คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ล้างโซ่ ก็แปลตรงตัวน่ะครับ ว่าล้างโซ่ ถ้าโซ่มันสกปรกเกินไปก็ควรล้าง
หรือหากท่านเห็นว่าโซ่ของท่านมันดังแล้วก็ควรล้างเสียก่อนจะหล่อลื่นโซ่อีกครั้ง
วิธีล้างก็ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าโซ่ของท่านใช้สารชนิดใดในการหล่อลื่นมาก่อน
ถ้าเป็น Chainlube เหนียวๆหนึบๆให้หา Cleaner ซักตัวจะเป็นโซแน็กซ์เขียวหรือจะเป็น Chaincleaner ที่เห็นขายตามร้านก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของท่าน (โซแน็กซ์เขียวจะเหม็นหน่อย)
ถ้าเป็นพวกน้ำยาหล่อลื่นใสๆไม่เหนียวหนึบหนับอย่างพวก Superlube ก็ใช้แค่น้ำเปล่าผสมผงซักฟอกเอาแปรงสีฟันจุ่มแล้วขับเบาๆก็พอ
หลังจากสารดังกล่าวมันชะล้างของเก่าออกไปหมดแล้วก็แค่ฉีดน้ำล้างอีกครั้งโซ่ของท่านก็จะสะอาด จากนั้นก็ทำให้แห้งโดยวิธีใดก็แล้วแต่
บางท่านอาจจะตั้งขาตั้งคู่หรือสแตนด์ยกล้อหลังขึ้น แล้วติดเครื่องยนต์ให้ล้อมันหมุนไล่น้ำออก
บางท่านอาจจะนำรถไปวิ่งซักพักให้โซ่มันแห้ง
บางท่านก็อาจจะใช้ไดร์เป่าผมเป่าจนแห้ง
นั่นก็แล้วแต่วิธีของแต่ละคน
พอโซ่แห้งดีแล้วจึงตั้งขาตั้งคู่หรือตั้งสแตนด์ยกล้อหลังขึ้นเพื่อนจัดการ"หยอด/พ่น/ชโลม"สารหล่อลื่นลงไปอีกที
เป็นที่มาของคำว่า "หล่อลืนโซ่/เคลือบโซ่/ฉีดโซ่"
รถคันใดที่เป็นโซ่ธรรมดาไม่ใช่โอริงก็อาจจะเอาน้ำมันเกียร์หยอดก็พอ
รถคันใดที่เป็นโซ่โอริงก็อาจจะต้องจัดหาสารหล่อลื่นที่ไม่มีผลกระทบต่อโอริงมาใช้ต่างหาก
รถคันใดเจ้าของมีกะตังค์หน่อยก็อาจจะหาสารหล่อลื่นราคาแพงมาใช้
สารหล่อลื่นก็มีตั้งหลายประเภท
บางท่านอาจใช้น้ำมันเกียร์
บางท่านอาจใช้น้ำมันเครื่อง
บางท่านอาจใช้จารบีขาว ขาวขุ่นเหนียวเหนอะหนะ
บางท่านอาจใช้จารบีใส
บางท่านอาจใช้แบบเทฟล่อน
ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ของแต่ละท่านครับ
ปล.ขณะลงสารหล่อลื่นลงโซ่กรุณาอย่าติดเครื่องยนต์ไว้ ไม่เช่นนั้นเคราะห์หายามซวยขึ้นมา ท่านอาจได้เสียนิ้วของท่านให้กับโซ่และสเตอร์หลังก็เป็นได้
ปล.2 อาจไม่ตรงกับวิธีของท่านอื่นนะครับ ของใครของมัน แล้วแต่ความคิดและจักรยาน..เอ๊ย! วิจารณญาณของแต่ละท่านเลยครับ
หรือหากท่านเห็นว่าโซ่ของท่านมันดังแล้วก็ควรล้างเสียก่อนจะหล่อลื่นโซ่อีกครั้ง
วิธีล้างก็ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าโซ่ของท่านใช้สารชนิดใดในการหล่อลื่นมาก่อน
ถ้าเป็น Chainlube เหนียวๆหนึบๆให้หา Cleaner ซักตัวจะเป็นโซแน็กซ์เขียวหรือจะเป็น Chaincleaner ที่เห็นขายตามร้านก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของท่าน (โซแน็กซ์เขียวจะเหม็นหน่อย)
ถ้าเป็นพวกน้ำยาหล่อลื่นใสๆไม่เหนียวหนึบหนับอย่างพวก Superlube ก็ใช้แค่น้ำเปล่าผสมผงซักฟอกเอาแปรงสีฟันจุ่มแล้วขับเบาๆก็พอ
หลังจากสารดังกล่าวมันชะล้างของเก่าออกไปหมดแล้วก็แค่ฉีดน้ำล้างอีกครั้งโซ่ของท่านก็จะสะอาด จากนั้นก็ทำให้แห้งโดยวิธีใดก็แล้วแต่
บางท่านอาจจะตั้งขาตั้งคู่หรือสแตนด์ยกล้อหลังขึ้น แล้วติดเครื่องยนต์ให้ล้อมันหมุนไล่น้ำออก
บางท่านอาจจะนำรถไปวิ่งซักพักให้โซ่มันแห้ง
บางท่านก็อาจจะใช้ไดร์เป่าผมเป่าจนแห้ง
นั่นก็แล้วแต่วิธีของแต่ละคน
พอโซ่แห้งดีแล้วจึงตั้งขาตั้งคู่หรือตั้งสแตนด์ยกล้อหลังขึ้นเพื่อนจัดการ"หยอด/พ่น/ชโลม"สารหล่อลื่นลงไปอีกที
เป็นที่มาของคำว่า "หล่อลืนโซ่/เคลือบโซ่/ฉีดโซ่"
รถคันใดที่เป็นโซ่ธรรมดาไม่ใช่โอริงก็อาจจะเอาน้ำมันเกียร์หยอดก็พอ
รถคันใดที่เป็นโซ่โอริงก็อาจจะต้องจัดหาสารหล่อลื่นที่ไม่มีผลกระทบต่อโอริงมาใช้ต่างหาก
รถคันใดเจ้าของมีกะตังค์หน่อยก็อาจจะหาสารหล่อลื่นราคาแพงมาใช้
สารหล่อลื่นก็มีตั้งหลายประเภท
บางท่านอาจใช้น้ำมันเกียร์
บางท่านอาจใช้น้ำมันเครื่อง
บางท่านอาจใช้จารบีขาว ขาวขุ่นเหนียวเหนอะหนะ
บางท่านอาจใช้จารบีใส
บางท่านอาจใช้แบบเทฟล่อน
ฯลฯ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์ของแต่ละท่านครับ
ปล.ขณะลงสารหล่อลื่นลงโซ่กรุณาอย่าติดเครื่องยนต์ไว้ ไม่เช่นนั้นเคราะห์หายามซวยขึ้นมา ท่านอาจได้เสียนิ้วของท่านให้กับโซ่และสเตอร์หลังก็เป็นได้
ปล.2 อาจไม่ตรงกับวิธีของท่านอื่นนะครับ ของใครของมัน แล้วแต่ความคิดและจักรยาน..เอ๊ย! วิจารณญาณของแต่ละท่านเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
รบกวนสอบถามขอความรู้เกี่ยวกับ "โซ่" ครับ
ขอบคุณครับ