"เกาะหลีเป๊ะ" จังหวัดสตูล

26 - 28 มกราคม 2558

เริ่มตั้งแต่การวางแผนการเที่ยว

###  การเดินทางมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะควรจะมาช่วงเดือนที่คลื่นลมสงบที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรมาช่วง กลางเดือนมกราคม จนถึงกลางเดือนมีนาคม เพราะช่วงนี้ทะเลจะสวยที่สุด


###  ช่วงน้ำขึ้นน้ำลง มีผลต่อการท่องเที่ยวทะเล โดยดูจากปฎิทินจันทรคติ ช่วงที่น้ำทะเลน่าจะใสที่สุด น่าจะเป็นช่วง 7 ค่ำ จนถึง 10 ค่ำ ข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ เพราะระดับน้ำทะเลจะต่างกันไม่มาก ทำให้น้ำไม่ขุ่น


###  เมื่อได้วันที่จะเดินทางแล้วสิ่งที่สำคัญก็คือการเลือกที่พัก การมาเที่ยวคือการพักผ่อน ดังนั้นการเลือที่พักที่ดีจะทำให้ท่านไม่ต้องหงุดหงิด.......ดังนั้นท่านควรเลือกที่พักที่ได้มีการรีวิวที่พักเอาไว้ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ที่พักอยู่โซนไหน อยู่ไกลจากจุดขึ้นเรือหรือไม่ หรือถ้าอยู่ไกลจากจุดขึ้นเรือทางที่พักได้จัดรถรับส่งให้ท่านหรือไม่ โดยสามารถหาข้อมูลได้จาก agoda สามารถดูได้หมดว่าที่ตั้งของที่พักอยู่จุดไหน และผู้ที่เคยเข้าพักมาก่อนหน้านี้ได้รีวิวไว้ว่าอย่างไรบ้าง และอย่าลืมว่าที่พักที่ดีๆ เหมาะสมกับราคาจะเต็มเร็วมาก ถ้าเป็นไปได้ควรจองล่วงหน้าไว้แต่เนิ่นๆ หรือว่าถ้าท่านใดชอบความสงบ ขอแนะนำว่าพักที่เกาะอาดังเลยครับ สงบ เงียบ ที่พักค่อนข้างสภาพดีพอสมควร ราคาสบายกระเป๋า ที่เกาะอาดังบ้านพักพัดลมหลังเดี่ยวราคาห้องละ 600 บาท วันอังคาร - พฤหัสบดี ลดราคาอีก 30 เปอร์เซนต์ ที่เกาะอาดังจะมีร้านอาหารสวัสดิการ เปิดปิดเป็นเวลา แนะนำว่าให้กินข้าวเย็นที่เกาะหลีเป๊ะก่อน แล้วค่อยนั่งเรือข้ามไปเกาะอาดังกลับที่พัก


