เริ่มจากมีเพื่อนต้องการออกกำลังกาย เลยมาถามเพื่อนคนนี้ว่า อยากเล่นกีฬาอะไร ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “มวย” เพื่อนก็จัดให้จ้า ไปหาข้อมูลเรื่องค่ายและพาดูสถานที่กัน นอกจากเพื่อนจะหาข้อมูลแล้วยังไปรับไปส่งบ้านทุกวัน (กราบงามๆ อิอิ) เริ่มที่เพื่อนบอกค่ายอยู่หลังช่องเจ็ด ไปจอดรถไว้ที่ลานจอดรถข้างๆ BTS จตุจักร แล้วก็นั่งพี่วินไป บอกว่าค่ายมวยหลังช่องเจ็ด ก็คือค่าย FA Group นี่แหละ ตอนแรกก็กะจะไปถามก่อนเพราะอยู่ใกล้บ้านที่สุด คิดไว้ว่าจะไปถามอีกหลายที่ แต่ก็มาเจอคุณลุงคนนี้ “คุณลุงขวัญโดม ศิษย์บารมี” ที่แทนตัวเองว่า “ตา”
ตาขวัญโดม ศิษย์บารมี
ต้องพูดเลยว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเรียนที่นี่เพราะ “ตาขวัญโดม” มีความรู้สึกว่าเขาพูดแบบจริงใจ น่ารักดี คนเข้ามาก็อธิบายให้ฟังแบบกันเอง บอกมาดูก่อนก็ได้ ค่อยมาเรียน ไปดูที่ช่องเจ็ดก็ได้ วันอาทิตย์ตาหาที่ให้นั่งดีๆ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงถ้าจะมาเรียนคงจะมีน้อยคนที่ตั้งใจจะไปเป็นนักมวยอาชีพ แต่คนที่นี่ก็ปฏิบัติกับผู้หญิงแบบไม่แบ่งเพศ การสอนก็เท่าเทียมกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาเรียนใหม่เหมือนกัน ยกเว้นกรณีที่ตั้งใจจะเป็นนักมวย อาจจะต้องเคี่ยวเข็ญแบบจริงๆ แต่สำหรับพวกเราก็เน้นว่ารู้พื้นฐานที่ถูกต้องของการชกและออกแรงชกจริง ถือว่าดีมากๆ เลยทีเดียว
ตอนที่มอไซด์รับจ้างมาจอดหน้าค่ายมวย แล้วนักมวยทุกคนที่กำลังซ้อมหันมามอง นี่ถ้าใครไปคนเดียว อยากจะบอกว่า อาการป๊อด อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะคำถามแรกที่เข้ามาในหัวเลยคือ “ฉันมาทำอะไรที่นี่?” แต่ในเมื่อมอเตอร์ไซด์ฮ่างจอดตรงหน้าเป้าหมายแล้ว เราก็ต้องสู้! 555+
วันแรกเข้าไปสอบถามรายละเอียดแล้วตาก็อธิบายการชกไปเรื่อยๆ อยู่ที่ค่ายประมาณ 30-45 นาทีก็กลับ บอกตรงๆ เลย ตอนนั้นคิดว่าจะไม่เรียนมากกว่าเรียน เพราะไม่เห็นผู้หญิงมาเรียนเลย คีบับ!! เขิลนักมวยเวลาเราทำท่าเก้ๆ กังๆ แต่เพื่อนที่ไปด้วยนี่ หันมาถามว่า พรุ่งนี้มาเลยมั้ย? เราก็...เอาก็เอา
พอลองเล่นจริงก็จะพบว่า ไม่มีใครมานั่งดูเราฝึกมวยหรอก เขาก็ซ้อมของเขาไป 555+ (สำคัญตัวเองเสียใหม่นะตัวเธอ) แล้วที่สำคัญคือ ฟินเฟ่อร์!!! ชอบมากเวลาที่เสียงเตะหรือต่อยมันดังปั๊กๆ
อุปกรณ์ที่เตรียมมาเองได้ก็จะดีคือ ผ้าพันมือและนวม ผ้าพันมือนี่คนส่วนใหญ่มีมาเองทั้งนั้น นอกจากมาวันแรกเริ่มเรียนเลยก็มีให้ยืม แต่ค่อนข้างเยิน ส่วนนวมนี่มีให้ยืม ไม่ต้องซื้อ! แต่ซื้อก็จะดีเพราะใช้ร่วมกับคนอื่น พอชกเสร็จแล้วถอดออกมามันจะหอมมาก...ถึงมากที่สุด อันตัวเรานั้นเคยซื้อนวมมาเล่นคนเดียวเมื่อ 5-6 ปีมาแล้วก็เอามาเล่น ใส่ได้สองวันต่อยจนนวมขาด คาดว่าจะเป็นเพราะความเก๋า เฮ้ย! เก่า ของนวม มากกว่าเพราะฝีมือ (555+)
