จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับ วันที่ 26 มกราคม 2558
พักภารกิจการงานนั่งดูละครแนว แอ๊คชั่น คอมเมดี้ แฟนตาซี อย่างเรื่อง “สายลับสามมิติ” ทางช่อง 3 ของผู้จัด ต้น-ณฐนนท์ ชลลัมพี จากค่ายชลลัมพี ซึ่งเป็นแนวถนัดของค่ายนี้ที่นิยมดึงเอาการทำงานที่ยาก ๆ สัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง มาผสมกันอย่างกลมกลืน กับเนื้อหาที่ฉีกแปลกแหวกแนว ทั้งเรื่องการทะลุมิติจากอดีตกลับมาสู่ปัจจุบันผ่านตัวละครฮีโร่สายพันธุ์ใหม่ จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ ฮิต ผ้าพันคอแดง ตามตัวละครนำในเรื่องอย่าง “สายลับเชน”
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือผู้จัดพยายามสอดแทรกคุณธรรมผ่านตัวละครตัวนี้ ผ่านบุคลิกของคนในยุคเก่าได้อย่างแนบเนียน ซึ่งเป็นสิ่งดีที่หลายครั้งเราก็มักจะหลงลืมไป คือให้ความสำคัญกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าตัวเอง ทนไม่ได้ อยู่เฉยไม่ได้เมื่อเห็นความเดือดร้อนของคนที่อ่อนแอกว่า ซึ่งสะท้อนมุมมองของสังคมปัจจุบันที่เราเองก็ไม่สามารถประเมินคนจากภายนอกหน้าตาเท่านั้นว่าใครเป็นคนดีใครเป็นคนไม่ดี
นอกจากละครเรื่องนี้จะให้แง่คิดคุณธรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับเยาวชน และคนทุกรุ่นได้นำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันแล้ว การเล่าเรื่องผ่านภาพกับมุมกล้องที่สวยงามก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ค่ายนี้ทำมาตลอด เรียกว่าคุณภาพโปรดักชั่น แน่น เรียกว่าจัดเต็มตั้งแต่ เสื้อผ้า หน้า ผม ตลอดจนอุปกรณ์ไฮเทค ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ แต่ละฉากที่หน้าตาแปลกพิสดาร แต่แฝงไว้ด้วยจินตนาการ ตื่นตาตื่นใจ และใช้งานได้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าทำละครเพื่อให้ทันออกอากาศ แต่สะท้อนถึงตัวผู้เกี่ยวข้องเอง ที่ได้ใส่จิตวิญญาณลงไปในงานนั้น ๆ อย่างตั้งใจและมีศิลปะ
จะว่าไปแล้วในความเห็นของผม “สายลับสามมิติ” เป็นละครที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี มีความสุขกันทั้งครอบครัว เพราะการเล่าเรื่องที่สนุกสนานเด็ก ๆ ตื่นเต้นกับอุปกรณ์ไฮเทคของสายลับ ที่สำคัญคือสายลับไม่ตายทำให้เด็ก ๆ เชื่อมั่นในสิ่งดี และเห็นผลลัพธ์ของการเป็นคนชั่ว ไม่ว่าจะแกล้งทำอย่างแนบเนียนขนาดไหนก็ตาม แต่ในที่สุดแล้วความชั่วที่ก่อไว้จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เห็นโฉมหน้าของคนชั่วที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด และจะต้องถูกจัดการในที่สุด ทำให้เด็ก ๆ อยากเลียนแบบและอยากเป็นฮีโร่ ซึ่งหมายความว่าคุณธรรมที่ผู้จัดตระหนักเกิดผล
ขอชื่นชมช่อง 3 ผู้จัดและทุกคนที่เกี่ยวข้องที่พยายามนำเสนอแง่มุมดี ๆ ผ่านความสนุกสนานโลกของละครได้อย่างลงตัว ทำให้ผมมีความหวังว่าจะมีละคร “น้ำดี” ดูกันอยู่เนือง ๆ ไม่ใช่มีแต่ละครรักใคร่ ตบจูบ แย่งผู้ชายกันไปมาแต่เพียงอย่างเดียว.
