จากทริคการหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่ผมเคยตั้งกระทู้ไว้ รายละเอียดตามนี้
ส่วนตัวผมใช้วิธีจองตรงผ่านเวปของสายการบิน หรือไม่ก็เวปเอเยนต์เจ้าดังเช่น cheaptickets.com , cheaptickets.co.th จะไม่ใข้บริการกับเอเยนต์อื่นเลยเพื่อความปลอดภัย
ทริคการหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
ปกติสายการบินจะขายตั๋วราคาถูกก่อนครับ พอหมดแล้วก็จะขยับราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ตามคลาสของตั๋ว แต่ก็ไม่แน่เสมอไป บ่อยครั้งที่จัดโปรราคาถูกช่วงใกล้วันเดินทางแค่ 2-3 เดือนล่วงหน้าก็มี แต่อย่างไรก็ตามลองใช้ทริคของผมเผื่อจะเจอราคาถูกได้
เรื่องตั๋วเครื่องบินไปกลับยุโรป ถ้ารู้ทริคและกล้าจ่ายเงินซื้อล่วงหน้านานๆหลายเดือน อาจได้ราคาถูกมากสุดๆ แต่ต้องเสี่ยงเอาว่าจะได้วีซ่ารึเปล่า
ทริคของผมคือการเข้าไปดูที่เวป cheaptickets.co.th ทุกวัน ดูไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอของดีราคาถูกครับ ง่ายกว่าการเข้าไปดูทีละสายการบิน
ที่สำคัญต้องพิจารณาตนเองว่าน่าจะได้วี่ซ่าหรือไม่ ส่วนตัวผมได้วีซ่าเชงเก้นมาหลายครั้งแล้ว จึงใช้วิธีซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน เพราะตั๋วราคาถูกๆรอไม่ได้ช้าหมดอดกันพอดี ปกติผมซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนบินราว 6-7 เดือนด้วยซ้ำไป ถ้าเจอราคาถูกใจนะ ซัดไปเลย
ถ้าเน้นราคาถูกสุดๆ ยอมบินอ้อมนิดนึง อ่านทริคนี้ได้
http://ppantip.com/topic/30614434 อาจเจอสายการบินดีๆราคาถูกแบบสุดๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเจอเสมอไปนะครับ ต้องใช้การเฝ้าตามราคาไปเรื่อยๆตามทุกวัน ดังนั้นถ้าใครวางแผนล่วงหน้าได้นานๆหลายเดือน ย่อมมีโอกาสเจอราคาโปรสุดถูกได้ไม่ยาก หรือใช้วิธีง่ายๆแค่หมั่นตามเพจแจ้งข่าวตั๋วเครื่องบินราคาถูก เช่นเพจเพื่อนบอกโปร,ติดโปร,อาแปะ
เช่นผมเคยเจอของเอติฮัต ขาไป ฮ่องกง-มิลาน ขากลับ อัมสเตอร์ดัม-กทม. ราคาสุทธิแค่ 16,000 บาทเอง หรือเจอราคาถูกๆของ Finnair , Aeroflot ซึ่งยังไงๆชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกสายการบินจีนกับอินเดีย น่ากลัวมากเรื่องห้องน้ำโสครกอะ กับกลิ่นตัวผู้โดยสาร
ทริคหลักอยู่ที่การเลือกเมืองตั้งต้นให้แตกต่างคนละประเทศกับเมืองสุดท้าย และควรตรวจสอบราคากับเวปของสายการบินโดยตรง เพราะบางทีได้ราคาถูกกว่าเวปเอเยนต์ และรูดบัตรเครดิตได้ไม่ต้องจ่ายค่า fee ด้วย แถมตอนนี้เวป cheaptickets.co.th คิดค่า fee การรูดบัตรเครดิตแล้ว แม้ว่าจะแค่ 1% ก็ตาม ถ้าเป็นวีซ่ากับมาสเตอร์นะ
เคล็ดลับของทริคนี้คือ ให้เมืองตั้งต้นกับเมืองสุดท้ายเป็นคนละประเทศก็พอ มีโอกาสเจอตั๋วถูกมากๆได้ถึง 6 ช่องทาง
