สวัสดีค่ะ
วันนี้ ดิฉัน มีเรื่องของหมาๆ ให้อ่านกันน่ะค่ะ ดิฉัน ก็แค่คนๆหนึ่ง ที่คอยช่วยน้องหมาพันธุ์ ที่ถูกทิ้งอยู่ข้างถนน และ นำกลับมารักษา จนหายเป็นปกติ ถ้าเพื่อนๆ เป็นสมาชิกที่นี่ ก็คงรู้จักชื่อ ดิฉัน ตั้งแต่ ใช้ ล๊อกอน เดิม ที่ชื่อ ปมณฑ์ น่ะค่ะ
วันนี้ ขอนำเรื่องราว ที่ได้พบเจอมาแบ่งปันกัน เพื่อ อีกหลายๆคน จะได้เรียนรู้ ว่า ถ้าเจอปัญหา แบบนี้ แล้วจะทำอย่างไร เมื่อเดือน เมษายน ปีที่แล้ว ดิฉัน ได้ย้ายบ้านไปที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 100 ตรว. ย้ายจาก ทาวน์เฮ้าส์ ไปบ้านเดี่ยว ก็เพื่อ อยากให้ น้องหมามีที่วิ่งเล่นบ้าง แต่ระหว่างที่ย้ายไป อะไรก็ไม่พร้อมมากนัก ต้องทำมุ้งลวด หรือ อื่นๆอีกมากมาย เพราะยุงเยอะมาก ช่วงย้ายไปใหม่ๆ ก็ให้น้องหมาอยู่หน้าบ้าน เขาก็คงตื่นเต้น ไม่เคยอยู่บ้านกว้างๆ เห็นใครก็เห่าไปหมด และ เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เพื่อนบ้านไปร้องเรียน เทศบาล ว่า หมาที่บ้านดิฉัน เห่าเสียงดัง เป็นที่น่ารำคาญ ทำให้ นอนหลับพักผ่อน ในเวลากลางวันไม่ได้ เพราะ ต้องเข้ากะ ทำงาน ที่ ทราบ เพราะ ประธานหมู่บ้านเดินเข้ามาที่บ้านดิฉัน และ พูดเรื่องนี้ให้ฟัง และ ประธานหมู่บ้าน ก็ทำงานร่วมกับเทศบาลบ่อยๆ ก็คงเป็น อสม. ประมาณนั้น เวลามีปัญหาอะไร เธอ ก็จะไปรายงาน ทุกเรื่อง แต่ สิ่งที่ดิฉันเห็น ก่อนย้ายบ้าน ก็คือ ประธานมานั่ง ที่บ้าน อสม. เพื่อปรึกษาหารือ ข้อราชการ และ กินเหล้า เอะอะเสียงดัง ในเวลากลางคืน เป็นประจำ บางคืน เธอก็มีเสียงกรี๊ด ดัง แบบสนุกสนาน ข้อนี้ ไม่มี มุสา เพราะ อัดเสียงดังของคุณเธอ เอาไว้เป็นหลักฐาน เห็นบางวัน ก็มีเครื่องเสียงคาราโอเกะ ร้องเพลง ฉลองวันเกิด ประหนึ่งว่า หมู่บ้านนี้ เป็นของฉัน และ เคยได้ยิน คำพูดเธอพูดว่า " รู้จัก ก.. น้อยไป " อันนี้ได้ยินกับหูตัวเองเลยทีเดียวค่ะ
ดิฉัน เคยแจ้งทางเทศบาลไปว่า จะสร้างบ้านหมา ด้านหลังให้น้องหมา ซึ่ง ยาว 8 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร แต่พอเจอเรื่องแบบนี้ เจอคนแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า แค่หมาเห่า เล็กๆน้อย ก็ยังมีปัญหา เพื่อนบ้าน หรือ ประธานหมู่บ้านแบบนี้ ยิ่งไม่ไหวเลย ประธานหมู่บ้าน ที่ไม่มี ความศรัทธาให้เห็นเลย เทศบาล ก็ฟังความข้างเดียวหรือปล่าวก็ไม่รู้ แต่สำหรับ ดิฉันแล้ว ก็ยังคิดว่า หมา ดิฉัน ก็เห่า ปกติ เวลาที่ดิฉัน กลับบ้าน เขาก็ดีใจ สักพัก ก็หยุด เท่านั้นเอง
เทศบาล มาที่บ้านถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ดิฉัน ถามว่า แล้ว ถ้าทำบ้านเสร็จ แล้ว น้องหมา ก็ยังเห่าอยู่ละ จะทำยังไง คำตอบที่คุณหมอ เทศบาล ตอบมาก็คือ ""นั่นมันเรื่องของคุณ "" ฟังแล้ว ประมาณ ว่า หมาห้ามเห่า แม้แต่แอะเดียว