วันแรกๆ ก็จะมีตั้งท่าให้ถูก หัดเดินไปเดินมา แบบมีจังหวะ ซึ่งเราทำไม่ค่อยได้ แต่เพื่อนทำได้ดีมาก อิอิ ตาบอกว่าตาหัดแค่เดินไปมานี่ก็เป็นเดือน นี่เราหัดกันวันเดียว เสร็จแล้วก็มีลองซ้อม หมัด Jab และปล่อยหมัดขวาตามไป แล้วก็หัดเตะ บังลูกเตะจากคนอื่น ซึ่งความรู้สึกในตอนแรกว่ามันเหมือนการรำโขนมาก ยังแซวน้องที่ซ้อมให้ว่า นี่รำโขนหรือเปล่า 555+ ส่วนท่าเตะนั้นอยากจะบอกว่ามันทรงพลังและมีศิลปะจริงๆ เพราะเราต้องบิดสะโพกจากแนวนอนมาเป็นแนวตั้งแล้วก็ปล่อยแข้งออกไป ดูท่าตัวเองแล้วอนาถใจกระโดกกระเดก แต่ท่าอาจารย์นั้นมันสวยงามจริงๆ มันคือศิลปะ อยากจะบอกว่าถ้าโลกนี้ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ หากบ้านเมืองเรามีอันต้องรบกับใคร ชนะใสๆ อ่ะ แบบว่าอาวุธมีครบมาก หมัด เข่า ศอก คู่ต่อสู้จะต้องตายหยังเขียด 555+
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ วันแรกตาไม่ให้ออกแรงมาก บอกว่ากลัวพรุ่งนี้ไม่มา
พอวันที่สองพระเจ้าช่วยกล้วยทอด พี่อีกคนมาซ้อมให้ ให้ออกอาวุธไม่ยั้ง หน้าซีด ปากแห้ง หัวใจเต้นเร็ว โยนผ้าขาวแทบไม่ทัน 555+
วันแรก
ตอนแรกก็อยากเรียนกับตา รู้สึกเหมือนตาจริงๆ รู้สึกปลอดภัย แต่ก็มีหนุ่มท่านนี้ดึงมือเราไป (จขกท คือคนซ้ายนะ ดำๆ อ่ะ 555+) เราก็เอ๊ะ...ใครฟ่ะ เด็กน้อย 555+ แต่น้องน่ารักมากนะ ใจดี แอบขำนักเรียนตลอด ที่นี่จะมีความน่ารักแบบว่า ครูมวยต้องป้อนน้ำให้นักมวย เพราะใส่นวมอยู่กินน้ำเองไม่ได้ มันก็รู้สึกแปลกๆ เกิดมาไม่ค่อยมีใครมาป้อนอะไรให้ นานๆ ไปก็จะชิน เพราะนักมวยคนอื่นก็ต้องทำแบบนี้กันหมด
วันที่สอง
วันแรกๆ ยังไม่ชิน ใส่กางเกงขายาว legging เต็มที่ กลัวนักมวยแอบมอง (กร๊ากกกกกกกก) ไม่อยากจะบอกว่าขานักมวยสวยกว่าเย๊อะ 555+
*ขอบคุณรูปจากตากล้องประจำค่าย
[CR] ค่ายมวยของเราน่าอยู่...ครูมวยใจดีทุกคน...นักมวยก็ไม่ซุกซน...พวกเราทุกคนชอบมาค่ายมวย ชอบมา...ชอบมา...ค่ายมวย!!
ต้องพูดเลยว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเรียนที่นี่เพราะ “ตาขวัญโดม” มีความรู้สึกว่าเขาพูดแบบจริงใจ น่ารักดี คนเข้ามาก็อธิบายให้ฟังแบบกันเอง บอกมาดูก่อนก็ได้ ค่อยมาเรียน ไปดูที่ช่องเจ็ดก็ได้ วันอาทิตย์ตาหาที่ให้นั่งดีๆ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงถ้าจะมาเรียนคงจะมีน้อยคนที่ตั้งใจจะไปเป็นนักมวยอาชีพ แต่คนที่นี่ก็ปฏิบัติกับผู้หญิงแบบไม่แบ่งเพศ การสอนก็เท่าเทียมกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาเรียนใหม่เหมือนกัน ยกเว้นกรณีที่ตั้งใจจะเป็นนักมวย อาจจะต้องเคี่ยวเข็ญแบบจริงๆ แต่สำหรับพวกเราก็เน้นว่ารู้พื้นฐานที่ถูกต้องของการชกและออกแรงชกจริง ถือว่าดีมากๆ เลยทีเดียว
ตอนที่มอไซด์รับจ้างมาจอดหน้าค่ายมวย แล้วนักมวยทุกคนที่กำลังซ้อมหันมามอง นี่ถ้าใครไปคนเดียว อยากจะบอกว่า อาการป๊อด อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะคำถามแรกที่เข้ามาในหัวเลยคือ “ฉันมาทำอะไรที่นี่?” แต่ในเมื่อมอเตอร์ไซด์ฮ่างจอดตรงหน้าเป้าหมายแล้ว เราก็ต้องสู้! 555+