ตย.1. ขาไป ฮ่องกง-ปารีส ขากลับ ปารีส-ไทย
2. สิงคโปร์-ปารีส ปารีส-ไทย
3. กัวลาลัมเปอร์-ปารีส ปารีส-ไทย
4. ไทย-ปารีส ปารีส-ฮ่องกง
5. ไทย-ปารีส ปารีส-สิงคโปร์
6. ไทย-ปารีส ปารีส-กัวลาลัมเปอร์
จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่เคยซื้อตั๋วไปกลับยุโรปชั้นอีโค เกิน 25,000 บาทเลย (รวมค่าภาษีทุกอย่างแล้ว) ถ้าทำตามทริคนี้และวางแผนล่วงหน้านานๆ มีโอกาสเจอราคาถูกแบบสุดๆ
ปล.ถ้าเพิ่มโฮจิมินด้วย ก็เป็น 8 ช่องทางครับ
ต่อมามีคนนำทริคนี้ไปใช้กันแพร่หลาย และมีหลายคนเจอปัญหาสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่เกี่ยวว่าเป็นเพราะตั๋วราคาถูกจึงโดนเปลี่ยนแปลงเวลาบิน แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้บางครั้งสายการบินทำการเปลี่ยนแปลงเวลาบิน
ปัญหาหลักๆที่หลายคนเจอ คือ
1.หลายคนจองซื้อตั๋วเครื่องบินเพิ่มอีกขาไปก่อนแล้ว ตย. ทริปไปกลับยุโรปเดือน เม.ย. ปี 2558 เริ่มต้น ขาไป กัวลาลัมเปอร์-ปารีส ขากลับ ปารีส-ไทย ซื้อตั๋วของสายการบินเอติฮัต ได้ราคาแค่ 15,000 บาท พอเดือนพ.ย. ปี 2557 เจอราคาโปร จากกทม.ไปกัวลาลัมเปอร์ 1,000 บาท เลยรีบจองซื้อทันที ปรากฎว่าพอถึงเดือน ม.ค. ปี 2558 สายการบินเอติฮัตแจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ทำให้ตั๋วที่ซื้อขาไปจากกทม.-กัวลาลัมเปอร์ใช้ไม่ได้ เท่ากับเสียเงินค่าตั๋วขานั้นไปฟรีๆ
2.หลายคนขอวีซ่าเชงเก้นไปแล้วและได้รับอนุมัติเท่ากับจำนวนวันที่อยู่ในเชงเก้นจริงแบบพอดีเป๊ะ ทีนี้พอโดนสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน งานนี้เลยเกิดเรื่อง แก้ไขอะไรยากมาก
ทางป้องกันที่ทุกคนควรเตรียมพร้อมนั่นคือ
1.ผมคาดว่าการเปลี่ยนตารางบินน่าจะจบก่อนเวลาบินจริง 1 เดือน ดังนั้นผมจะรอจนถึง 30 วันสุดท้ายก่อนบิน ถึงค่อยซื้อตั๋วขาที่เหลือครับ ยอมที่จะไม่ได้ราคาโปรของตั๋วเครื่องบินขานั้น แต่ไม่เสี่ยงจองซื้อล่วงหน้าหลายเดือนเด็ดขาด
2.ส่วนการขอวีซ่า เนื่องจากหลายคนเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้ทริค จึงใช้ตั๋วเครื่องบินจริงเป็นหลักฐานการยื่นขอวีซ่า ซึ่งพวกมือเก่าชำนาญเกมจะไม่ทำแบบนั้น เราใช้วิธีอื่นได้มากมาย เช่น โทรติดต่อเอเยนต์ขายตั๋วเครื่องบินทั่วไป โดยสอบถามราคาตั๋วเอาแบบบินไปกลับจากไทย แล้วบอกเอเยนต์ว่ายังไม่กล้าจ่ายเงินจริง ขอใบจองเพื่อไปทำวีซ่าเชงเก้นให้ได้ก่อน ทางเอเยนต์หลายรายจะบริการส่งใบจองมาให้เราทางอีเมลฟรี เพื่อนำไปใช้ยื่นขอวีซ่า
หรือจะโทรติดต่อสายการบินโดยตรงเพื่อขอใบจองมาทำวีซ่าก่อนก็ได้ เคยมีคนในห้องบลู บอกว่าโทรติดต่อขอใบจองของสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้ หรือใช้ใบจองที่ปริ๊นต์จากเวปของการบินไทยก็ได้ (แบบจองไว้เฉยๆยังไม่ต้องจ่ายเงิน) เพื่อนำไปใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น