หลังจาก ครั้งนั้น ดิฉัน ก็ซื้อ เหล็ก มากั้น 2 ข้าง ทั้ง ด้านซ้าย และ ขวา ของบ้าน เพื่อ แยก น้องหมา เป็น 2 ส่วน เพราะ เจอกัน ก็จะกัดกัน แต่ช่วงที่ดิฉัน กั้นเหล็ก คำถาม ว่า แว๊บ ขึ้นในหัวว่า ประธานหมู่บ้าน บอกให้เรา ไม่ให้หมาเห่า แล้ว ตัวประธาน เอง เคยคิดแก้ไข ตัวเอง ที่ ไม่กินเหล้า ส่งเสียงดังบ้างมั๊ย หรือ ถ้า ฉัน เอาเรื่อง เอาราว กับ น้องหมาได้ แล้ว ดิฉัน จะมีความสุขมาก หัวเราะร่าเริง ยิ่งกว่าเดิม ซะอีก
และ ที่สุด เทศบาล ก็มาที่บ้าน เป็นครั้งที่ 3 ฌขาก็ถามวาทำไมยังไม่ทำบ้านหมา ดิฉัน ก็ตอบว่า เงินยังไม่พอ เทศบาล จะช่วย ค่าก่อสร้างหรือปล่าวล่ะ จะได้ทำให้ และ ดิฉัน ก็บอกเขาว่า ไม่คุยแล้วล่ะ เอาคนร้องเรียนมาด้วยแล้วกัน อยากเห็นหน้าเหมือนกัน เพราะ อยากรู้ ว่า ประธาน จะออกมาด้วยมั๊ย
และ หลังจาก วันนั้น ดิฉัน ก็โทรหา หัวหน้ากอง เทศบาล ว่า เจ้าหน้าที่ ทำงาน 2 มาตรฐาน ขอร้องเรียน เทศบาลด้วย ฟังความข้างเดียว เรื่องนี้ ความเป็นจริง คือ คนทำเสียงดังน่ารำคาญ ยิ่งกว่า น้องหมาที่บ้านซะอีก เพราะ พอ 6 โมงเย็น ดิฉันก็เอาน้องหมาเข้าบ้านหมด ปิดไฟ และ พวกเขา ก็จะนอน กันจนเช้า จะมีเห่าบ้าง ตอนที่ ขี้เมา ตีกัน แล้ว เดิน ผ่านหน้าบ้าน
สุดท้าย ทาง เทศบาล ก็ส่งหนังสื้อ ไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท ในระหว่างนี้ อ่านกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้ด้วย และ โทรถาม ทนายความด้วย คนที่แนะนำ ก็บอกว่า เรื่องเหตุอันรำคาญ ร้องเรียนได้หมด แค่คนไม่ถูกกัน ใบไม้ร่วงใบเดียว ก็ร้องเรียนได้ หมาเห่า แอะเดียว ก็ร้องเรียนได้ ดิฉัน เลยถามว่า แต่ประธานหมู่บ้าน กินเหล้าเสียงดัง มาตลอด ดิฉันก็ไม่เคยร้องเรียน ถือว่าต่างคนต่างอยู่ไป เขาเลยบอกว่า มันเหมือนว่า ขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละคนด้วย และ เสียงดังจากหมาเห่า ก็ไม่ได้วัดกันด้วยเดซิเบล ดิฉัน เลยถามว่า ดิฉัน ต้องต่อสู้ เพื่อ เด็กๆ ของ ดิฉัน เพราะ เขาไม่ได้เห่าอะไรมากมายเลย กลางคืน ก็เงียบสนิท ซึ่ง ดิฉัน ถือว่า ดิฉันไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกแกล้ง เพราะ มีคนบอกให้ฟังว่า เขาไปบอกคนอื่นว่า หมั่นไส้ ดิฉัน ที่ ดิฉัน หยิ่ง ไม่คุยกับใคร แล้ว ผิด หรือ ที่ ดิฉันไม่ชอบคุย กับคนกินเหล้า สูบบุหรี่ และ สตอเบอรี่ ซึ่ง ตอนที่ ดิฉัน อยู่ ทาวน์เฮ้าส์ เพื่อนบ้าน ก็พูดแบบนี้ เหมือนกัน และ ก็เป็นแบบเดียวกับ ที่ใหม่ เหมือนกัน
และ วันนี้ ก็เป็นวันที่ไปเจรจา มีเจ้าหน้าที่หลายท่านมาร่วมรับฟัง เพื่อนบ้านที่ร้องเรียนดิฉัน ก็ไป พร้อมประธานหมู่บ้าน และ ทั้ง 2 คน ก็พูดว่า หมาดิฉัน ทั้งเห่า ทั้งหอน ไม่หยุด จะเห่ามาก ก็ตอนที่ ดิฉัน ไม่อยู่บ้าน แต่ตอนที่ดิฉัน อยู่ ก็ไม่ค่อยเห่า และประธาน ก็พูดว่า ปกติ ก็พูดกัน ( จริงๆ แล้ว ดิฉันไม่ชอบพูดกับเขา ตั้งแต่ ยังไม่ย้ายไป เพราะ ไม่ชอบคนลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว ) เขาพูดว่า พอเขามาพูดกับ ดิฉัน เรื่องหมา ดิฉัน ก็โกรธเขาไปเลย ดิฉัน นั่งฟังแล้ว ก็นึกตลอดว่า ท่าทาง ว่า ทำร้ายหมาๆ ได้ คงมีความสุข กัน ทั้ง 2-3 คน ที่อยู่ระแวกนั้น ดิฉัน ก็นึกในใจ ว่า เอาเถอะ เวรกรรม ที่พวกคุณ โกหก เกินความเป็นจริง กับน้องหมาเหล่านี้ มันคงไม่ต้องภพชาติหน้าหรอกน่ะ และ ดิฉัน ก็ชี้แจงว่า หลังจากที่เกิดปัญหา ก็ไม่อยากสร้างบ้านให้น้องหมาแล้ว เพราะ อยากจะย้ายไปที่อื่นอีก เลยต้องวางโครงการนี้ไปก่อนแล้วกัน ก็คงเป็นสิ้นปี โน่นแหละ แต่ ดิฉัน ก็กั้นพื้นที่ ด้านข้าง 2 ข้าง ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ เพราะ ฉะนั้น ด้านหน้า ก็มีแค่ 4 ตัว เท่านั้น นอกนั้น ก็อยู่ในตัวบ้าน และ หลังบ้าน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ก็ให้ดิฉัน ออกมา และ ขอคุย กับ ผู้ร้องเรียน ก่อน หลังจาก ที่ ดิฉัน เข้าไป ทางเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า ผู้ร้องเรียน ต้องการให้ ดิฉัน ทำบ้านหมาภายใน 2 เดือน ดิฉัน บอกว่า คงไม่ได้ค่ะ เพราะ คงไม่อยากจ่ายเงินค่าทำ ถ้า ดิฉัน มีความคิด ที่จะย้ายออกไป ในไม่ช้า คงทำได้ แต่ ย้ายเด็กๆ ไปหลังบ้าน เท่านั้น และ จะซื้อ กล้องวงจรปิด มาติด เพื่อจะดูว่า น้องหมา ดิฉัน เห่าเสียงดังมากมาย ก่ายกอง ตามที่ เพื่อนบ้าน หรือ ประธานหมู่บ้านพูดจริงหรือไม่ เพราะ ต่อไป อาจต้องใช้ ในเวลาขึ้นศาล อ้อ และ ตอนที่ ผู้มาไกล่เกลี่ย ลงบันทึกว่า ดิฉัน จะจับหมาไปขัง ดิฉันเลยบอกว่าไม่ได้ขัง แค่ย้ายไปด้านหลัง คุณประธานบอกว่า ถ้าขังก็น่าสงสารเหมือนกัน สุดยอดทีเดียวเชียว เพราะเท่าที่รู้ คุณเธอก็เอาน้องหมาไปปล่อย ก่อนที่ พรบ. ออกเหมือนกัน
ดิฉัน ต้องทำ เพื่อ ปกป้อง เด็กๆ ที่ดิฉัน เก็บมา ทั้ง 19 ชีวิต และ ท่านเจ้าหน้าที่ ก็แจ้ง ประธาน หมู่บ้านว่า ดิฉัน ก็ได้ร้องเรียน ว่า ประธานหมู่บ้าน กินเหล้าส่งเสียงดัง ในเวลา บ่อยครั้งมาก รู้มั๊ยว่า กฎหมาย ที่กินเหล้า ริมฟุตบาท ตอนนี้ ก็ถูกจับปรับแล้ว เขาให้กินเหล้า ในเคหสถานได้อย่างเดียว และ กลับมาถึงบ้าน ดิฉัน ก็ได้โทรไป ร้องเรียน ที่เทศบาลอีกครั้งหนึ่ง ที่ ประธานหมู่บ้าน ดื่มเหล้า ส่งเสียงดังเอะอะ เหมือนกัน
พอมาถึงตอนนี้ เราคงไม่ต้อง คิดว่า ไม่อยาก มีเรื่องมีราว แต่ถ้า เทศบาล เชื่อในคำพูด ของ ประธานหมู่บ้าน แล้ว ดิฉัน ก็ต้องขอชน แล้วค่ะ และ ประธานหมู่บ้าน เอง ก็ควรมีจิตสำนึก ที่ดี กว่านี้ เพราะคุณไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันเอง ก็มีสิทธิ ในหมู่บ้านไม่ต่างจากคุณ ประธานหมู่บ้าน เป็นผู้หญิง มีสามี เป็นชาวต่างชาติ กินเหล้า สูบบุหรี่ และ สะตอ ทีเดียว น่าจะให้โล่
ส่วน ดิฉัน แค่ คนธรรมดา เคยทำงาน เป็นนายกสโมสรโรตารี สร้าางพระประธาน 59 นิ้งที่ราชบุรี บริจาคเลือด มาแล้ว 36 ครั้ง คงได้รับพระราชทานจาก พระเทพ ในไม่ช้า ลง เวบบอร์ด ว่า สอนตัดเย็บเสื้อผ้า ฟรี เป็นวิทยาทาน ให้กับคนยากจน และ เก็บน้องหมา ที่ถูกทิ้ง ทุกสายพันธุ์ ช่วยเหลือ ฟูมฟัก ดูแล และ ให้ความรัก กับพวกเขาด้วยหัวใจ คนอย่างดิฉัน เทศบาล ก็คงคิดว่า ไม่มีค่าอะไร
