ตอนเด็กเคยคิดว่าใต้ถุนบ้านเราสูง เอื้อมไม่ยักกะถึง
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ตัวเราสูงขึ้น และถนนในหมู่บ้านก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ตอนนี้ เวลากลับไปเยี่ยมบ้านนอก ลอดใต้ถุนบ้านทีไร รู้สึกอึดอัดจัง
พ.ศ.2514 บ้านหลังนี้คุ้มแดด คุ้มฝนมา 44 ปีแล้ว
ภาพโดยรวม
ซ้ายที
ขวาที
มุมไกลอีกที ..จริงๆแล้ว บ้านไม่ได้เตี้ยมาก ผมสูง 173 ยังเหลือประมาณศอกนึง
แต่ตรงบันไดทางขึ้น ช่างสมัยก่อนเขาทำให้เตี้ยกว่าบริเวณอื่น เป็นเทคนิคช่าง
แรกเริ่มเดิมที ความคิดของผม ตั้งใจว่าจะรื้อ และสร้างบ้านใหม่หลังเล็กๆให้แม่กับพ่ออยู่
แต่พิจารณาหลายอย่าง พ่อเสียดายไม้ที่ยังดีอยู่มาก และท่านก็กลัวลูกมีภาระเยอะ
ผมถอยออกมาสามสิบก้าว และเดินโดยรอบ
สรุปคือในเมื่อบ้านยังดีอยู่ ยังทนฟ้าทนฝนได้ มอดไม่มีขึ้นสักตัว แล้วจะไปสร้างภาระทำไม
จึงเปลี่ยนความคิดมาเป็นปรับปรุง บ้านที่มีอยู่ ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม ดีกว่า
ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน จะทำสิ่งที่จำเป็น และสำคัญก่อน
สิ่งแรกคือ สร้างห้องนอนและห้องน้ำ ข้างล่างให้พ่อแม่อยู่ จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลง
แต่ บ้านมันเตี้ยไป เราก็ต้องยกให้มันสูงขึ้นซะก่อน
และแล้ว...
เสาหายยยย
เหล็กสมัยก่อนดีจังเลย ไม่มีสนิมขึ้น และหินที่เอาทำเสาก็คือหินจากแม่น้ำลำคลอง(แม่บอก)
พอบ้านสูงขึ้น ทำให้เห็นขื่อ แป ชัดเจนมาก
สิ่งที่กังวลคือ ส่วนใหญ่พื้นบ้านจะมีช่องเยอะ เพราะแม่บอกว่าตอนทำบ้าน เป็นไม้ยังไม่แห้งดี มันเลยหด
กำลังคิดว่าจะให้ช่างมางัดออกทั้งหมดและปูใหม่ทั้งหมด เพราะผมไม่อยากใส่เพดาน อยากโชว์ขื่อ แป เพราะมันสวยดี
ช่างยกบ้าน ใส่ใจรายละเอียดดี
ไม้มุมนี้สวยจัง
เสาใหม่ต้นแรก ถูกถอดออกจากแบบ วัสดุซื้อเองเลือกแบบดีๆ ช่างบอกว่าดีกว่าซื้อแบบสำเร็จรูป
ตื่นเช้าอากาศหนาว ชีวิตต่างจังหวัดเรียบง่าย นอนไว ตื่นเช้ามืด
เดินดูรอบบ้าน แม่หาที่ว่างปลูกผักเล็กๆน้อย ดูน่ารักจัง
จริงๆที่ว่างเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะต้นกล้วย ที่ท่านปลูกไว้ขายเป็นรายได้พิเศษ
มุมตรงนี้ รอทำบ้านเสร็จว่าจะถมดิน ปลูกหญ้า เอาเก้ากี้สนามมาวางกินกาแฟ
จบละครับ
ผมกลับไปดูเขายกบ้าน และเอามันนี่ไปให้ แค่วันเดียวแล้วกลับกรุงเทพเลย
เพราะมีงานต้องทำเยอะแยะ เลยอาศัยโทรคุยกับพ่อแม่ ถามทุกวันว่าเป็นยังไงบ้าง
ณ วันนี้เสร็จแล้วครับ แต่ยังไม่มีภาพ ตอนนี้บอกให้แม่สั่งดินมาถมใต้ถุน เพื่อเตรียมเทคอนกรีต
และกั้นห้องนอน ห้องน้ำ ตามที่คิดไว้
โอกาสหน้าถ้ามีโอกาสจะมาอัพเดทความเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ
...สโลว สโลว ไม่รีบ ค่อยเป็น ค่อยไป จะได้ไม่เดือดร้อน