ที่สำคัญอีกอย่างคือ การขอวีซ่าต้องเผื่อกรณีโดนเปลี่ยนแปลงเวลาบินแบบนี้เอาไว้ด้วย สมมติ เราจองตั๋วเครื่องบินขาไป กัวลาลัมเปอร์บินไปถึงปารีส วันที่ 2 ม.ค. ขากลับ ออกจากปารีส วันที่ 12 ม.ค. ถึงไทยวันที่ 13 ม.ค. เท่ากับว่าอยู่เที่ยวในเชงเก้นตั้งแต่วันที่ 2-12 รวม 11 วัน เราไม่ควรยื่นขอวีซ่าตามจำนวนวันที่แท้จริง เพราะบ่อยครั้งที่สถานฑูตอนุมัติวีซ่าตามวันที่เราขอไปแบบพอดีเป๊ะ เช่นเคสตย.นี้ ถ้าสถานฑูตให้วีซ่าเชงเก้นเราแค่ 11 วัน ตรงตามที่เราขอพอดี ถ้าเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงอะไร จะขยับแก้ไขได้ลำบากมาก
ดังนั้นเคสนี้ ผมจะขอวีซ่าเชงเก้นแบบเผื่อวันไว้ให้มากกว่าเดิมเพื่อความปลอดภัย โดยเผื่อวันเพิ่มหัวท้ายอย่างละวัน เพื่อรับมือถ้าเกิดเหตุต้องเปลี่ยนแปลงเวลาบิน โดยทำแผนหลอก แบบยื่นใบจองตั๋วเครื่องบิน (แค่ใบจองยังไม่ต้องจ่ายเงินจริง) ใบจองที่พัก (ใช้ของเวป booking.com เลือกแบบยกเลิกฟรี) ให้สอดคล้องกับแผนหลอกนี้ด้วย กล่าวคือ ผมจะขอวีซ่าเชงเก้นของทริปนี้รวม 13 วัน แจ้งแผนการเดินทางว่าบินไปถึงปารีส วันที่ 1 ม.ค. แล้วบินออกจากปารีสวันที่ 13 ม.ค. รวมเป็น 13 วัน ทีนี้ก็ปลอดภัยละ สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเวลาบินได้ทั้งวันไปและวันกลับ
ข้อมูลควรรู้ ก่อนใช้ทริคซื้อตั๋วเครื่องบินไปยุโรปราคาถูกแบบบินไปกลับต่างเมือง
ส่วนตัวผมใช้วิธีจองตรงผ่านเวปของสายการบิน หรือไม่ก็เวปเอเยนต์เจ้าดังเช่น cheaptickets.com , cheaptickets.co.th จะไม่ใข้บริการกับเอเยนต์อื่นเลยเพื่อความปลอดภัย
ทริคการหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
ปกติสายการบินจะขายตั๋วราคาถูกก่อนครับ พอหมดแล้วก็จะขยับราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ตามคลาสของตั๋ว แต่ก็ไม่แน่เสมอไป บ่อยครั้งที่จัดโปรราคาถูกช่วงใกล้วันเดินทางแค่ 2-3 เดือนล่วงหน้าก็มี แต่อย่างไรก็ตามลองใช้ทริคของผมเผื่อจะเจอราคาถูกได้
เรื่องตั๋วเครื่องบินไปกลับยุโรป ถ้ารู้ทริคและกล้าจ่ายเงินซื้อล่วงหน้านานๆหลายเดือน อาจได้ราคาถูกมากสุดๆ แต่ต้องเสี่ยงเอาว่าจะได้วีซ่ารึเปล่า
ทริคของผมคือการเข้าไปดูที่เวป cheaptickets.co.th ทุกวัน ดูไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอของดีราคาถูกครับ ง่ายกว่าการเข้าไปดูทีละสายการบิน
ที่สำคัญต้องพิจารณาตนเองว่าน่าจะได้วี่ซ่าหรือไม่ ส่วนตัวผมได้วีซ่าเชงเก้นมาหลายครั้งแล้ว จึงใช้วิธีซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน เพราะตั๋วราคาถูกๆรอไม่ได้ช้าหมดอดกันพอดี ปกติผมซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนบินราว 6-7 เดือนด้วยซ้ำไป ถ้าเจอราคาถูกใจนะ ซัดไปเลย