###  ท่านที่เดินทางโดยเครื่องบิน ขามาควรจองตั๋วเครื่องบินไฟลท์เช้าที่สุด หรือไฟลท์ที่มาถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 12.00 น. เพราะถ้าท่านลงเครื่องเกินเวลา 12.00 น. ท่านอาจจะไม่สามารถไปทันเรือโดยสารเพื่อข้ามไปเกาะหลีเป๊ะได้ ส่วนขากลับควรจะต้องจองตั๋วเครื่องบินไฟลท์เย็นๆค่ำๆจะดีที่สุด แต่ไม่ควรเป็นไฟลท์ก่อน 15.30 น. เพราะอย่าลืมว่าท่านจะต้องใช้บริการเรือโดยสารซึ่งอาจจะมีความล่าช้าที่ทำให้ท่านมาขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
# เมื่อได้วันเดินทางกับที่พักแล้ว สิ่งต่อมาก็คือการเดินทาง ที่ผมให้ความสำคัญของการเลือกช่วงวันในการเดินทางกับที่พักมากกว่าวิธีในการเดินทาง เพราะว่าการเดินทางมาเกาะหลีเป๊ะนั้นสะดวกสบาย มาได้ง่ายมาก แล้วการให้บริการของบริษัทต่างๆแทบจะไม่แตกต่างกัน เพียงแค่ท่านนำพาตัวของท่านเองมาให้ถึงสนามบินหาดใหญ่ก็จะมีบริษัททัวร์ต่างๆ พาท่านมายังเกาะหลีเป๊ะได้โดยง่าย ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรที่จะจองรถตู้ที่มารับท่านถึงสนามบินไปยังท่าเรือปากบาราจะสะดวกที่สุด ราคาแต่ละเจ้าก็ไม่เท่ากันควรสอบถามหลายๆเจ้า ราคารถตู้จากสนามบินควรจะอยู่ระหว่าง 250 - 300 ต่อหนึ่งท่าน แต่ถ้ามา 6 คนขึ้นไป แนะนำว่าให้เหมารถตู้ไปกลับเลย จะสบายที่สุด ส่วนเรือโดยสารที่จะข้ามไปเกาะหลีเป๊ะนั้นก็จะมีอยู่สองแบบ มีเรือสปีดโบ๊ทใช้เวลาในการเดินทาง 1.5 ชั่วโมง ราคาต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 450 จนถึง 650 แล้วแต่ความสามารถในการต่อราคาของท่าน ส่วนอีกแบบก็จะเป็นเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง กว่าๆ ราคาก็จะอยู่ที่ 450 - 600 ส่วนตารางการเดินเรือในแต่ละช่วงก็อาจจะไม่เหมือนกัน ส่วนมากเรือที่ออกจากปากบาราจะออกเวลา 11.00 น. กับ 15.00 น. แล้วก็อยากจะแนะนำอีกว่าควรใช้บริการบริษัทเรือกับรถตู้ที่เป็นเจ้าเดียวกัน แล้วก็อย่าลืมเก็บเบอร์โทรของบริษัทรถหรืเรือเอาไว้เพื่อความสะดวกในการเดินทาง


### เมือท่านมาถึงเกาะหลีเป๊ะแล้ว สิ่งที่จะดูดเงินออกจากกระเป๋าท่านได้มากที่สุดก็คือค่าใช้จ่ายในการกิน ๆๆๆๆๆๆ ท่านอย่าลืมว่าท่านมาเที่ยวชมธรรมชาติการกินอาหารท่านจะต้องกินอย่างมีสติ แต่ถ้าท่านที่มีความสะดวกทางด้านการเงินก็มองข้ามข้อนี้ไปได้เลย ส่วนท่านที่มีงบประมาณจำกัดจงจำไว้ให้ดีว่าท่านควรจะเลือกกินอาหารแบบง่ายๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งย่าง เพราะราคาบนเกาะแพงมากถึงมากที่สุด และท่านก็อย่าคิดว่าร้านเล็กๆที่เป็นเพิงที่สร้างแบบง่ายๆ (ไม่อย่ากจะใช้คำว่าเพิงหมาแหงน) จะมีราคาที่ถูกกว่าร้านใหญ่ๆที่สะอาด ร้านอาหารโซนที่ผมว่าราคาสมน้ำสมเนื้อและบรรยากาศดีๆ จะอยู่แถบหาดซันไรส์ มีหลายร้านให้ท่านเลือก ส่วนร้านแถบชายหาดฝังบันดาหยาจนถึงถนนคนเดิน ขอบอกว่าแพงมากๆๆๆๆๆๆๆ ส่วนถ้าใครอยากกินโรตีที่ราคาแพงที่สุดในโลกก็ให้ท่านกินร้านที่ดังๆบนเกาะหลีเป๊ะได้เลย ส่วนผมจะกินโรตีร้านคุณป้าท่านนึงที่อยู่เกือบสุดถนนคนเดิน ถ้าเป็นคนไทยป้าแกก็จะคิดราคาคนไทยให้ ชอบมากๆๆๆ ส่วนของใช้จุกจิกก็สามารถหาซื้อได้ที่ ร้านสะดวกซื้อ7/11 แต่ถ้าเป็นไปได้อุดหนุนชาวเกาะดีกว่า ส่วนท่านสุภาพสตรีที่ต้องการซื้อชุดว่ายน้ำ ท่านไม่ต้องซื้อมาจากบ้าน ให้ท่านหาซื้อที่เกาะได้เลยชุดว่ายน้ำราคาถูกมาก ใส่ครั้งเดียวแล้วทิ้งเลยไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง


