เก๋งผิดเหรอ?
เรื่องนี้ค่อนข้างยาว ถ้าใครสมาธิสั้นและไม่ชอบอ่านหนังสือไม่ควรอ่านค่ะ
ดิฉันยอมรับว่าโกรธจริงๆ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมา
ขอเล่าเหตุการณ์ตามลำดับดังนี้
- ถนนมี 3 เลน เป็นบริเวณหน้าสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่มีประชาชนไปติดต่อมากมาย ในแต่ละวัน บริเวณนั้นรถแต่ละคันค่อนข้างจะขับกันช้าไม่โลดโผนเนื่องจากรถจะติดบริเวณนั้น และมีป้ายรถเมล์ด้วย
- ดิฉันขับรถเก๋ง เป็นเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าว ได้ขับผ่านไปถนนเส้นนั้น ดิฉันขับเลนกลาง
- ดิฉันตั้งใจจะเข้าไปทำธุระในสถานที่สำคัญแห่งนั้น แต่ขับไปเลนกลางเนื่องจากไม่อยากติดรถเมล์จอดที่ป้าย ขับด้วยความเร็วประมาณ 40- 50
- ขณะที่เตรียมจะเข้าประตูของสถานที่แห่งนั้นประมาณ อีก 10 กว่าเมตร รถเมล์ได้เบี่ยงตัวออกมาจากเลนซ้ายสุดอย่างกะทันหันเข้ามาในเลนกลางที่ดิฉันกำลังขับรถอยู่ ดิฉันจึงบีบแตรเสียงดังใส่เตือนรถเมล์คันดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าอย่าเพิ่งออกมามันอันตราย พร้อมกันนั้นก็ชะลอความเร็วลง มั่นใจว่ายังไงก็หยุดทัน ไม่มีทางชนรถเมล์แน่ๆ (ดิฉันเจอเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นประจำตั้งแต่เริ่มขับรถในปี 53)
- เมื่อบีบแตรแล้วรถเมล์ยังไม่ยอมหยุด ยังเบี่ยงตัวออกมาขวางหน้าดิฉันในเลนกลาง ดิฉันจำต้องเบรคในทันทีเพื่อปกป้องรถของตัวเองไม่ให้ยับเยิน ดิฉันทำเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเอง รถของดิฉันจึงไม่ชนรถเมล์คันดังกล่าว เบรคในระดับที่ไม่แรง คุณแม่ที่นั่งมาด้วยหัวไม่พุ่งมาข้างหน้า เบรคในระดับที่ปกติทั่วไป คุณแม่บอกว่าดิฉันเบรคปกติ เหมือนไม่มีอะไรร้ายแรง
- หลังจากเบรคก็ได้ยินเสียงกระจกแตก และเสียงโครมดังลั่น หันไปมองด้านขวามือ เห็นคนขี่มอเตอร์ไซค์สองคน ลงไปกองกับพื้น คนขับเลือดไหลได้รับบาดเจ็บ ที่มือข้างซ้าย เลือดอาบ มอเตอร์ไซค์ล้ม
- รถที่ขับตามๆ มาหยุดได้ทันหมด ไม่มีใครวิ่งมาด้วยความเร็วจนหยุดไม่ทัน ดังนั้น ชายสองคนนี้จึงไม่ถูกรถตามหลังทับ อย่างที่บอกว่าถนนเส้นนี้ไม่มีใครขับเร็ว
- ดิฉันจอดรถนิ่งอยู่นานด้วยความตกใจ นึกอะไรไม่ออก ที่ผ่านมาเคยเจอแต่รถกะบะวิ่งมาเสยหน้ารถ แล้วขับรถไปเคลียร์กันเอง ไม่เคยเจอกรณีเนื้อหุ้มเหล็กมาก่อน และเป็นกรณีที่ได้รับบาดเจ็บเลือดนอง ไม่รู้จะทำไงมือสั่นตกใจ ได้แต่หยิบดินสอ และสมุดขึ้นมาจดเลขทะเบียนรถเมล์คันดังกล่าวที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