ถ้าเน้นราคาถูกสุดๆ ยอมบินอ้อมนิดนึง อ่านทริคนี้ได้ http://ppantip.com/topic/30614434 อาจเจอสายการบินดีๆราคาถูกแบบสุดๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเจอเสมอไปนะครับ ต้องใช้การเฝ้าตามราคาไปเรื่อยๆตามทุกวัน ดังนั้นถ้าใครวางแผนล่วงหน้าได้นานๆหลายเดือน ย่อมมีโอกาสเจอราคาโปรสุดถูกได้ไม่ยาก หรือใช้วิธีง่ายๆแค่หมั่นตามเพจแจ้งข่าวตั๋วเครื่องบินราคาถูก เช่นเพจเพื่อนบอกโปร,ติดโปร,อาแปะ
เช่นผมเคยเจอของเอติฮัต ขาไป ฮ่องกง-มิลาน ขากลับ อัมสเตอร์ดัม-กทม. ราคาสุทธิแค่ 16,000 บาทเอง หรือเจอราคาถูกๆของ Finnair , Aeroflot ซึ่งยังไงๆชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกสายการบินจีนกับอินเดีย น่ากลัวมากเรื่องห้องน้ำโสครกอะ กับกลิ่นตัวผู้โดยสาร
ทริคหลักอยู่ที่การเลือกเมืองตั้งต้นให้แตกต่างคนละประเทศกับเมืองสุดท้าย และควรตรวจสอบราคากับเวปของสายการบินโดยตรง เพราะบางทีได้ราคาถูกกว่าเวปเอเยนต์ และรูดบัตรเครดิตได้ไม่ต้องจ่ายค่า fee ด้วย แถมตอนนี้เวป cheaptickets.co.th คิดค่า fee การรูดบัตรเครดิตแล้ว แม้ว่าจะแค่ 1% ก็ตาม ถ้าเป็นวีซ่ากับมาสเตอร์นะ
เคล็ดลับของทริคนี้คือ ให้เมืองตั้งต้นกับเมืองสุดท้ายเป็นคนละประเทศก็พอ มีโอกาสเจอตั๋วถูกมากๆได้ถึง 6 ช่องทาง
ตย.1. ขาไป ฮ่องกง-ปารีส ขากลับ ปารีส-ไทย
2. สิงคโปร์-ปารีส ปารีส-ไทย
3. กัวลาลัมเปอร์-ปารีส ปารีส-ไทย
4. ไทย-ปารีส ปารีส-ฮ่องกง
5. ไทย-ปารีส ปารีส-สิงคโปร์
6. ไทย-ปารีส ปารีส-กัวลาลัมเปอร์
จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่เคยซื้อตั๋วไปกลับยุโรปชั้นอีโค เกิน 25,000 บาทเลย (รวมค่าภาษีทุกอย่างแล้ว) ถ้าทำตามทริคนี้และวางแผนล่วงหน้านานๆ มีโอกาสเจอราคาถูกแบบสุดๆ
ปล.ถ้าเพิ่มโฮจิมินด้วย ก็เป็น 8 ช่องทางครับ
ต่อมามีคนนำทริคนี้ไปใช้กันแพร่หลาย และมีหลายคนเจอปัญหาสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่เกี่ยวว่าเป็นเพราะตั๋วราคาถูกจึงโดนเปลี่ยนแปลงเวลาบิน แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้บางครั้งสายการบินทำการเปลี่ยนแปลงเวลาบิน
ปัญหาหลักๆที่หลายคนเจอ คือ
1.หลายคนจองซื้อตั๋วเครื่องบินเพิ่มอีกขาไปก่อนแล้ว ตย. ทริปไปกลับยุโรปเดือน เม.ย. ปี 2558 เริ่มต้น ขาไป กัวลาลัมเปอร์-ปารีส ขากลับ ปารีส-ไทย ซื้อตั๋วของสายการบินเอติฮัต ได้ราคาแค่ 15,000 บาท พอเดือนพ.ย. ปี 2557 เจอราคาโปร จากกทม.ไปกัวลาลัมเปอร์ 1,000 บาท เลยรีบจองซื้อทันที ปรากฎว่าพอถึงเดือน ม.ค. ปี 2558 สายการบินเอติฮัตแจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ทำให้ตั๋วที่ซื้อขาไปจากกทม.-กัวลาลัมเปอร์ใช้ไม่ได้ เท่ากับเสียเงินค่าตั๋วขานั้นไปฟรีๆ
