตื่นนอนยังมีอยู่ อ้วนขึ้นอีก และปวดตามเนื้อตัว โดยเฉพาะแขน ไหล่ และช่องอก มือชา ขาชา เหมือนปวดกระดูก ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ยกของหนักหรือใช้แขนมากกว่าเดิม พยายามใช้กำลังแขนให้น้อยลงกว่าเดิมอีก เพราะกลัวจะปวดมากขึ้น ปวดเกือบทุกวันโดยเฉพาะช่วงเย็น - เช้าของอีกวัน จะนวดด้วยยา ประคบ ร้อน- เย็นก็ไม่หาย ท้องอืดแน่นท้องทุกวัน ไม่ว่าจะกินมากหรือน้อย ปวดร้อนวูบวาบที่ท้อง อึดอัดสุดๆ
วันมะรืนนี้แล้วที่หมอนัด ต้องรอดูผลเลือดอีกที ถ้าต้องรักษาด้วยการกลืนแร่ ก็คงไม่กลัวเท่าไหร่แล้ว บางครั้งหาข้อมูลผลข้างเคียงมากๆ ก็รู้สึกกลัวค่ะ แต่ก้คิดไปว่า มันไม่ได้เกิดกับทุกคนทุกอาการ ถ้าต้องกลืนจริงๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิต (ปลอบใจตัวเอง) เป็นคนที่ไม่ชอบกินยาเลย แต่ก็ต้องมากินประจำเพราะไทรอยด์ ไม่ชอบกินอะไรที่รสชาดแปลกๆ น้ำแร่มันก็แปลกสำหรับเรานะ แต่มันไม่ได้ทำให้เราชัก ซะหน่อย ไม่ใช่ทุกคนจะได้กินนะ เราเป็นคนพิเศษ ผ่าตัดก็เคยมาแล้ว กลืนน้ำแก้วเดียว จิ๊บๆ ใช่มั้ยคะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เป็นไทรอยด์เหมือนกัน ขอให้หายไวๆ ค่ะ
ส่วนตัว จขกท. ได้มีโรคประจำตัวกับเค้าแล้ว (คิดได้แค่นี้เองค่ะ)