- หน่วยกู้ภัยมาไวดังสายลม บอกให้ดิฉันช่วยขับรถเข้ามาข้างทาง ด้วยความไม่รู้และไม่มีประสบการณ์มาก่อนกับกรณีนี้ จึงทำตามที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอก (ทั้งที่ความจริงในประกันบอกว่า ห้ามเคลื่อนย้ายรถจนกว่าประกันหรือตำรวจจะมา)
- รถของดิฉันทำประกันภัยชั้น 1 กับบริษัทปะกันภัยแห่งหนึ่งที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ตอนนั้นยังไม่ได้ดูว่ารถตัวเองได้รับความเสียหายคือไฟท้ายด้านขวาแตก มีริ้วรอยขีดแถวๆ ด้านขวานิดหน่อย กับตรงล้อแม็ก ตอนนั้นดิฉันลนลานทำอะไรไม่ถูก ลูกค้าที่เคยมาใช้บริการทำงานที่ร้านของดิฉันเห็นพอดีเพราะยืนอย่ที่ป้ายรถเมล์พอดีจึงเดินเข้ามาให้กำลังใจดิฉันเต็มที่ บอกให้ใจเย็นๆ คนขับมอเตอร์ไซค์ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกลูก บาดเจ็บนิดเดียว ส่วนแม่ของดิฉันก็ตกใจไม่ต่างกัน ดิฉันตกใจจนหาอะไรไม่เจอสักอย่าง
- เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกให้คนขับมอเตอร์ไซค์ไป รพ. คนขับมอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บคือมือซ้ายเนื้อฉีกบริเวณนิ้ว แขนน่าจะเคล็ด เลือดหยดเต็มไปหมดที่บริเวณป้ายรถเมล์ แต่คนขับดูจะยังไม่อยากไป รพ. ขนาดเลือดหยดไหลไม่ยอมหยุดขนาดนั้น ยังดูรีๆ รอๆ ได้อีก เจ้าหน้ากู้ภัยถามคนขับมอเตอร์ไซค์ว่า พี่ไม่มีเงินสำรองบ้างเลยเหรอไง ดิฉันได้ยินก็งงๆ แล้วยังไงต่อ
- เจ้าหน้าที่กู้ภัยถามดิฉันว่า รถพี่มีประกันรึเปล่า ดิฉันบอกว่ามี
- คนที่นั่งซ้อนท้ายมาบอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ไป รพ.หรอก จะนั่งรอประกันภัยของเจ๊เขามา (ประกันที่ว่าหมายถึงประกันของดิฉัน) เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกให้ไป รพ.ก็ไม่ยอมไป
- ดิฉันโทรหาบริษัทประกัน โทรไปทั้งที่ยังไม่รู้จะพูดอะไรด้วยซ้ำ ลูกค้าที่ผ่านมาเจอดิฉันบอกให้ใจเย็นๆ ดิฉันพยายามตั้งสติ เพราะงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ดิฉันก็เบรคเหมือนทุกที แล้วทำไมคราวนี้มันมีมอเตอร์ไซค์มาชนล่ะ ชนได้ไงเนี่ยยยย...
- ดิฉันเล่าให้บริษัทประกันฟังไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่าแค่ตอนเบรครถแล้วก็มีเสียงเหมือนชนที่ท้าย แล้วจึงส่งโทรศัพท์ให้คนขับมอเตอร์ไซค์เล่าต่อ (ด่าตัวเองจนวันนี้ โง่มาก ทำไปได้ไง สติแตกแท้ๆ) แล้วหลังจากที่คนขับมอเตอร์ไซค์คุยก็วางสายไปเอง ดิฉันถามเขาว่าตกลงประกันว่าไง เขาบอกว่า เดี๋ยวให้ประกันตามเขาไปที่โรงพยาบาลด้วย (ดิฉันก็งงๆ ทำไมต้องตาม ทำไมเขาจะต้องให้ประกันต้องไปที่รพ. ที่เขารักษาตัวด้วย ดิฉันแค่เบรครถเพราะป้องกันตัวเอง ไม่ให้รถตัวเองชนรถเมล์ แต่เขาได้รับบาดเจ็บเพราะเขาทำตัวเอง ขับรถมอเตอร์ไซค์อย่างประมาทจนมาชนไฟท้ายรถดิฉันเสียหาย)
