พอดีบังเอิญได้ไปอ่านกระทู้นึงอ่ะครับ ว่าเพื่อนเป็นโรคหลอกตัวเอง (http://ppantip.com/topic/32351315 กระทู้นี้ครับไม่ใช่มหากาพย์นะ อ่านได้ 55) เลยอยากจะเขียนกระทู้จากประสบการณ์ตรงของตัวเองบ้าง

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยครับว่า ผม จบจากมหาวิทยาลัย ชื่อดัง(ก็ดังสำหรับผมนะ ฮ่าๆ เป็นรักสถาบันครับ)ในจังหวัดมหาสารคาม ก็ทำงานมา 2 ปี ครับ
เห็นรุ่นน้องคนนึง โพสรูปรับปริญญารวมญาติพี่น้อง ใส่ครุยคณะผมครับ(ม.ผมแต่ละคณะจะมีสีครุยไม่เหมือนกัน) ซึ่งรับ ป. หลังผมปีเดียว คณะผมคนไม่เยอะครับ ส่วนมากจะรู้จักกัน ครานี้ผมไม่คุ้นหน้าครับ จึงบันทึกรูป ส่งไปถาม อาจารย์ที่คณะ อาจารย์บอกไม่คุ้น ไม่รู้จักเลย

ผมจึงทักแชทไปหาน้องผู้หญิงคนนั้นครับ สนทนาดังนี้
ฉัน : ผู้ชายที่ถ่ายรูปคู่เนี่ย ที่ใส่ชุดครุยเนี่ยใครหรอครับ
เธอ : พี่ชายค่ะ แท้ๆเลยยยย ^^
ฉัน : จบ หมอหรอครับ เห็นใส่ครุย สถาบันพี่ ถ่ายรูปที่แถวๆหอเก่าพี่เลย
เธอ : ค่ะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย(รัฐ)....โคตรๆมีชื่อเสียงใน กทม. (พร้อมกับส่งรูปใบปริญญาบัตรมา เป็นกระดาษ A4 แนวนอน มีชื่อมหาลัย และชื่อของคนนั้น มีลายเซ็นต์ แบบมั่วๆ พอจะดูออกนะครับว่ามั่วๆ ของสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี ด้วยปากกาน้ำเงิน และมีเส้นขีดผ่าน)
ฉัน : เห้ย ไม่ได้จบ ม พี่แล้วมารับที่ ม. พี่ได้ไง
เธอ: ที่จริงต้องรับที่ สวน....(อะไรนี่แหละจำไม่ได้) แต่คนเต็ม อาจารย์เลยให้มารับที่ ม.พี่แทนค่ะ
ฉัน : เห้ย มั่วละ เป็นไปไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆ น้องลบรูปเหอะ ไม่งั้นพี่อาจจะให้มหาลัยตรวจสอบนะ

***น้องเงียบไป จนค่ำน้องทักมา

เธอ : หนูขอเบอร์พี่หน่อยค่ะ หนูไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวให้พี่ชายหนูเคลียร์นะคะ
ฉัน : จะเคลียร์อะไร ความจริงก็ชัดอยู่แล้ว "ปลอม" พี่ปรึกษา อาจารย์แล้ว ท่านว่าให้ปล่อยไป แต่ขออย่างเดียวอย่าไปทำการรักษาคนไข้นะ
เธอ : หนู งง ค่ะ
ฉัน : 095607.....