แต่ คนๆนั้น แค่ เป็นคนชอบ ประจ.... สอ.. ทำมันเพื่อเอาหน้า ใส่หน้ากาก เอาไว้ กินเหล้า สูบบุหรี่ ด่าแบหยาย... เทศบาล คิดว่า เป็นคนดี ที่น่า เชิดชู ก็ คงแล้ว แต่พิจารณา กัน ตามสติปัญญา เพราะ สิ่งที่เห็นแค่ ภายนอก ไม่ใช่ สิ่งที่เป็นจริงเสมอไป
สุดท้าย เรื่อง ของ ดิฉัน ก็คงอาจให้ เขาทั้ง 2 คนไป ฟ้องร้องต่อศาล เพราะ ดิฉัน ก็คงเอาน้องหมาไปไว้หลังบ้านทั้งหมด ไม่ได้ เพราะ มีที่ไม่ถูกกัด เคยกัด กัน จนเห็นไส้ทีเดียว ดิฉัน ก็คงใช้ แค่ กล้องวงจรปิด เป็น พยานหลักฐาน ในชั้นศาล และ ดิฉัน ก็อาจให้พวกเขาอยู่ที่เดิม เพื่อต่อสู้ กับความจริง ดิฉันเชื่อว่า ความจริง เป็นสิ่งที่ไม่ตาย และ ดิฉัน ก็แจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน สำหรับ ตัวเอง และ น้องหมาไว้เรียบร้อยแล้ว
ดิฉัน มีคลิบเสียง ที่ประธานหมู่บ้าน เมาแล้วส่งเสียงดัง เอาไว้ หลายคลิบ ถึงเวลานั้น ก็คงเป็นหลักฐานในชั้นศาลได้ดี และ กล้องวงจรปิด ก็จะอัดเสียง ตอนที่ดิฉัน ไม่อยู่ จะได้รู้ ว่า คำพูด ของ ประธานหมู่บ้าน ในวันนี้ กับตอนขึ้นศาล จะตอบยังไง ถ้า เด็กๆ เหล่านี้ ไม่ได้ส่งเสียงดังตามที่แจ้ง เพราะ หลายๆ คนในหมู่บ้าน ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่า ดิฉันมีน้องหมากี่ตัว เพราะ หลายคน ขี่มอเตอร์ไซด์ เข้าออก ก็ไม่เคยได้ยินเสียงดังเลย และ ดิฉัน ก็ได้อ่าน ว่า เราก็ สามารถ ร้องเรียน เจ้าหน้าที่ ของรัฐ กับสำนักงานตรวจการแผ่นดินได้ ถ้า เราถูกข้าราชการ เลือกปฎิบัติ และ ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดิฉัน ก็จะสู้ ต่อไป เพื่อเด็กๆ ถึงแม้จะขึ้นศาล และ เสียค่าปรับ ก็ตาม ที
ความดี ความชั่ว ใครำอะไร ย่อมรู้แก่ใจตัวเอง อยู่เสมอ และ เวรกรรม ก็คงไม่ต้องตามไปถึงชาติหน้า แน่นอน
https://www.youtube.com/watch?v=Q7FoqhfF684
สัตว์และคนเกิด เพราะ กรรม ทำไว้หรอกหนา สัตว์เขาเกิดมาใช้กรรม เห็นเขาต่ำแล้วย่ำยี เขาหมดกรรมในชาตินี้ เกิดใหม่อาจดีกว่าเราได้หนา เป็นเนื้อร้อง ในบทเพลง
และขณะนี้ เวลานี้ ที่ดิฉันกำลังลงข้อความนี้อยู๋ คุณประธานหมู่บ้าน ก็มานั่ง อุดหนุน คุณ อสม. ที่เปิดร้านขายของชำ ก็กำลังตั้งวง เหมือนทุกๆวัน เช่นเคย เทศบาล เคยมารับรู้ เรื่องจริงมั๊ย เรื่องทั้งหมด ทั้งสิ้น ไม่ต้องเชื่อใครทั้งสิ้น ผู้คน ที่อาศัยในหมู่บ้านนี่แหละ ที่สามารถ ตอบข้อเท็จจริงได้ดี ว่า คนหรือ น้องหมากันแน่ ที่ก่อเหตุอันน่ารำคาญ และ ผู้ร้องเรียนที่เป็นเพื่อนบ้าน ที่บอกว่า น้องหมาเห่า แล้ว นอนไม่หลับ แล้ว เวลาที่คุณ ประธานหมู่บ้าน กินเหล้า เสียงดัง คุณ เพื่อนบ้านคงได้ยืนเป็นเสียงไพเราะเสนาะหู หรือ อย่างไร
เรา อาจได้เจอ กันในศาล ถ้า ดิฉัน ยังถูกร้องเรียน อยู่ ที่ดิฉัน ต้องร้องเรียน เทศบาล เพราะ ดิฉัน จะได้นำคลิบ ที่คุณประธานหมู่บ้าน ไปเปิดเผย ข้อเท็จจริง ไปพร้อมๆ กัน น่ะ