อยากเป็นคนชั้นสูง ดีดบ้านรับลมซะหน่อย :)
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ตัวเราสูงขึ้น และถนนในหมู่บ้านก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ตอนนี้ เวลากลับไปเยี่ยมบ้านนอก ลอดใต้ถุนบ้านทีไร รู้สึกอึดอัดจัง
พ.ศ.2514 บ้านหลังนี้คุ้มแดด คุ้มฝนมา 44 ปีแล้ว
ภาพโดยรวม
ซ้ายที
ขวาที
มุมไกลอีกที ..จริงๆแล้ว บ้านไม่ได้เตี้ยมาก ผมสูง 173 ยังเหลือประมาณศอกนึง
แต่ตรงบันไดทางขึ้น ช่างสมัยก่อนเขาทำให้เตี้ยกว่าบริเวณอื่น เป็นเทคนิคช่าง
แรกเริ่มเดิมที ความคิดของผม ตั้งใจว่าจะรื้อ และสร้างบ้านใหม่หลังเล็กๆให้แม่กับพ่ออยู่
แต่พิจารณาหลายอย่าง พ่อเสียดายไม้ที่ยังดีอยู่มาก และท่านก็กลัวลูกมีภาระเยอะ
ผมถอยออกมาสามสิบก้าว และเดินโดยรอบ
สรุปคือในเมื่อบ้านยังดีอยู่ ยังทนฟ้าทนฝนได้ มอดไม่มีขึ้นสักตัว แล้วจะไปสร้างภาระทำไม
จึงเปลี่ยนความคิดมาเป็นปรับปรุง บ้านที่มีอยู่ ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม ดีกว่า
ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน จะทำสิ่งที่จำเป็น และสำคัญก่อน
สิ่งแรกคือ สร้างห้องนอนและห้องน้ำ ข้างล่างให้พ่อแม่อยู่ จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลง
แต่ บ้านมันเตี้ยไป เราก็ต้องยกให้มันสูงขึ้นซะก่อน
และแล้ว...
เสาหายยยย
เหล็กสมัยก่อนดีจังเลย ไม่มีสนิมขึ้น และหินที่เอาทำเสาก็คือหินจากแม่น้ำลำคลอง(แม่บอก)
พอบ้านสูงขึ้น ทำให้เห็นขื่อ แป ชัดเจนมาก
สิ่งที่กังวลคือ ส่วนใหญ่พื้นบ้านจะมีช่องเยอะ เพราะแม่บอกว่าตอนทำบ้าน เป็นไม้ยังไม่แห้งดี มันเลยหด
กำลังคิดว่าจะให้ช่างมางัดออกทั้งหมดและปูใหม่ทั้งหมด เพราะผมไม่อยากใส่เพดาน อยากโชว์ขื่อ แป เพราะมันสวยดี
ช่างยกบ้าน ใส่ใจรายละเอียดดี
ไม้มุมนี้สวยจัง
เสาใหม่ต้นแรก ถูกถอดออกจากแบบ วัสดุซื้อเองเลือกแบบดีๆ ช่างบอกว่าดีกว่าซื้อแบบสำเร็จรูป
ตื่นเช้าอากาศหนาว ชีวิตต่างจังหวัดเรียบง่าย นอนไว ตื่นเช้ามืด
เดินดูรอบบ้าน แม่หาที่ว่างปลูกผักเล็กๆน้อย ดูน่ารักจัง
จริงๆที่ว่างเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่จะต้นกล้วย ที่ท่านปลูกไว้ขายเป็นรายได้พิเศษ
มุมตรงนี้ รอทำบ้านเสร็จว่าจะถมดิน ปลูกหญ้า เอาเก้ากี้สนามมาวางกินกาแฟ
จบละครับ
ผมกลับไปดูเขายกบ้าน และเอามันนี่ไปให้ แค่วันเดียวแล้วกลับกรุงเทพเลย
เพราะมีงานต้องทำเยอะแยะ เลยอาศัยโทรคุยกับพ่อแม่ ถามทุกวันว่าเป็นยังไงบ้าง
ณ วันนี้เสร็จแล้วครับ แต่ยังไม่มีภาพ ตอนนี้บอกให้แม่สั่งดินมาถมใต้ถุน เพื่อเตรียมเทคอนกรีต
และกั้นห้องนอน ห้องน้ำ ตามที่คิดไว้
โอกาสหน้าถ้ามีโอกาสจะมาอัพเดทความเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ
...สโลว สโลว ไม่รีบ ค่อยเป็น ค่อยไป จะได้ไม่เดือดร้อน