(กระทู้ดองลืม) ตามรอย Da Vinci's Demons เจอกัน Firenze
ทริปนี้ตั้งแต่ปี 2013 จากกระทู้เดิม ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้พัฒนาฝีมือการเขียนเลย
http://ppantip.com/topic/31059128
http://ppantip.com/topic/31073876
ต่อเนื่องจากทริปวาติกันและโรมา มีเวลาเหลืออีก 1 วัน (กรุงโรม 3 วันเดินเที่ยวจริงจังก็เกือบทั่วเมืองแล้ว) และด้วย จขกท หลงไหลในมินิซีรี่ย์เรื่องDa Vinci's Demons นี้มาก และมีความฝันว่าสักวันจะมีโอกาสได้ไปยลเมืองในประวัติศาสตร์ที่สวยงามนี้ พอเวลาลงตัวแล้วก็จัดการเรื่องตั๋วรถไฟ เราเลือกนั่งรถไฟความเร็วสูงเพื่อทำเวลา (รายละเอียดมีหลายท่านได้รีวิวไว้แล้ว กระทู้นี้ขอเน้นที่การแบ่งปันภาพนะคะ) ปุบปับทริปแบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ เดินค่ะเดิน เราเดินเที่ยวตาม map เลยค่ะ หาข้อมูลกันคืนก่อนจะมานี่แหละ ตื่นเต้นดี พอถึงแค่อากาศก็ดีแล้ว เย็นกว่าโรมเยอะเลย เป็นเมืองที่น่ารักมากๆค่ะ หลงรักเลย มุมไหนก็สวย ไม่พุดพร่ำแล้วนะคะ ขอแบ่งปันภาพเลยดีกว่าค่ะ
เดินตาม map มาเรื่อยๆก็จะเจอตลาดขายเครื่องหนัง กระเป๋าหนัง เข็มขัด และหน้ากากแฟนซี
และแล้วก็มาถึงที่นี่ Basilica of San Lorenzo, Florence
ข้อมูลจากวิกิบอกว่า เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดที่หนึ่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดเก่าในใจกลางเมืองฟลอเรนซ์และเป็นวัดที่ใช้ในการบรรจุศพบุคคลสำคัญๆ หลายคนของตระกูลเมดิชิ เชื่อว่าเป็นวัดที่เก่าที่สุดในฟลอเรนซ์ที่เดิมสร้างในปี ค.ศ. 393 นอกกำแพงเมือง และเป็นมหาวิหารแห่งเมืองฟลอเรนซ์อยู่ 300 ปี และเป็นโบสถ์ประจำตระกูลเมดิชิ
เดินต่อมาเรือยๆก็เจอ Florence Cathedral มหาวิหารฟลอเรนซ์
มหาวิหารแห่งนี้ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป เป็นสไตล์กอธิค สร้างระหว่างปี 1296 ถึงปี 1436 ข้อมูลจากวิกิเช่นเคย
มุมยอดฮิตอีกมุม
ระหว่างรอคิวขึ้นโดม เจอกลุ่มเด็กๆมาทัศนศึกษาด้วย
รถม้าเมือง firenze
มองจากมุมสูง สวยมากจริงๆ ลมแรงด้วย
เมืองนี้ถ่ายมุมไหนก็สวย
ลงมาแล้วก็เดินต่อมาเจองานรูปปั้นสวยๆ เยอะเลยค่ะ
Perseus with the Head of Medusa.