คนรำคาญน้องหมาเห่ากลางวัน แจ้ง เทศบาลซะงั้น แต่ทำไม คนกินเหล้ากลางคืน เสียงดังกว่าหมาซะอีก กลับไม่เคยรำคาญ
วันนี้ ดิฉัน มีเรื่องของหมาๆ ให้อ่านกันน่ะค่ะ ดิฉัน ก็แค่คนๆหนึ่ง ที่คอยช่วยน้องหมาพันธุ์ ที่ถูกทิ้งอยู่ข้างถนน และ นำกลับมารักษา จนหายเป็นปกติ ถ้าเพื่อนๆ เป็นสมาชิกที่นี่ ก็คงรู้จักชื่อ ดิฉัน ตั้งแต่ ใช้ ล๊อกอน เดิม ที่ชื่อ ปมณฑ์ น่ะค่ะ
วันนี้ ขอนำเรื่องราว ที่ได้พบเจอมาแบ่งปันกัน เพื่อ อีกหลายๆคน จะได้เรียนรู้ ว่า ถ้าเจอปัญหา แบบนี้ แล้วจะทำอย่างไร เมื่อเดือน เมษายน ปีที่แล้ว ดิฉัน ได้ย้ายบ้านไปที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 100 ตรว. ย้ายจาก ทาวน์เฮ้าส์ ไปบ้านเดี่ยว ก็เพื่อ อยากให้ น้องหมามีที่วิ่งเล่นบ้าง แต่ระหว่างที่ย้ายไป อะไรก็ไม่พร้อมมากนัก ต้องทำมุ้งลวด หรือ อื่นๆอีกมากมาย เพราะยุงเยอะมาก ช่วงย้ายไปใหม่ๆ ก็ให้น้องหมาอยู่หน้าบ้าน เขาก็คงตื่นเต้น ไม่เคยอยู่บ้านกว้างๆ เห็นใครก็เห่าไปหมด และ เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เพื่อนบ้านไปร้องเรียน เทศบาล ว่า หมาที่บ้านดิฉัน เห่าเสียงดัง เป็นที่น่ารำคาญ ทำให้ นอนหลับพักผ่อน ในเวลากลางวันไม่ได้ เพราะ ต้องเข้ากะ ทำงาน ที่ ทราบ เพราะ ประธานหมู่บ้านเดินเข้ามาที่บ้านดิฉัน และ พูดเรื่องนี้ให้ฟัง และ ประธานหมู่บ้าน ก็ทำงานร่วมกับเทศบาลบ่อยๆ ก็คงเป็น อสม. ประมาณนั้น เวลามีปัญหาอะไร เธอ ก็จะไปรายงาน ทุกเรื่อง แต่ สิ่งที่ดิฉันเห็น ก่อนย้ายบ้าน ก็คือ ประธานมานั่ง ที่บ้าน อสม. เพื่อปรึกษาหารือ ข้อราชการ และ กินเหล้า เอะอะเสียงดัง ในเวลากลางคืน เป็นประจำ บางคืน เธอก็มีเสียงกรี๊ด ดัง แบบสนุกสนาน ข้อนี้ ไม่มี มุสา เพราะ อัดเสียงดังของคุณเธอ เอาไว้เป็นหลักฐาน เห็นบางวัน ก็มีเครื่องเสียงคาราโอเกะ ร้องเพลง ฉลองวันเกิด ประหนึ่งว่า หมู่บ้านนี้ เป็นของฉัน และ เคยได้ยิน คำพูดเธอพูดว่า " รู้จัก ก.. น้อยไป " อันนี้ได้ยินกับหูตัวเองเลยทีเดียวค่ะ
ดิฉัน เคยแจ้งทางเทศบาลไปว่า จะสร้างบ้านหมา ด้านหลังให้น้องหมา ซึ่ง ยาว 8 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร แต่พอเจอเรื่องแบบนี้ เจอคนแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า แค่หมาเห่า เล็กๆน้อย ก็ยังมีปัญหา เพื่อนบ้าน หรือ ประธานหมู่บ้านแบบนี้ ยิ่งไม่ไหวเลย ประธานหมู่บ้าน ที่ไม่มี ความศรัทธาให้เห็นเลย เทศบาล ก็ฟังความข้างเดียวหรือปล่าวก็ไม่รู้ แต่สำหรับ ดิฉันแล้ว ก็ยังคิดว่า หมา ดิฉัน ก็เห่า ปกติ เวลาที่ดิฉัน กลับบ้าน เขาก็ดีใจ สักพัก ก็หยุด เท่านั้นเอง
เทศบาล มาที่บ้านถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ดิฉัน ถามว่า แล้ว ถ้าทำบ้านเสร็จ แล้ว น้องหมา ก็ยังเห่าอยู่ละ จะทำยังไง คำตอบที่คุณหมอ เทศบาล ตอบมาก็คือ ""นั่นมันเรื่องของคุณ "" ฟังแล้ว ประมาณ ว่า หมาห้ามเห่า แม้แต่แอะเดียว