***สักพักมีสายเข้า

ผช.คนนึง : พี่ครับ พี่ที่คุยกะน้องผมปะครับ
ฉัน : ครับ อ๋อ ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องอธิบายก็ได้ พี่ไม่ติดใจอะไรแล้ว ขอแค่อย่าไปแอบอ้างแล้วรักษาคนไข้พอ
ผช.คนนึง : พี่ครับ ผมจบจริงๆ ผมเคลียร์ละเรื่องนะครับ
1.ชุดนั้นไม่ใช่ชุด ม.พี่ ที่จริงของ ม. ผมจะมีหมวก บลาๆๆๆๆ
2.ใบ ป. นั้นเป็นใบแทน เค้าให้มารับที่ ม.พี่ แล้วให้ไปรับตัวจริงที่ มหาลัยอีกทีครับ
ฉัน :
1.ชุดครุย ม.น้อง พี่พอจะรู้จัก เพราะพี่มีเพื่อนพอสมควร อาจารย์พี่ ก็จบ ม.น้อง ด้วยครับ พี่ว่าไม่เหมือนนะ
2.เป็นไปไม่ได้หรอกน้อง ม.พี่ กะม.ที่น้องอ้าง มันไม่ได้เกี่ยวกัน
***เขาและผม ก็เถียงกันนานพอสมควร น้องเริ่มหมดคำแถ
ผช.คนนึง : พี่ครับ พี่ช่วยเคลียกับ ครอบครัวผมหน่อยครับ ตอนนี้แม่ผม โทรมาโวยวายผมใหญ่เลย ว่าผมโกหกเค้า ตอนนี้ปัญหาของชีวิตผมเยอะแล้วพี่
ฉัน : พี่จะบอกน้องสาวของน้องว่า เราคุยกันแล้ว ส่วนน้องก็ไปพิสูจน์อะไรก็ทำกันเอาเอง

***ผมยังไม่หยุดครับ สืบต่อจนรู้บ้าน รู้ที่อยู่ ปรากฏว่า
1.น้องชายคนนี้ อายุ 21 ปีครับ จบแพทย์ ต้อง 24 ปี ครับ น้องบอกกับทางครอบครัวว่า เรียนเก่ง ได้เรียนข้ามชั้น
2.ก่อนหน้านี้ 2 ปี น้องเรียน อะไรสักอย่าง ที่บุรีรัมย์ จากนั้น 1 ปี ที่อุดร ปัจจุบัน อยู่ หนองคายครับ
3.เคยขอเงินแม่จำนวนหนึ่ง บอกว่า มหาลัยจะออกรถให้แต่ต้องช่วยมหาลัยด้วยเงินจำนวนนึง (ป๊าดเรียนแพทย์ มหาลัยออกรถให้)
4.เคยขอเงินแม่ จำนวนนึง บอกว่า ต้องเรียนผ่า อาจารย์ใหญ่ ต้องสั่งซื้ออาจารย์ใหญ่จากอินเดียร์

***จริงๆมีเรื่องอีกเยอะครับที่อยากเล่า ที่จริงผมแค่รู้สึกว่า
1.ถ้าวันนึงความแตก พ่อแม่ ญาติๆ ที่ไปรวมตัวถ่ายรูปวันนั้นจะรู้สึกอย่างไร
2.ผมสงสารครอบครัวน้องเค้ามาก และครอบครัวเค้าก็เชื่อน้องเค้าครับ
3.ผมไม่ขอเอารูป ทั้งรูปรวมญาติ ชุดครุยให้เห็นก็รู้ว่า ม.ผม คณะผม และรูปปริญญาปลอมลงนะครับ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องราว และก็สงสารครอบครัวน้องเค้าอยู่ครับ

***ตอนปีหนึ่งผมเคยโกหกแม่เรื่องหอพักครับ และผมคิดว่าการโกหก เมื่อเริ่ม 1 เรื่อง จะต้องโกหกอีกไม่รู้จบเพื่อเรื่องแรกที่โกหกขึ้น แมนๆนะครับใครที่กำลังเป็นอยู่ พูดความจริงออกมาเลยครับ รับรอง โล่งใจ สบายใจครับ สวัสดิ์ดี

ปล.ผมขอน้องสาวของคนนั้น และแม่ของคนนั้นที่เอาเรื่องนี้ไปสร้างรอยน้ำตาในครอบครัวนะครับ ตอนแรกผมไม่ได้จะไปเป็นนักสืบ แถลงความจริงอะไร แค่ปกป้องสถาบันผมเท่านั้นเองครับ ส่วนถ้าน้องเค้ายังหาคำโกหกมาอีกอยู่แล้วครอบครัวยังเชื่อ ก็ขอให้เป็นเรื่องครอบครัวครับ
ปล.2 แท็กมั่วนิดหน่อยนะครับ