### มาถึงทะเลก็ต้องนั่งเรือเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ จุดเล่นน้ำหรือจุดดำน้ำก็จะมีหลักๆอยู่ 3 แบบ คือ 1.โซนใน 2. นอก 3.โซนในกับโซนนอกรวมกัน ขอแนะนำวว่า โซนนอกจะคุ้มที่สุดและไม่เหนื่อยมาก จุดที่ไม่ควรพลาดคือเกาะรอกลอย เกาะราวี แกาะหินงาม ส่วนราคากลางในการเหมาเรือ โซนในจะอยู่ที่ 1300 - 1500 บาท ส่วนโซนนอกจะอยู่ที่ 2000 - 2500 บาท ตามแต่จะตกลงกัน ราคานี้ไม่รวมหน้ากากดำน้ำให้หาเช่าบนเกาะหลีเป๊ะก่อนไปดำน้ำ ส่วนอาหารกลางวันให้ไปกินที่เกาะราวี หรือจะซื้อข้าวกล่องไปกินเองก็ได้ การซื้อทัวร์เป็นรายหัวแบบจอยน์เรือกัน ผมว่าไม่น่าสนใจเพราะจะมีบางจุดที่ท่านอยากอยู่นานๆท่านก็ไมาสามารถทำได้เพราะแต่ละจุดท่องเที่ยวต้องเป็นไปตามเวลาที่กำหนด แต่ถ้ามีความจำเป็นก็ตามความสะดวกของแต่ละท่าน


### ส่วนเรื่องเรือที่ผมจะแนะนำและได้ใช้บริการมาสองครั้งแล้วประทับใจมาก ก็คือเรือ  ดอลล่าร์ ( Dollar ) เจ้าของเรือดอลล่าร์ก็คือ บังยูริ เรื่องราวของเรือดอลล่าร์นั้นผมกับเพื่อนเคยได้รีวิวไว้แล้วครั้งนึงเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้กลับไปเกาะหลีเป๊ะอีกครั้งก็เลยได้ใช้บริการเหมือนเดิม ก็ยังมีความประทับใจในการให้บริการของบังยูริ แกยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  ความสุภาพบวกกับใจรักในการบริการและความใสซื่อของบังยูริ ได้ใจผมไปเต็มๆครับ ถ้าท่านมีอะไรให้บังยูริช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ ท่านบอกแกได้เลยครับรับรองว่าถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงของแก แกจะสามารถช่วยเหลือท่านได้แน่นอนครับ แล้วท่านก็จะรู้ว่าสึกว่าท่านมีเรือส่วนตัวเป็นของท่านเอง

มาปีนี้บนเรือมีแผงโซล่าเซลล์ด้วย ไม่รู้ว่าชาร์ตแบตโทรศัพท์ได้ด้วยรึเปล่า ลืมถามบังยูริ มัวแต่ตะลึงกับความใสของน้ำอยู่

น้องเอิร์ธ ไกด์ตัวน้อย ลูกเจ้าหน้าที่อุทยานที่เกาะอาดัง โดดเรียนมาเป็นไกด์ส่วนตัวของพวกผม โดยอ้างว่าโดนลิงที่เกาะอาดังขโมยเข็มขัดนักเรียนไป เลยไม่ได้ไปเรียนหนังสือ มากับพวกพี่ดีกว่า

สีน้ำทะเลกับสีผิวของไกด์ตัวน้อย ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

น้ำทะเลมันจะใสไปไหนนักหนา ใสมากๆๆๆๆๆ

สุดท้ายนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทู้ของผมคงจะเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย....ขอบคุณที่แวะมาชมครับ