The Rape of the Sabine Women
มันคือศิลปะ
อิ่มเอมกับงานศิลป์แล้วก็เดินต่อค่ะ เดินชมเมืองไปเรื่อยๆตาม map จนมาถึงที่นี่
Ponte Vecchio ซึ่งเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในฟลอเรนซ์ บนสะพานจะมีบ้านและร้านค้าอยู่ตลอดแนวสะพาน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยก็ว่าได้
เดินมาใกล้ๆซะหน่อย
เดินมาเกือยสุดสะพานจะมีคล้ายๆอนุสาวรีย์อยู่ ไม่ได้หาข้อมูล ขอโทษทีน๊าค๊า
เดินเที่ยวมาเรื่อยๆก็จะถึง The Palazzo Pitti เป็นวังแบบเรอแนซ็องส์ที่ตั้งอยู่ที่ด้านใต้ของแม่น้ำอาร์โน ไม่ไกลจากสะพานเวกกีโอ (Ponte Vecchio) ตัววังเดิมสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1458 และเดิมเป็นที่พำนักของลูกา ปิตตี (Luca Pitti) นายธนาคารชาวฟลอเรนซ์ ต่อมาวังก็ถูกตระกูลเมดีชีซื้อไปในปี ค.ศ. 1539 และกลายมาเป็นที่พำนักหลักของตระกูลแกรนด์ดุ๊กแห่งทัสกานี นอกจากนั้นก็ยังใช้เป็นที่สะสมงานศิลปะต่าง ๆ เป็นจำนวนมหาศาล
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 วังปิตตีใช้เป็นที่บัญชาการของจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส และต่อมาก็ใช้เป็นวังหลวงของอาณาจักรอิตาลีแต่ก็เพียงระยะเวลาอันสั้น วังและข้าวของภายในวังได้รับการอุทิศให้เป็นสมบัติของประชาชนอิตาลีโดยพระเจ้าวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ในปี ค.ศ. 1919 ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีงานสะสมต่าง ๆ นอกเหนือจากงานสะสมที่มาจากตระกูลเมดีชี ขอบคุณวิกิที่เอื้อเฟื้อข้อมูลค่ะ
อีกฝั่งนึงของสะพานค่ะ หลังจากที่เดินๆๆๆเที่ยวจนใกล้เวลารถไฟกลับ ต้องเร่งฝีเท้าแล้วเดี๋ยวไม่ทันรถไฟ แต่ระหว่างทางเดินอดไม่ได้ตริงๆที่จะเก็บภาพ น่าถ่ายทุกมุม อยากจะมีเวลาอยู่สัก 3 วันจริงๆ
ทางแยกยังดูดีเลย
ก่อนจะถึงสถานีรถไฟก็ผ่าน basilica of santa maria novella มหาวิหารซานตามาเรียโนเวลลา เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิคและเรอเนซองส์ตอนต้น มีงานจิตรกรรมฝาผนังสำคัญๆ ของจิตรกรผู้มีชื่อเสียงหลายคนของฟลอเรนซ์ เสียดายไม่ได้เข้าไปดู ต้องกลับโรมแล้ว เพราะพรุ่งนี้ได้เวลากลับไปปารีส เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทยบ้านเราแล้ว ไม่อยากได้ยินคำว่ากลับเลย พอกลับมาดูรูปที่ไปเที่ยวมาก็มีกำลังใจในการทำงาน เก็บตังค์ๆๆไปเที่ยวใหม่ ฮึบๆๆ
[CR] (กระทู้ดองลืม) ตามรอย Da Vinci's Demons เจอกัน Firenze
ทริปนี้ตั้งแต่ปี 2013 จากกระทู้เดิม ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้พัฒนาฝีมือการเขียนเลย
http://ppantip.com/topic/31059128
http://ppantip.com/topic/31073876
ต่อเนื่องจากทริปวาติกันและโรมา มีเวลาเหลืออีก 1 วัน (กรุงโรม 3 วันเดินเที่ยวจริงจังก็เกือบทั่วเมืองแล้ว) และด้วย จขกท หลงไหลในมินิซีรี่ย์เรื่องDa Vinci's Demons นี้มาก และมีความฝันว่าสักวันจะมีโอกาสได้ไปยลเมืองในประวัติศาสตร์ที่สวยงามนี้ พอเวลาลงตัวแล้วก็จัดการเรื่องตั๋วรถไฟ เราเลือกนั่งรถไฟความเร็วสูงเพื่อทำเวลา (รายละเอียดมีหลายท่านได้รีวิวไว้แล้ว กระทู้นี้ขอเน้นที่การแบ่งปันภาพนะคะ) ปุบปับทริปแบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ เดินค่ะเดิน เราเดินเที่ยวตาม map เลยค่ะ หาข้อมูลกันคืนก่อนจะมานี่แหละ ตื่นเต้นดี พอถึงแค่อากาศก็ดีแล้ว เย็นกว่าโรมเยอะเลย เป็นเมืองที่น่ารักมากๆค่ะ หลงรักเลย มุมไหนก็สวย ไม่พุดพร่ำแล้วนะคะ ขอแบ่งปันภาพเลยดีกว่าค่ะ
เดินตาม map มาเรื่อยๆก็จะเจอตลาดขายเครื่องหนัง กระเป๋าหนัง เข็มขัด และหน้ากากแฟนซี
และแล้วก็มาถึงที่นี่ Basilica of San Lorenzo, Florence
ข้อมูลจากวิกิบอกว่า เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดที่หนึ่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณตลาดเก่าในใจกลางเมืองฟลอเรนซ์และเป็นวัดที่ใช้ในการบรรจุศพบุคคลสำคัญๆ หลายคนของตระกูลเมดิชิ เชื่อว่าเป็นวัดที่เก่าที่สุดในฟลอเรนซ์ที่เดิมสร้างในปี ค.ศ. 393 นอกกำแพงเมือง และเป็นมหาวิหารแห่งเมืองฟลอเรนซ์อยู่ 300 ปี และเป็นโบสถ์ประจำตระกูลเมดิชิ
เดินต่อมาเรือยๆก็เจอ Florence Cathedral มหาวิหารฟลอเรนซ์
มหาวิหารแห่งนี้ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของทวีปยุโรป เป็นสไตล์กอธิค สร้างระหว่างปี 1296 ถึงปี 1436 ข้อมูลจากวิกิเช่นเคย
มุมยอดฮิตอีกมุม
ระหว่างรอคิวขึ้นโดม เจอกลุ่มเด็กๆมาทัศนศึกษาด้วย
รถม้าเมือง firenze
มองจากมุมสูง สวยมากจริงๆ ลมแรงด้วย
เมืองนี้ถ่ายมุมไหนก็สวย
ลงมาแล้วก็เดินต่อมาเจองานรูปปั้นสวยๆ เยอะเลยค่ะ
Perseus with the Head of Medusa.