รถเก๋งเบรคกะทันหันเพื่อไม่ให้ชนรถเมล์ จึงถูกมอเตอร์ไซค์ชนท้ายแทน
เรื่องนี้ค่อนข้างยาว ถ้าใครสมาธิสั้นและไม่ชอบอ่านหนังสือไม่ควรอ่านค่ะ
ดิฉันยอมรับว่าโกรธจริงๆ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมา
ขอเล่าเหตุการณ์ตามลำดับดังนี้
- ถนนมี 3 เลน เป็นบริเวณหน้าสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่มีประชาชนไปติดต่อมากมาย ในแต่ละวัน บริเวณนั้นรถแต่ละคันค่อนข้างจะขับกันช้าไม่โลดโผนเนื่องจากรถจะติดบริเวณนั้น และมีป้ายรถเมล์ด้วย
- ดิฉันขับรถเก๋ง เป็นเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าว ได้ขับผ่านไปถนนเส้นนั้น ดิฉันขับเลนกลาง
- ดิฉันตั้งใจจะเข้าไปทำธุระในสถานที่สำคัญแห่งนั้น แต่ขับไปเลนกลางเนื่องจากไม่อยากติดรถเมล์จอดที่ป้าย ขับด้วยความเร็วประมาณ 40- 50
- ขณะที่เตรียมจะเข้าประตูของสถานที่แห่งนั้นประมาณ อีก 10 กว่าเมตร รถเมล์ได้เบี่ยงตัวออกมาจากเลนซ้ายสุดอย่างกะทันหันเข้ามาในเลนกลางที่ดิฉันกำลังขับรถอยู่ ดิฉันจึงบีบแตรเสียงดังใส่เตือนรถเมล์คันดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าอย่าเพิ่งออกมามันอันตราย พร้อมกันนั้นก็ชะลอความเร็วลง มั่นใจว่ายังไงก็หยุดทัน ไม่มีทางชนรถเมล์แน่ๆ (ดิฉันเจอเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นประจำตั้งแต่เริ่มขับรถในปี 53)
- เมื่อบีบแตรแล้วรถเมล์ยังไม่ยอมหยุด ยังเบี่ยงตัวออกมาขวางหน้าดิฉันในเลนกลาง ดิฉันจำต้องเบรคในทันทีเพื่อปกป้องรถของตัวเองไม่ให้ยับเยิน ดิฉันทำเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเอง รถของดิฉันจึงไม่ชนรถเมล์คันดังกล่าว เบรคในระดับที่ไม่แรง คุณแม่ที่นั่งมาด้วยหัวไม่พุ่งมาข้างหน้า เบรคในระดับที่ปกติทั่วไป คุณแม่บอกว่าดิฉันเบรคปกติ เหมือนไม่มีอะไรร้ายแรง
- หลังจากเบรคก็ได้ยินเสียงกระจกแตก และเสียงโครมดังลั่น หันไปมองด้านขวามือ เห็นคนขี่มอเตอร์ไซค์สองคน ลงไปกองกับพื้น คนขับเลือดไหลได้รับบาดเจ็บ ที่มือข้างซ้าย เลือดอาบ มอเตอร์ไซค์ล้ม
- รถที่ขับตามๆ มาหยุดได้ทันหมด ไม่มีใครวิ่งมาด้วยความเร็วจนหยุดไม่ทัน ดังนั้น ชายสองคนนี้จึงไม่ถูกรถตามหลังทับ อย่างที่บอกว่าถนนเส้นนี้ไม่มีใครขับเร็ว
- ดิฉันจอดรถนิ่งอยู่นานด้วยความตกใจ นึกอะไรไม่ออก ที่ผ่านมาเคยเจอแต่รถกะบะวิ่งมาเสยหน้ารถ แล้วขับรถไปเคลียร์กันเอง ไม่เคยเจอกรณีเนื้อหุ้มเหล็กมาก่อน และเป็นกรณีที่ได้รับบาดเจ็บเลือดนอง ไม่รู้จะทำไงมือสั่นตกใจ ได้แต่หยิบดินสอ และสมุดขึ้นมาจดเลขทะเบียนรถเมล์คันดังกล่าวที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
