ซื้อตั๋วโปรของjetstarเดือนมิถุนายนไว้ค่ะ
ไปเที่ยวประมาน 7 วัน

เราทำงานเปิดร้านเสริมความงามมี2สาขา
จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ประมาน2ปีแล้วค่ะ
มีการเดินสเตทเม้น 3 บช โดยเงินหมุนเข้าในแต่ละเดือนยอด2แสนได้ แต่ก็มีใช้จ่ายออกไปด้วย
เราเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัวเลยเดินบัญชีเป็นชื่อตัวเอง
แฟนมีหน้าที่เลี้ยงลูก2คนคนนึง 4ขวบ อีกคน 6เดือน. ไม่มีบัญชีเงินฝากค่ะ

และบ้านเราทำกิจการอพาร์ทเม้นด้วย โฉนดที่ดินคือชื่อแม่เรา. และร้านสาขาที่ 1 อยู่ที่นี่
สาขาที่ 2 ก็เปิดอีกที่

ก่อนหน้านี้เราได้ไปเที่ยวกันมาอาทิเช่น
2013 ครั้งที่1.ประเทศญี่ปุ่น แฟนกับลูกชายคนโต เรา
2014 ครั้งที่ 2 ประเทศจีน แฟนกับลูกชายคนโต เรา
2014 ครั้งที่ 3 ประเทศญี่ปุ่น แฟนกับลูกชายคนโต แม่ และเรา
2015 ครั้งที่ 4 ประเทศญี่ปุ่น แฟนกับลูกชายคนโต และเรา

และเดือนมีนาที่จะถึงนี้ก็จะไปฮ่องกงกันอีก โดยมีแฟน ลูกชายคนโต และเราเช่นกัน

และเดือนตุลาปีนี้ก็ซื้อตั๋วไปญี่ปุ่นอีกรอบมีชื่อแฟน ลูกชายคนโต และเราอีกเช่นกันค่ะ

เรามีเอกสารที่จะยื่นกับทางสถานทูตคือ
ทะเบียนการค้า
บัญชีเงินฝาก 3 บัญชี(ชื่อเรา)
ชื่อในรถมอไซต์
ชื่อในรถยนต์
ชื่อในคอนโด
และภาพถ่ายสถานประกอบการร้านเสริมความงามที่เรามี2สาขา
เอกสารใบเสร็จรับเงินย้อนหลัง(ถ้าเค้าต้องการหลักฐานที่มาของเงิน)
มีเวปไซต์ แฟนเพจร้าน
ใบประกอบวิชาชีพที่น่าเชื่อถือ
เอกสารที่ลูกชายคนโตเรียนอนุบาล
และว่าจะใส่ภาพถ่ายแต่ละทริปที่เราไปเที่ยวกัน
โฉนดที่ดินชื่อของแม่เรา ที่ตรงกับที่ร้านเราเปิดอยู่
ตั๋วเครื่องบินทริปที่ไปญี่ปุ่นเดือนตุลา(เพื่อแสดงว่าครอบครัวเราต้องกลับไทยมาแน่ๆ)

ส่วนลูกชายคนเล็ก(6เดือน)ช่วงระหว่างที่ไปเที่ยวออสเราฝากย่าเลี้ยงที่ไทย

ประเด็นที่จะถามคือ
1.เรากลัวแฟนจะไม่ผ่านวีซ่า เพราะเค้าเป็นพ่อบ้าน
เเละไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน (แต่แต่งงานกันนะคะ) เราสมควรที่จะไปจดทะเบียนตอนนี้เพื่อให้ง่ายต่อการยื่นวีซ่าไหม?
2.เราคิดว่าจะยื่นวีซ่าเดือนพค ซึ่งตั้งแต่มกราคม - พค เราจะใส่เงินในบัญชีให้ได้กี่แสนค่ะ ประมาน 2 แสนจะดูน่าเชื่อถือไหม