วันแรกเข้าไปสอบถามรายละเอียดแล้วตาก็อธิบายการชกไปเรื่อยๆ อยู่ที่ค่ายประมาณ 30-45 นาทีก็กลับ บอกตรงๆ เลย ตอนนั้นคิดว่าจะไม่เรียนมากกว่าเรียน เพราะไม่เห็นผู้หญิงมาเรียนเลย คีบับ!! เขิลนักมวยเวลาเราทำท่าเก้ๆ กังๆ แต่เพื่อนที่ไปด้วยนี่ หันมาถามว่า พรุ่งนี้มาเลยมั้ย? เราก็...เอาก็เอา
พอลองเล่นจริงก็จะพบว่า ไม่มีใครมานั่งดูเราฝึกมวยหรอก เขาก็ซ้อมของเขาไป 555+ (สำคัญตัวเองเสียใหม่นะตัวเธอ) แล้วที่สำคัญคือ ฟินเฟ่อร์!!! ชอบมากเวลาที่เสียงเตะหรือต่อยมันดังปั๊กๆ
อุปกรณ์ที่เตรียมมาเองได้ก็จะดีคือ ผ้าพันมือและนวม ผ้าพันมือนี่คนส่วนใหญ่มีมาเองทั้งนั้น นอกจากมาวันแรกเริ่มเรียนเลยก็มีให้ยืม แต่ค่อนข้างเยิน ส่วนนวมนี่มีให้ยืม ไม่ต้องซื้อ! แต่ซื้อก็จะดีเพราะใช้ร่วมกับคนอื่น พอชกเสร็จแล้วถอดออกมามันจะหอมมาก...ถึงมากที่สุด อันตัวเรานั้นเคยซื้อนวมมาเล่นคนเดียวเมื่อ 5-6 ปีมาแล้วก็เอามาเล่น ใส่ได้สองวันต่อยจนนวมขาด คาดว่าจะเป็นเพราะความเก๋า เฮ้ย! เก่า ของนวม มากกว่าเพราะฝีมือ (555+)
วันแรกๆ ก็จะมีตั้งท่าให้ถูก หัดเดินไปเดินมา แบบมีจังหวะ ซึ่งเราทำไม่ค่อยได้ แต่เพื่อนทำได้ดีมาก อิอิ ตาบอกว่าตาหัดแค่เดินไปมานี่ก็เป็นเดือน นี่เราหัดกันวันเดียว เสร็จแล้วก็มีลองซ้อม หมัด Jab และปล่อยหมัดขวาตามไป แล้วก็หัดเตะ บังลูกเตะจากคนอื่น ซึ่งความรู้สึกในตอนแรกว่ามันเหมือนการรำโขนมาก ยังแซวน้องที่ซ้อมให้ว่า นี่รำโขนหรือเปล่า 555+ ส่วนท่าเตะนั้นอยากจะบอกว่ามันทรงพลังและมีศิลปะจริงๆ เพราะเราต้องบิดสะโพกจากแนวนอนมาเป็นแนวตั้งแล้วก็ปล่อยแข้งออกไป ดูท่าตัวเองแล้วอนาถใจกระโดกกระเดก แต่ท่าอาจารย์นั้นมันสวยงามจริงๆ มันคือศิลปะ อยากจะบอกว่าถ้าโลกนี้ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ หากบ้านเมืองเรามีอันต้องรบกับใคร ชนะใสๆ อ่ะ แบบว่าอาวุธมีครบมาก หมัด เข่า ศอก คู่ต่อสู้จะต้องตายหยังเขียด 555+[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ วันแรกตาไม่ให้ออกแรงมาก บอกว่ากลัวพรุ่งนี้ไม่มา
พอวันที่สองพระเจ้าช่วยกล้วยทอด พี่อีกคนมาซ้อมให้ ให้ออกอาวุธไม่ยั้ง หน้าซีด ปากแห้ง หัวใจเต้นเร็ว โยนผ้าขาวแทบไม่ทัน 555+
ตอนแรกก็อยากเรียนกับตา รู้สึกเหมือนตาจริงๆ รู้สึกปลอดภัย แต่ก็มีหนุ่มท่านนี้ดึงมือเราไป (จขกท คือคนซ้ายนะ ดำๆ อ่ะ 555+) เราก็เอ๊ะ...ใครฟ่ะ เด็กน้อย 555+ แต่น้องน่ารักมากนะ ใจดี แอบขำนักเรียนตลอด ที่นี่จะมีความน่ารักแบบว่า ครูมวยต้องป้อนน้ำให้นักมวย เพราะใส่นวมอยู่กินน้ำเองไม่ได้ มันก็รู้สึกแปลกๆ เกิดมาไม่ค่อยมีใครมาป้อนอะไรให้ นานๆ ไปก็จะชิน เพราะนักมวยคนอื่นก็ต้องทำแบบนี้กันหมด
วันแรกๆ ยังไม่ชิน ใส่กางเกงขายาว legging เต็มที่ กลัวนักมวยแอบมอง (กร๊ากกกกกกกก) ไม่อยากจะบอกว่าขานักมวยสวยกว่าเย๊อะ 555+
*ขอบคุณรูปจากตากล้องประจำค่าย