- หน่วยกู้ภัยมาไวดังสายลม บอกให้ดิฉันช่วยขับรถเข้ามาข้างทาง ด้วยความไม่รู้และไม่มีประสบการณ์มาก่อนกับกรณีนี้ จึงทำตามที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอก (ทั้งที่ความจริงในประกันบอกว่า ห้ามเคลื่อนย้ายรถจนกว่าประกันหรือตำรวจจะมา)
- รถของดิฉันทำประกันภัยชั้น 1 กับบริษัทปะกันภัยแห่งหนึ่งที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ตอนนั้นยังไม่ได้ดูว่ารถตัวเองได้รับความเสียหายคือไฟท้ายด้านขวาแตก มีริ้วรอยขีดแถวๆ ด้านขวานิดหน่อย กับตรงล้อแม็ก ตอนนั้นดิฉันลนลานทำอะไรไม่ถูก ลูกค้าที่เคยมาใช้บริการทำงานที่ร้านของดิฉันเห็นพอดีเพราะยืนอย่ที่ป้ายรถเมล์พอดีจึงเดินเข้ามาให้กำลังใจดิฉันเต็มที่ บอกให้ใจเย็นๆ คนขับมอเตอร์ไซค์ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกลูก บาดเจ็บนิดเดียว ส่วนแม่ของดิฉันก็ตกใจไม่ต่างกัน ดิฉันตกใจจนหาอะไรไม่เจอสักอย่าง
- เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกให้คนขับมอเตอร์ไซค์ไป รพ. คนขับมอเตอร์ไซค์ได้รับบาดเจ็บคือมือซ้ายเนื้อฉีกบริเวณนิ้ว แขนน่าจะเคล็ด เลือดหยดเต็มไปหมดที่บริเวณป้ายรถเมล์ แต่คนขับดูจะยังไม่อยากไป รพ. ขนาดเลือดหยดไหลไม่ยอมหยุดขนาดนั้น ยังดูรีๆ รอๆ ได้อีก เจ้าหน้ากู้ภัยถามคนขับมอเตอร์ไซค์ว่า พี่ไม่มีเงินสำรองบ้างเลยเหรอไง ดิฉันได้ยินก็งงๆ แล้วยังไงต่อ
- เจ้าหน้าที่กู้ภัยถามดิฉันว่า รถพี่มีประกันรึเปล่า ดิฉันบอกว่ามี
- คนที่นั่งซ้อนท้ายมาบอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ไป รพ.หรอก จะนั่งรอประกันภัยของเจ๊เขามา (ประกันที่ว่าหมายถึงประกันของดิฉัน) เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกให้ไป รพ.ก็ไม่ยอมไป
- ดิฉันโทรหาบริษัทประกัน โทรไปทั้งที่ยังไม่รู้จะพูดอะไรด้วยซ้ำ ลูกค้าที่ผ่านมาเจอดิฉันบอกให้ใจเย็นๆ ดิฉันพยายามตั้งสติ เพราะงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ดิฉันก็เบรคเหมือนทุกที แล้วทำไมคราวนี้มันมีมอเตอร์ไซค์มาชนล่ะ ชนได้ไงเนี่ยยยย...
- ดิฉันเล่าให้บริษัทประกันฟังไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่าแค่ตอนเบรครถแล้วก็มีเสียงเหมือนชนที่ท้าย แล้วจึงส่งโทรศัพท์ให้คนขับมอเตอร์ไซค์เล่าต่อ (ด่าตัวเองจนวันนี้ โง่มาก ทำไปได้ไง สติแตกแท้ๆ) แล้วหลังจากที่คนขับมอเตอร์ไซค์คุยก็วางสายไปเอง ดิฉันถามเขาว่าตกลงประกันว่าไง เขาบอกว่า เดี๋ยวให้ประกันตามเขาไปที่โรงพยาบาลด้วย (ดิฉันก็งงๆ ทำไมต้องตาม ทำไมเขาจะต้องให้ประกันต้องไปที่รพ. ที่เขารักษาตัวด้วย ดิฉันแค่เบรครถเพราะป้องกันตัวเอง ไม่ให้รถตัวเองชนรถเมล์ แต่เขาได้รับบาดเจ็บเพราะเขาทำตัวเอง ขับรถมอเตอร์ไซค์อย่างประมาทจนมาชนไฟท้ายรถดิฉันเสียหาย)