ในยุคปัจจุบัน นักล่าเงินรางวัลอย่างในภาพยนตร์อเมริกันตะวันตก เปลี่ยน Job Description และชื่อตำแหน่งจาก Bounty Hunter ไปเป็น Bail Recovery Agent เขาจะได้งาน (Job) ตามล่าเมื่อผู้ร้ายหลบหนีไม่ยอมไปขึ้นศาล หรือหนีออกนอกเขตควบคุม (ปล่อยให้นายประกันถูกศาลยึดหลักทรัพย์) นายประกันจึงต้องจ้างนักล่าออกติดตามเพื่อไม่ให้สูญหลักทรัพย์ แล้วจ่ายค่าจ้างในอัตรา 10-20% ของหลักทรัพย์ประกันตัว
      แต่ละจ๊อบ ไม่ต้องกลัวว่านักล่าหลายคนจะแย่งกันจับ เพราะผู้ว่าจ้างเขาจะมอบเอกสารสำคัญให้กับนักล่าเพียงคนเดียว หรือกลุ่มเดียว หรือบริษัทนักล่าเพียงแห่งเดียว ความเสี่ยงในอาชีพนี้จะถึงตายหรือไม่ก็แล้วแต่ดวง เพราะในบางรัฐ ผู้มีใบอนุญาตเป็นนักล่าจะไม่ได้รับใบอนุญาตพกอาวุธ ถึงแม่ว่าจะมีอำนาจจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แต่ในบางรัฐ ก็ยังได้รับอนุญาตให้พกอาวุธออกไปตะครุบตัวได้เอง บุกเข้าบ้านโดยไม่ต้องอาศัยหมายศาล จับกุมโดยไม่ต้องอ่านสิทธิให้ฟัง
       ไม่มีอาชีพโลดโผนอย่างนี้ในเมืองไทยบ้างหรือ คำตอบคือมี แต่ใช้ในคดีรูปอื่น และไม่เปิดกว้างให้ใคร เข้าวงการง่ายๆ เพราะของฟรีไม่มีในโลกใบนี้ ถ้าอยากมีอาชีพนี้บ้าง จะเริ่มที่ไหนดี โดยไม่ต้องทิ้งเมืองไทยไปอยู่อเมริกาหรือฟิลิปปินส์ และไม่ต้องเข้าวงการเถื่อนในซุ้มรับจ้างทวงหนี้ คำตอบคือ

       เริ่มต้นที่ค้นให้พบพระราชบัญญัติเกือบร้อยฉบับ ที่กำหนด "รางวัล" และ "สินบน" ในคดีต่างๆ เสียก่อน แล้วหาทางซื้อใบเบิกทางเข้าวงการ จากเป็นชั้นผู้น้อยไปก่อน รับรางวัลเดือนละพอๆ กับเงินเดือน ซื้อตำแหน่งไปเรื่อยๆ อีก 20-30 ปีก็เติบโตเป็นชั้นผู้ใหญ่ รับรางวัลเดือนละไม่น้อยกว่าสิบเท่าของเงินเดือน
      
"รางวัล" จะจ่ายให้แก่ "ผู้จับกุม" (เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ชั้นผู้น้อยที่เสี่ยงชีวิต หรือร่วมสนับสนุนการจับกุม ขึ้นไปจนถึงชั้นผู้ใหญ่ที่อาจจะอยู่ในสนามกอล์ฟระหว่างที่ลูกน้องลงมือจับกุม)

"สินบน" จะจ่ายให้แก่ "ผู้ให้เบาะแส" (สายลับ) โดยไม่ต้องปรากฏตัว เพราะจะเป็นอันตราย ไม่มีตัวตน (เป็นผี) แต่มีคนเบิกเงินแทนก็ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ในสายงานรับให้แทน ตามทวงให้ครบจำนวนกันเอาเอง

Credit : ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข
             นสพ.กรุงเทพธุรกิจ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20110503/388931/news.html