The Rape of the Sabine Women
มันคือศิลปะ
อิ่มเอมกับงานศิลป์แล้วก็เดินต่อค่ะ เดินชมเมืองไปเรื่อยๆตาม map จนมาถึงที่นี่
Ponte Vecchio ซึ่งเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในฟลอเรนซ์ บนสะพานจะมีบ้านและร้านค้าอยู่ตลอดแนวสะพาน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยก็ว่าได้
เดินมาใกล้ๆซะหน่อย
เดินมาเกือยสุดสะพานจะมีคล้ายๆอนุสาวรีย์อยู่ ไม่ได้หาข้อมูล ขอโทษทีน๊าค๊า
เดินเที่ยวมาเรื่อยๆก็จะถึง The Palazzo Pitti เป็นวังแบบเรอแนซ็องส์ที่ตั้งอยู่ที่ด้านใต้ของแม่น้ำอาร์โน ไม่ไกลจากสะพานเวกกีโอ (Ponte Vecchio) ตัววังเดิมสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1458 และเดิมเป็นที่พำนักของลูกา ปิตตี (Luca Pitti) นายธนาคารชาวฟลอเรนซ์ ต่อมาวังก็ถูกตระกูลเมดีชีซื้อไปในปี ค.ศ. 1539 และกลายมาเป็นที่พำนักหลักของตระกูลแกรนด์ดุ๊กแห่งทัสกานี นอกจากนั้นก็ยังใช้เป็นที่สะสมงานศิลปะต่าง ๆ เป็นจำนวนมหาศาล
ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 วังปิตตีใช้เป็นที่บัญชาการของจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส และต่อมาก็ใช้เป็นวังหลวงของอาณาจักรอิตาลีแต่ก็เพียงระยะเวลาอันสั้น วังและข้าวของภายในวังได้รับการอุทิศให้เป็นสมบัติของประชาชนอิตาลีโดยพระเจ้าวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 3 ในปี ค.ศ. 1919 ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีงานสะสมต่าง ๆ นอกเหนือจากงานสะสมที่มาจากตระกูลเมดีชี ขอบคุณวิกิที่เอื้อเฟื้อข้อมูลค่ะ
อีกฝั่งนึงของสะพานค่ะ หลังจากที่เดินๆๆๆเที่ยวจนใกล้เวลารถไฟกลับ ต้องเร่งฝีเท้าแล้วเดี๋ยวไม่ทันรถไฟ แต่ระหว่างทางเดินอดไม่ได้ตริงๆที่จะเก็บภาพ น่าถ่ายทุกมุม อยากจะมีเวลาอยู่สัก 3 วันจริงๆ
ทางแยกยังดูดีเลย
ก่อนจะถึงสถานีรถไฟก็ผ่าน basilica of santa maria novella มหาวิหารซานตามาเรียโนเวลลา เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิคและเรอเนซองส์ตอนต้น มีงานจิตรกรรมฝาผนังสำคัญๆ ของจิตรกรผู้มีชื่อเสียงหลายคนของฟลอเรนซ์ เสียดายไม่ได้เข้าไปดู ต้องกลับโรมแล้ว เพราะพรุ่งนี้ได้เวลากลับไปปารีส เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทยบ้านเราแล้ว ไม่อยากได้ยินคำว่ากลับเลย พอกลับมาดูรูปที่ไปเที่ยวมาก็มีกำลังใจในการทำงาน เก็บตังค์ๆๆไปเที่ยวใหม่ ฮึบๆๆ