มีคำถามหน่อยนะคะ ไอเอล6.5นี้สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างคะ
กระทู้นี้อาจจะงงๆหน่อยนะคะ พอดีเป็นคนเขียนไม่ค่อยเก่ง เวลาพูดยัง งงๆ ตัวเองเลยค่ะ ฮ่าๆ
หนูอยากมาเล่าประสบการณ์แม้คะแนนจะไม่ได้ดีมากก็ตาม แต่ถ้าตั้งใจยังไงก็ทำได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนนนน
จุดประสงค์ของการสอบครั้งนี้:
แม่ล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะให้เอาไปใช้ทำอะไรเหมือนกัน เพราะเมืองนอกแม่ก็ไม่ให้เรียนค่ะ หนูก็งง และคิดว่าแม่ก็งงตัวเองเช่นกัน555
หนูเรียนโรงเรียนไทยมาแต่เด็กเลยนะคะ ก็ลองไปสอบดูเล่นๆค่ะ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก
วิธีเตรียมตัวของหนูนะคะ คนอื่นก็อาจจะต่างๆกันไปเน้อ:
ด้วยความตื่นเต้นเนี่ย ยังไงๆ ขอเรียนไว้ก่อน เค้าก็บอกกันไว้ตั้งเยอะว่าเรียนเองได้ เราก็ไม่เชื้อไม่เชื่อ ต้องไปเรียนเซ่
1.เรียน
writing อาทิตย์ละ1-2ครั้ง ครั้งละ 2 ชม เป็นเวลา 1 เดือน เดี๋ยวน้าาาาาา พาร์ทนี้แหละค่ะ ที่ได้น้อยที่สุดเลย เสียใจอุตส่าห์เรียน555
2.เรียน
speaking กับครูฝรั่งประมาณสามสี่ครั้งได้ ครั้งละสองชั่วโมง พูดจนคอแห้งกันเลยทีเดียว
3.
reading กับ listening คุณครูให้เอากลับมาฝึกเอง เป็นคนขี้เกียจเอามากๆ ทำข้อสอบสองส่วนนี้ไปประมาณ 4 ชุดค่ะ (ข้อสอบเหมือนจริง)
สรุป:
ในความเห็นหนูเนี่ย ไม่ต้องเรียนก็ได้นะจริงๆ5555 เพราะตอนหนูเรียนก็เรียนๆลืมๆอะค่ะ ไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่ เพราะสอบที่โรงเรียนก็ต้องอ่าน สอบเข้ามหาลัยก็ต้องอ่าน ไอเอลนี่เลยมาเป็นอันดับสุดท้ายเลย ก็ถ้าต้องสอบรอบต่อไปก็คงไม่เรียนแล้วล่ะค่ะ มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ลองโหลดแบบฝึกหัดมาทำดูมันก็มีแค่นั้นแหละ ไม่ต้องไปเรียนให้เสียตังค์ เชื่อเถ้อะะะะะะะ หรือซื้อหนังสือมาสักเล่มก็ได้เพื่อความสบายใจค่ะ
เรียนไปได้สักพัก... อ่าวเห้ย ลืมสมัคร! ทำไงล่ะทีนี้ กลัวแม่ว่าสุดๆ รีบโทรไปถามidpกับbritish counsil สรุปแอ้ดดดดดดดด เต็มทั้งคู่
ชีวิตเริ่มเห็นจุดจบ ทำใจเดินไปบอกแม่ และมาสมัครรอบมกราแทนค่ะ จากที่จริงๆจะสอบเดือนธันวา
และวันสมัครก็มาถึง
หนูเลือกที่จะสมัครของidpนะคะ เหตุผลก็คือ ชอบลำโพงมากกว่าใส่หูฟัง ฮาาาา
สิ่งที่ต้องเตรียมไปจากบ้านก็คือ
1.บัตรประชาชน
2.เงินค่าสมัคร
วันนั้นคุณแม่มาส่งที่บีทีเอสและให้หนูไปเอง ต้องหาข้อมูลเองทั้งหมดเลยนะคะเพราะคุณแม่บอกต้องทำเองจะได้เข้าใจ แง
ก็ไปลงสถานีศาลาแดง เดินลงทางออกที่2 ลงมาปุ้ป ก็เดินไปตามทางเดียวกับรถวิ่งนั่นแหละค่ะ จริงๆตึกCPมันไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้าเลย แต่ตอนนั้นมันไม่รู้ มันตื่นเต้นมากๆ กังวลสุดๆ เดินไปได้นิดนึงก็ถามคุณป้าที่ขายของว่ามันอยู่ตรงไหน ป้าเค้าก็ชี้ไป เอิ่ม มันใกล้มาก มันควรจะเห็น ไม่น่าถามเลย5555 ก็ขอบคุณและรีบเดินออกมา อายนิดๆ