วิภา...วดี
{ สายลับสามมิติ } มากกว่าละครแต่สอนใจคนดู
พักภารกิจการงานนั่งดูละครแนว แอ๊คชั่น คอมเมดี้ แฟนตาซี อย่างเรื่อง “สายลับสามมิติ” ทางช่อง 3 ของผู้จัด ต้น-ณฐนนท์ ชลลัมพี จากค่ายชลลัมพี ซึ่งเป็นแนวถนัดของค่ายนี้ที่นิยมดึงเอาการทำงานที่ยาก ๆ สัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง มาผสมกันอย่างกลมกลืน กับเนื้อหาที่ฉีกแปลกแหวกแนว ทั้งเรื่องการทะลุมิติจากอดีตกลับมาสู่ปัจจุบันผ่านตัวละครฮีโร่สายพันธุ์ใหม่ จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ ฮิต ผ้าพันคอแดง ตามตัวละครนำในเรื่องอย่าง “สายลับเชน”
สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือผู้จัดพยายามสอดแทรกคุณธรรมผ่านตัวละครตัวนี้ ผ่านบุคลิกของคนในยุคเก่าได้อย่างแนบเนียน ซึ่งเป็นสิ่งดีที่หลายครั้งเราก็มักจะหลงลืมไป คือให้ความสำคัญกับประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าตัวเอง ทนไม่ได้ อยู่เฉยไม่ได้เมื่อเห็นความเดือดร้อนของคนที่อ่อนแอกว่า ซึ่งสะท้อนมุมมองของสังคมปัจจุบันที่เราเองก็ไม่สามารถประเมินคนจากภายนอกหน้าตาเท่านั้นว่าใครเป็นคนดีใครเป็นคนไม่ดี
นอกจากละครเรื่องนี้จะให้แง่คิดคุณธรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับเยาวชน และคนทุกรุ่นได้นำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันแล้ว การเล่าเรื่องผ่านภาพกับมุมกล้องที่สวยงามก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ค่ายนี้ทำมาตลอด เรียกว่าคุณภาพโปรดักชั่น แน่น เรียกว่าจัดเต็มตั้งแต่ เสื้อผ้า หน้า ผม ตลอดจนอุปกรณ์ไฮเทค ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ แต่ละฉากที่หน้าตาแปลกพิสดาร แต่แฝงไว้ด้วยจินตนาการ ตื่นตาตื่นใจ และใช้งานได้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าทำละครเพื่อให้ทันออกอากาศ แต่สะท้อนถึงตัวผู้เกี่ยวข้องเอง ที่ได้ใส่จิตวิญญาณลงไปในงานนั้น ๆ อย่างตั้งใจและมีศิลปะ
จะว่าไปแล้วในความเห็นของผม “สายลับสามมิติ” เป็นละครที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี มีความสุขกันทั้งครอบครัว เพราะการเล่าเรื่องที่สนุกสนานเด็ก ๆ ตื่นเต้นกับอุปกรณ์ไฮเทคของสายลับ ที่สำคัญคือสายลับไม่ตายทำให้เด็ก ๆ เชื่อมั่นในสิ่งดี และเห็นผลลัพธ์ของการเป็นคนชั่ว ไม่ว่าจะแกล้งทำอย่างแนบเนียนขนาดไหนก็ตาม แต่ในที่สุดแล้วความชั่วที่ก่อไว้จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เห็นโฉมหน้าของคนชั่วที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด และจะต้องถูกจัดการในที่สุด ทำให้เด็ก ๆ อยากเลียนแบบและอยากเป็นฮีโร่ ซึ่งหมายความว่าคุณธรรมที่ผู้จัดตระหนักเกิดผล
ขอชื่นชมช่อง 3 ผู้จัดและทุกคนที่เกี่ยวข้องที่พยายามนำเสนอแง่มุมดี ๆ ผ่านความสนุกสนานโลกของละครได้อย่างลงตัว ทำให้ผมมีความหวังว่าจะมีละคร “น้ำดี” ดูกันอยู่เนือง ๆ ไม่ใช่มีแต่ละครรักใคร่ ตบจูบ แย่งผู้ชายกันไปมาแต่เพียงอย่างเดียว.
วิภา...วดี