หลังจาก ครั้งนั้น ดิฉัน ก็ซื้อ เหล็ก มากั้น 2 ข้าง ทั้ง ด้านซ้าย และ ขวา ของบ้าน เพื่อ แยก น้องหมา เป็น 2 ส่วน เพราะ เจอกัน ก็จะกัดกัน แต่ช่วงที่ดิฉัน กั้นเหล็ก คำถาม ว่า แว๊บ ขึ้นในหัวว่า ประธานหมู่บ้าน บอกให้เรา ไม่ให้หมาเห่า แล้ว ตัวประธาน เอง เคยคิดแก้ไข ตัวเอง ที่ ไม่กินเหล้า ส่งเสียงดังบ้างมั๊ย หรือ ถ้า ฉัน เอาเรื่อง เอาราว กับ น้องหมาได้ แล้ว ดิฉัน จะมีความสุขมาก หัวเราะร่าเริง ยิ่งกว่าเดิม ซะอีก
และ ที่สุด เทศบาล ก็มาที่บ้าน เป็นครั้งที่ 3 ฌขาก็ถามวาทำไมยังไม่ทำบ้านหมา ดิฉัน ก็ตอบว่า เงินยังไม่พอ เทศบาล จะช่วย ค่าก่อสร้างหรือปล่าวล่ะ จะได้ทำให้ และ ดิฉัน ก็บอกเขาว่า ไม่คุยแล้วล่ะ เอาคนร้องเรียนมาด้วยแล้วกัน อยากเห็นหน้าเหมือนกัน เพราะ อยากรู้ ว่า ประธาน จะออกมาด้วยมั๊ย
และ หลังจาก วันนั้น ดิฉัน ก็โทรหา หัวหน้ากอง เทศบาล ว่า เจ้าหน้าที่ ทำงาน 2 มาตรฐาน ขอร้องเรียน เทศบาลด้วย ฟังความข้างเดียว เรื่องนี้ ความเป็นจริง คือ คนทำเสียงดังน่ารำคาญ ยิ่งกว่า น้องหมาที่บ้านซะอีก เพราะ พอ 6 โมงเย็น ดิฉันก็เอาน้องหมาเข้าบ้านหมด ปิดไฟ และ พวกเขา ก็จะนอน กันจนเช้า จะมีเห่าบ้าง ตอนที่ ขี้เมา ตีกัน แล้ว เดิน ผ่านหน้าบ้าน
สุดท้าย ทาง เทศบาล ก็ส่งหนังสื้อ ไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท ในระหว่างนี้ อ่านกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไว้ด้วย และ โทรถาม ทนายความด้วย คนที่แนะนำ ก็บอกว่า เรื่องเหตุอันรำคาญ ร้องเรียนได้หมด แค่คนไม่ถูกกัน ใบไม้ร่วงใบเดียว ก็ร้องเรียนได้ หมาเห่า แอะเดียว ก็ร้องเรียนได้ ดิฉัน เลยถามว่า แต่ประธานหมู่บ้าน กินเหล้าเสียงดัง มาตลอด ดิฉันก็ไม่เคยร้องเรียน ถือว่าต่างคนต่างอยู่ไป เขาเลยบอกว่า มันเหมือนว่า ขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละคนด้วย และ เสียงดังจากหมาเห่า ก็ไม่ได้วัดกันด้วยเดซิเบล ดิฉัน เลยถามว่า ดิฉัน ต้องต่อสู้ เพื่อ เด็กๆ ของ ดิฉัน เพราะ เขาไม่ได้เห่าอะไรมากมายเลย กลางคืน ก็เงียบสนิท ซึ่ง ดิฉัน ถือว่า ดิฉันไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกแกล้ง เพราะ มีคนบอกให้ฟังว่า เขาไปบอกคนอื่นว่า หมั่นไส้ ดิฉัน ที่ ดิฉัน หยิ่ง ไม่คุยกับใคร แล้ว ผิด หรือ ที่ ดิฉันไม่ชอบคุย กับคนกินเหล้า สูบบุหรี่ และ สตอเบอรี่ ซึ่ง ตอนที่ ดิฉัน อยู่ ทาวน์เฮ้าส์ เพื่อนบ้าน ก็พูดแบบนี้ เหมือนกัน และ ก็เป็นแบบเดียวกับ ที่ใหม่ เหมือนกัน
และ วันนี้ ก็เป็นวันที่ไปเจรจา มีเจ้าหน้าที่หลายท่านมาร่วมรับฟัง เพื่อนบ้านที่ร้องเรียนดิฉัน ก็ไป พร้อมประธานหมู่บ้าน และ ทั้ง 2 คน ก็พูดว่า หมาดิฉัน ทั้งเห่า ทั้งหอน ไม่หยุด จะเห่ามาก ก็ตอนที่ ดิฉัน ไม่อยู่บ้าน แต่ตอนที่ดิฉัน อยู่ ก็ไม่ค่อยเห่า และประธาน ก็พูดว่า ปกติ ก็พูดกัน ( จริงๆ แล้ว ดิฉันไม่ชอบพูดกับเขา ตั้งแต่ ยังไม่ย้ายไป เพราะ ไม่ชอบคนลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว ) เขาพูดว่า พอเขามาพูดกับ ดิฉัน เรื่องหมา ดิฉัน ก็โกรธเขาไปเลย