2.หลายคนขอวีซ่าเชงเก้นไปแล้วและได้รับอนุมัติเท่ากับจำนวนวันที่อยู่ในเชงเก้นจริงแบบพอดีเป๊ะ ทีนี้พอโดนสายการบินเปลี่ยนแปลงเวลาบิน งานนี้เลยเกิดเรื่อง แก้ไขอะไรยากมาก
ทางป้องกันที่ทุกคนควรเตรียมพร้อมนั่นคือ
1.ผมคาดว่าการเปลี่ยนตารางบินน่าจะจบก่อนเวลาบินจริง 1 เดือน ดังนั้นผมจะรอจนถึง 30 วันสุดท้ายก่อนบิน ถึงค่อยซื้อตั๋วขาที่เหลือครับ ยอมที่จะไม่ได้ราคาโปรของตั๋วเครื่องบินขานั้น แต่ไม่เสี่ยงจองซื้อล่วงหน้าหลายเดือนเด็ดขาด
2.ส่วนการขอวีซ่า เนื่องจากหลายคนเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้ทริค จึงใช้ตั๋วเครื่องบินจริงเป็นหลักฐานการยื่นขอวีซ่า ซึ่งพวกมือเก่าชำนาญเกมจะไม่ทำแบบนั้น เราใช้วิธีอื่นได้มากมาย เช่น โทรติดต่อเอเยนต์ขายตั๋วเครื่องบินทั่วไป โดยสอบถามราคาตั๋วเอาแบบบินไปกลับจากไทย แล้วบอกเอเยนต์ว่ายังไม่กล้าจ่ายเงินจริง ขอใบจองเพื่อไปทำวีซ่าเชงเก้นให้ได้ก่อน ทางเอเยนต์หลายรายจะบริการส่งใบจองมาให้เราทางอีเมลฟรี เพื่อนำไปใช้ยื่นขอวีซ่า
หรือจะโทรติดต่อสายการบินโดยตรงเพื่อขอใบจองมาทำวีซ่าก่อนก็ได้ เคยมีคนในห้องบลู บอกว่าโทรติดต่อขอใบจองของสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้ หรือใช้ใบจองที่ปริ๊นต์จากเวปของการบินไทยก็ได้ (แบบจองไว้เฉยๆยังไม่ต้องจ่ายเงิน) เพื่อนำไปใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น
ที่สำคัญอีกอย่างคือ การขอวีซ่าต้องเผื่อกรณีโดนเปลี่ยนแปลงเวลาบินแบบนี้เอาไว้ด้วย สมมติ เราจองตั๋วเครื่องบินขาไป กัวลาลัมเปอร์บินไปถึงปารีส วันที่ 2 ม.ค. ขากลับ ออกจากปารีส วันที่ 12 ม.ค. ถึงไทยวันที่ 13 ม.ค. เท่ากับว่าอยู่เที่ยวในเชงเก้นตั้งแต่วันที่ 2-12 รวม 11 วัน เราไม่ควรยื่นขอวีซ่าตามจำนวนวันที่แท้จริง เพราะบ่อยครั้งที่สถานฑูตอนุมัติวีซ่าตามวันที่เราขอไปแบบพอดีเป๊ะ เช่นเคสตย.นี้ ถ้าสถานฑูตให้วีซ่าเชงเก้นเราแค่ 11 วัน ตรงตามที่เราขอพอดี ถ้าเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงอะไร จะขยับแก้ไขได้ลำบากมาก
ดังนั้นเคสนี้ ผมจะขอวีซ่าเชงเก้นแบบเผื่อวันไว้ให้มากกว่าเดิมเพื่อความปลอดภัย โดยเผื่อวันเพิ่มหัวท้ายอย่างละวัน เพื่อรับมือถ้าเกิดเหตุต้องเปลี่ยนแปลงเวลาบิน โดยทำแผนหลอก แบบยื่นใบจองตั๋วเครื่องบิน (แค่ใบจองยังไม่ต้องจ่ายเงินจริง) ใบจองที่พัก (ใช้ของเวป booking.com เลือกแบบยกเลิกฟรี) ให้สอดคล้องกับแผนหลอกนี้ด้วย กล่าวคือ ผมจะขอวีซ่าเชงเก้นของทริปนี้รวม 13 วัน แจ้งแผนการเดินทางว่าบินไปถึงปารีส วันที่ 1 ม.ค. แล้วบินออกจากปารีสวันที่ 13 ม.ค. รวมเป็น 13 วัน ทีนี้ก็ปลอดภัยละ สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเวลาบินได้ทั้งวันไปและวันกลับ