พอมาถึงตึกก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสี่ วันนั้นเป็นวันที่มีสอบพอดี เลยคนเต็มไปหม้ดดด เค้ามารอสอบspeakingกันค่ะ หนูก็เดินเข้าไปงงๆ บอกมาสมัครสอบค่ะ เค้าก็ชี้ไปที่โต๊ะด้านใน เป็นโต๊ะรับสมัคร
กรอกใบสมัคร ยื่นบัตรปชช จ่ายเงิน ถ่ายรูป กลับบ้านได้ค่า ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีเลยค่ะ ไม่คิดว่าไอเอลจะสมัครง่ายขนาดนี้ นั่งที่โต๊ะเดียวและไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนด้วยค่ะ
พอมาถึงตรงนี้แล้วก็รอค่ะ รอวันสอบ ระหว่างรอก็น่าจะหาอะไรมาพัฒนาทักษะซะหน่อย
หนูก็ตัดสินใจ 1.ดูซีรี่ย์ก็ได้ (เหมือนไม่เต็มใจ5555) ซีรีย์ภาษาอังกฤษนะคะ ห้ามเปิดซับไทยเด็ดขาด
2.นิยายภาษาอังกฤษซักเล่ม ซึ่งจริงๆก็ชอบอ่านอยู่แล้วแต่พอช่วงเอนท์ก็ต้องหยุดไป
หนูรู้สึกว่าสองอย่างนี้มันช่วยมากจริงๆนะคะ ทำให้เรากล้าพูดมากขึ้นแล้วก็รู้ศัพท์มากขึ้นด้วยค่ะ ที่สำคัญ สนุก55555
ถ้าพ่อแม่ท่านไหนเห็นลูกกำลังอ่านหรือดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่เนี่ย อย่าไปว่าเลยนะคะ สกิลกำลังมา อิอิ
ต่อไปก็จะถึงวันจริงแล้วค่า วันจริงก็ไม่วายโก๊ะอีกจนได้5555 จะมีคนสนใจมั้ยน้า
เด็กอายุ 17 กับการสอบ IELTS ได้ 6.5 ในครั้งแรก
กระทู้นี้อาจจะงงๆหน่อยนะคะ พอดีเป็นคนเขียนไม่ค่อยเก่ง เวลาพูดยัง งงๆ ตัวเองเลยค่ะ ฮ่าๆ
หนูอยากมาเล่าประสบการณ์แม้คะแนนจะไม่ได้ดีมากก็ตาม แต่ถ้าตั้งใจยังไงก็ทำได้นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนนนน
จุดประสงค์ของการสอบครั้งนี้:
แม่ล้วนๆเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะให้เอาไปใช้ทำอะไรเหมือนกัน เพราะเมืองนอกแม่ก็ไม่ให้เรียนค่ะ หนูก็งง และคิดว่าแม่ก็งงตัวเองเช่นกัน555
หนูเรียนโรงเรียนไทยมาแต่เด็กเลยนะคะ ก็ลองไปสอบดูเล่นๆค่ะ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก
วิธีเตรียมตัวของหนูนะคะ คนอื่นก็อาจจะต่างๆกันไปเน้อ:
ด้วยความตื่นเต้นเนี่ย ยังไงๆ ขอเรียนไว้ก่อน เค้าก็บอกกันไว้ตั้งเยอะว่าเรียนเองได้ เราก็ไม่เชื้อไม่เชื่อ ต้องไปเรียนเซ่
1.เรียน writing อาทิตย์ละ1-2ครั้ง ครั้งละ 2 ชม เป็นเวลา 1 เดือน เดี๋ยวน้าาาาาา พาร์ทนี้แหละค่ะ ที่ได้น้อยที่สุดเลย เสียใจอุตส่าห์เรียน555
2.เรียน speaking กับครูฝรั่งประมาณสามสี่ครั้งได้ ครั้งละสองชั่วโมง พูดจนคอแห้งกันเลยทีเดียว
3.reading กับ listening คุณครูให้เอากลับมาฝึกเอง เป็นคนขี้เกียจเอามากๆ ทำข้อสอบสองส่วนนี้ไปประมาณ 4 ชุดค่ะ (ข้อสอบเหมือนจริง)
สรุป:
ในความเห็นหนูเนี่ย ไม่ต้องเรียนก็ได้นะจริงๆ5555 เพราะตอนหนูเรียนก็เรียนๆลืมๆอะค่ะ ไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่ เพราะสอบที่โรงเรียนก็ต้องอ่าน สอบเข้ามหาลัยก็ต้องอ่าน ไอเอลนี่เลยมาเป็นอันดับสุดท้ายเลย ก็ถ้าต้องสอบรอบต่อไปก็คงไม่เรียนแล้วล่ะค่ะ มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ลองโหลดแบบฝึกหัดมาทำดูมันก็มีแค่นั้นแหละ ไม่ต้องไปเรียนให้เสียตังค์ เชื่อเถ้อะะะะะะะ หรือซื้อหนังสือมาสักเล่มก็ได้เพื่อความสบายใจค่ะ
เรียนไปได้สักพัก... อ่าวเห้ย ลืมสมัคร! ทำไงล่ะทีนี้ กลัวแม่ว่าสุดๆ รีบโทรไปถามidpกับbritish counsil สรุปแอ้ดดดดดดดด เต็มทั้งคู่
ชีวิตเริ่มเห็นจุดจบ ทำใจเดินไปบอกแม่ และมาสมัครรอบมกราแทนค่ะ จากที่จริงๆจะสอบเดือนธันวา
และวันสมัครก็มาถึง
หนูเลือกที่จะสมัครของidpนะคะ เหตุผลก็คือ ชอบลำโพงมากกว่าใส่หูฟัง ฮาาาา
สิ่งที่ต้องเตรียมไปจากบ้านก็คือ
1.บัตรประชาชน
2.เงินค่าสมัคร
วันนั้นคุณแม่มาส่งที่บีทีเอสและให้หนูไปเอง ต้องหาข้อมูลเองทั้งหมดเลยนะคะเพราะคุณแม่บอกต้องทำเองจะได้เข้าใจ แง
ก็ไปลงสถานีศาลาแดง เดินลงทางออกที่2 ลงมาปุ้ป ก็เดินไปตามทางเดียวกับรถวิ่งนั่นแหละค่ะ จริงๆตึกCPมันไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้าเลย แต่ตอนนั้นมันไม่รู้ มันตื่นเต้นมากๆ กังวลสุดๆ เดินไปได้นิดนึงก็ถามคุณป้าที่ขายของว่ามันอยู่ตรงไหน ป้าเค้าก็ชี้ไป เอิ่ม มันใกล้มาก มันควรจะเห็น ไม่น่าถามเลย5555 ก็ขอบคุณและรีบเดินออกมา อายนิดๆ
พอมาถึงตึกก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสี่ วันนั้นเป็นวันที่มีสอบพอดี เลยคนเต็มไปหม้ดดด เค้ามารอสอบspeakingกันค่ะ หนูก็เดินเข้าไปงงๆ บอกมาสมัครสอบค่ะ เค้าก็ชี้ไปที่โต๊ะด้านใน เป็นโต๊ะรับสมัคร กรอกใบสมัคร ยื่นบัตรปชช จ่ายเงิน ถ่ายรูป กลับบ้านได้ค่า ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีเลยค่ะ ไม่คิดว่าไอเอลจะสมัครง่ายขนาดนี้ นั่งที่โต๊ะเดียวและไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนด้วยค่ะ
พอมาถึงตรงนี้แล้วก็รอค่ะ รอวันสอบ ระหว่างรอก็น่าจะหาอะไรมาพัฒนาทักษะซะหน่อย
หนูก็ตัดสินใจ 1.ดูซีรี่ย์ก็ได้ (เหมือนไม่เต็มใจ5555) ซีรีย์ภาษาอังกฤษนะคะ ห้ามเปิดซับไทยเด็ดขาด
2.นิยายภาษาอังกฤษซักเล่ม ซึ่งจริงๆก็ชอบอ่านอยู่แล้วแต่พอช่วงเอนท์ก็ต้องหยุดไป
หนูรู้สึกว่าสองอย่างนี้มันช่วยมากจริงๆนะคะ ทำให้เรากล้าพูดมากขึ้นแล้วก็รู้ศัพท์มากขึ้นด้วยค่ะ ที่สำคัญ สนุก55555
ถ้าพ่อแม่ท่านไหนเห็นลูกกำลังอ่านหรือดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่เนี่ย อย่าไปว่าเลยนะคะ สกิลกำลังมา อิอิ
ต่อไปก็จะถึงวันจริงแล้วค่า วันจริงก็ไม่วายโก๊ะอีกจนได้5555 จะมีคนสนใจมั้ยน้า