ดิฉัน นั่งฟังแล้ว ก็นึกตลอดว่า ท่าทาง ว่า ทำร้ายหมาๆ ได้ คงมีความสุข กัน ทั้ง 2-3 คน ที่อยู่ระแวกนั้น ดิฉัน ก็นึกในใจ ว่า เอาเถอะ เวรกรรม ที่พวกคุณ โกหก เกินความเป็นจริง กับน้องหมาเหล่านี้ มันคงไม่ต้องภพชาติหน้าหรอกน่ะ และ ดิฉัน ก็ชี้แจงว่า หลังจากที่เกิดปัญหา ก็ไม่อยากสร้างบ้านให้น้องหมาแล้ว เพราะ อยากจะย้ายไปที่อื่นอีก เลยต้องวางโครงการนี้ไปก่อนแล้วกัน ก็คงเป็นสิ้นปี โน่นแหละ แต่ ดิฉัน ก็กั้นพื้นที่ ด้านข้าง 2 ข้าง ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ เพราะ ฉะนั้น ด้านหน้า ก็มีแค่ 4 ตัว เท่านั้น นอกนั้น ก็อยู่ในตัวบ้าน และ หลังบ้าน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ก็ให้ดิฉัน ออกมา และ ขอคุย กับ ผู้ร้องเรียน ก่อน หลังจาก ที่ ดิฉัน เข้าไป ทางเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่า ผู้ร้องเรียน ต้องการให้ ดิฉัน ทำบ้านหมาภายใน 2 เดือน ดิฉัน บอกว่า คงไม่ได้ค่ะ เพราะ คงไม่อยากจ่ายเงินค่าทำ ถ้า ดิฉัน มีความคิด ที่จะย้ายออกไป ในไม่ช้า คงทำได้ แต่ ย้ายเด็กๆ ไปหลังบ้าน เท่านั้น และ จะซื้อ กล้องวงจรปิด มาติด เพื่อจะดูว่า น้องหมา ดิฉัน เห่าเสียงดังมากมาย ก่ายกอง ตามที่ เพื่อนบ้าน หรือ ประธานหมู่บ้านพูดจริงหรือไม่ เพราะ ต่อไป อาจต้องใช้ ในเวลาขึ้นศาล อ้อ และ ตอนที่ ผู้มาไกล่เกลี่ย ลงบันทึกว่า ดิฉัน จะจับหมาไปขัง ดิฉันเลยบอกว่าไม่ได้ขัง แค่ย้ายไปด้านหลัง คุณประธานบอกว่า ถ้าขังก็น่าสงสารเหมือนกัน สุดยอดทีเดียวเชียว เพราะเท่าที่รู้ คุณเธอก็เอาน้องหมาไปปล่อย ก่อนที่ พรบ. ออกเหมือนกัน
ดิฉัน ต้องทำ เพื่อ ปกป้อง เด็กๆ ที่ดิฉัน เก็บมา ทั้ง 19 ชีวิต และ ท่านเจ้าหน้าที่ ก็แจ้ง ประธาน หมู่บ้านว่า ดิฉัน ก็ได้ร้องเรียน ว่า ประธานหมู่บ้าน กินเหล้าส่งเสียงดัง ในเวลา บ่อยครั้งมาก รู้มั๊ยว่า กฎหมาย ที่กินเหล้า ริมฟุตบาท ตอนนี้ ก็ถูกจับปรับแล้ว เขาให้กินเหล้า ในเคหสถานได้อย่างเดียว และ กลับมาถึงบ้าน ดิฉัน ก็ได้โทรไป ร้องเรียน ที่เทศบาลอีกครั้งหนึ่ง ที่ ประธานหมู่บ้าน ดื่มเหล้า ส่งเสียงดังเอะอะ เหมือนกัน
พอมาถึงตอนนี้ เราคงไม่ต้อง คิดว่า ไม่อยาก มีเรื่องมีราว แต่ถ้า เทศบาล เชื่อในคำพูด ของ ประธานหมู่บ้าน แล้ว ดิฉัน ก็ต้องขอชน แล้วค่ะ และ ประธานหมู่บ้าน เอง ก็ควรมีจิตสำนึก ที่ดี กว่านี้ เพราะคุณไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันเอง ก็มีสิทธิ ในหมู่บ้านไม่ต่างจากคุณ ประธานหมู่บ้าน เป็นผู้หญิง มีสามี เป็นชาวต่างชาติ กินเหล้า สูบบุหรี่ และ สะตอ ทีเดียว น่าจะให้โล่
ส่วน ดิฉัน แค่ คนธรรมดา เคยทำงาน เป็นนายกสโมสรโรตารี สร้าางพระประธาน 59 นิ้งที่ราชบุรี บริจาคเลือด มาแล้ว 36 ครั้ง คงได้รับพระราชทานจาก พระเทพ ในไม่ช้า ลง เวบบอร์ด ว่า สอนตัดเย็บเสื้อผ้า ฟรี เป็นวิทยาทาน ให้กับคนยากจน และ เก็บน้องหมา ที่ถูกทิ้ง ทุกสายพันธุ์ ช่วยเหลือ ฟูมฟัก ดูแล และ ให้ความรัก กับพวกเขาด้วยหัวใจ คนอย่างดิฉัน เทศบาล ก็คงคิดว่า ไม่มีค่าอะไร
แต่ คนๆนั้น แค่ เป็นคนชอบ ประจ.... สอ.. ทำมันเพื่อเอาหน้า ใส่หน้ากาก เอาไว้ กินเหล้า สูบบุหรี่ ด่าแบหยาย... เทศบาล คิดว่า เป็นคนดี ที่น่า เชิดชู ก็ คงแล้ว แต่พิจารณา กัน ตามสติปัญญา เพราะ สิ่งที่เห็นแค่ ภายนอก ไม่ใช่ สิ่งที่เป็นจริงเสมอไป
สุดท้าย เรื่อง ของ ดิฉัน ก็คงอาจให้ เขาทั้ง 2 คนไป ฟ้องร้องต่อศาล เพราะ ดิฉัน ก็คงเอาน้องหมาไปไว้หลังบ้านทั้งหมด ไม่ได้ เพราะ มีที่ไม่ถูกกัด เคยกัด กัน จนเห็นไส้ทีเดียว ดิฉัน ก็คงใช้ แค่ กล้องวงจรปิด เป็น พยานหลักฐาน ในชั้นศาล และ ดิฉัน ก็อาจให้พวกเขาอยู่ที่เดิม เพื่อต่อสู้ กับความจริง ดิฉันเชื่อว่า ความจริง เป็นสิ่งที่ไม่ตาย และ ดิฉัน ก็แจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน สำหรับ ตัวเอง และ น้องหมาไว้เรียบร้อยแล้ว
ดิฉัน มีคลิบเสียง ที่ประธานหมู่บ้าน เมาแล้วส่งเสียงดัง เอาไว้ หลายคลิบ ถึงเวลานั้น ก็คงเป็นหลักฐานในชั้นศาลได้ดี และ กล้องวงจรปิด ก็จะอัดเสียง ตอนที่ดิฉัน ไม่อยู่ จะได้รู้ ว่า คำพูด ของ ประธานหมู่บ้าน ในวันนี้ กับตอนขึ้นศาล จะตอบยังไง ถ้า เด็กๆ เหล่านี้ ไม่ได้ส่งเสียงดังตามที่แจ้ง เพราะ หลายๆ คนในหมู่บ้าน ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่า ดิฉันมีน้องหมากี่ตัว เพราะ หลายคน ขี่มอเตอร์ไซด์ เข้าออก ก็ไม่เคยได้ยินเสียงดังเลย และ ดิฉัน ก็ได้อ่าน ว่า เราก็ สามารถ ร้องเรียน เจ้าหน้าที่ ของรัฐ กับสำนักงานตรวจการแผ่นดินได้ ถ้า เราถูกข้าราชการ เลือกปฎิบัติ และ ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดิฉัน ก็จะสู้ ต่อไป เพื่อเด็กๆ ถึงแม้จะขึ้นศาล และ เสียค่าปรับ ก็ตาม ที
ความดี ความชั่ว ใครำอะไร ย่อมรู้แก่ใจตัวเอง อยู่เสมอ และ เวรกรรม ก็คงไม่ต้องตามไปถึงชาติหน้า แน่นอน
https://www.youtube.com/watch?v=Q7FoqhfF684
สัตว์และคนเกิด เพราะ กรรม ทำไว้หรอกหนา สัตว์เขาเกิดมาใช้กรรม เห็นเขาต่ำแล้วย่ำยี เขาหมดกรรมในชาตินี้ เกิดใหม่อาจดีกว่าเราได้หนา เป็นเนื้อร้อง ในบทเพลง
และขณะนี้ เวลานี้ ที่ดิฉันกำลังลงข้อความนี้อยู๋ คุณประธานหมู่บ้าน ก็มานั่ง อุดหนุน คุณ อสม. ที่เปิดร้านขายของชำ ก็กำลังตั้งวง เหมือนทุกๆวัน เช่นเคย เทศบาล เคยมารับรู้ เรื่องจริงมั๊ย เรื่องทั้งหมด ทั้งสิ้น ไม่ต้องเชื่อใครทั้งสิ้น ผู้คน ที่อาศัยในหมู่บ้านนี่แหละ ที่สามารถ ตอบข้อเท็จจริงได้ดี ว่า คนหรือ น้องหมากันแน่ ที่ก่อเหตุอันน่ารำคาญ และ ผู้ร้องเรียนที่เป็นเพื่อนบ้าน ที่บอกว่า น้องหมาเห่า แล้ว นอนไม่หลับ แล้ว เวลาที่คุณ ประธานหมู่บ้าน กินเหล้า เสียงดัง คุณ เพื่อนบ้านคงได้ยืนเป็นเสียงไพเราะเสนาะหู หรือ อย่างไร
เรา อาจได้เจอ กันในศาล ถ้า ดิฉัน ยังถูกร้องเรียน อยู่ ที่ดิฉัน ต้องร้องเรียน เทศบาล เพราะ ดิฉัน จะได้นำคลิบ ที่คุณประธานหมู่บ้าน ไปเปิดเผย ข้อเท็จจริง ไปพร้อมๆ กัน น่ะ