สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าปากท้องสำคัญ เราก็ควรเลือกปากท้อง ก่อน คือ เอางานที่เราสามารถทำได้ก่อน ตรงกับที่เรียนมา
แต่ถ้าปากท้องไม่ได้สำคัญ ไม่ทำงานทันทีได้ไหม เรียกว่าเรียนจบแล้ว แต่ขอเวลาไปเริ่มต้นเรียนสิ่งใหม่ที่อาจจะตรงใจกว่าได้หรือเปล่า
ถ้าฐานะทางบ้านยังยอมรับให้เราไปเรียนต่อด้านอื่นได้ ก็ควรจะไปลองไปศึกษาด้านอื่นเพิ่มเติม เพื่อจะเจองานที่ใช่มากกว่า
แต่ถ้าฐานะทางบ้าน ไม่สามารถส่งเราเรียนต่อได้แล้ว ทำงานเถอะ ถึงจะไม่ชอบ แต่เพื่อเงินก็ทำไป
แล้วเก็บสิ่งที่เราชอบ มาเป็นงานอดิเรก มาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจ ยามว่าง หลังเลิกงาน
บางทีงานอดิเรก ก็อาจจะกลายเป็นอาชีพในอนาคตได้สักวันหนึ่ง ที่เราแข็งแรงหรือมีพื้นฐานมากพอ ซึ่งจะยังไม่ใช่วันนี้
มีญาติคนหนึ่งของเรา ที่เรียนทำอาหารตามกระแสนิยม อยากเป็นเซฟ ก็เข้าเรียนวิทยาลัย 4ปี แล้วพอดีช่วงเรียนจบ วิทยาลัยพาไปดูงาน
ที่ประเทศญี่ปุ่น ไปดูงานด้านอาหารเนี่ยแหละ เวลา 1 เดือน ปรากฎว่า กลับมาพลิกชีวิตเลย เพราะไปแล้วชอบญี่ปุ่นมาก ตอนแรกไปแบบ
ไม่รู้อะไรเลย ภาษาก็ไม่ได้ กลับมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไทย 1 ปี แล้วกลับไปเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 1 ปี กลายมาเป็น ติวเตอร์ภาษาญี่ปุ่น
รับแปลงานภาษาญี่ปุ่น คือไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับอาหารเลย แต่ไปทำด้านภาษาญี่ปุ่นแทน เรียกว่าเพียงแค่ 1 เดือนเปลี่ยนชีวิตคนๆหนึ่งไปเลย
แล้วที่เคยได้ยินมา มีคนจบอาชีพหนึ่ง แต่ว่ามีความชอบในงานอดิเรก ก็คือชอบต้นไม้ รู้จักต้นไม้ทุกชนิด ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ยามว่าง
ไปๆมาๆตอนหลังเลิกทำงานประจำไปเปิดร้านขายต้นไม้ แล้วก็รับจัดสวน กลายเป็นช่างออกแบบตกแต่งสวนไป
อะไรมันก็เปลี่ยนแปลงได้ อาจจะไม่ได้เปลี่ยนวันนี้พรุ่งนี้ แต่อนาคตถ้าเราเจอทางของตนเอง มันก็อาจจะเปลี่ยนวันหน้าก็ได้
วันนี้ยังไม่รู้ไปทางไหน ก็ไปตามทางที่เราเรียนมาก่อน แต่ถ้าวันข้างหน้า เราเจอหนทางของตนเอง ค่อยเปลี่ยนทีหลังก็ได้
ไม่มีคำว่าสายหรอก มีแต่เพียงว่า เมื่อไหร่เราจะเจอหนทางของตนเอง เท่านั้นเอง
แต่ถ้าปากท้องไม่ได้สำคัญ ไม่ทำงานทันทีได้ไหม เรียกว่าเรียนจบแล้ว แต่ขอเวลาไปเริ่มต้นเรียนสิ่งใหม่ที่อาจจะตรงใจกว่าได้หรือเปล่า
ถ้าฐานะทางบ้านยังยอมรับให้เราไปเรียนต่อด้านอื่นได้ ก็ควรจะไปลองไปศึกษาด้านอื่นเพิ่มเติม เพื่อจะเจองานที่ใช่มากกว่า
แต่ถ้าฐานะทางบ้าน ไม่สามารถส่งเราเรียนต่อได้แล้ว ทำงานเถอะ ถึงจะไม่ชอบ แต่เพื่อเงินก็ทำไป
แล้วเก็บสิ่งที่เราชอบ มาเป็นงานอดิเรก มาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจ ยามว่าง หลังเลิกงาน
บางทีงานอดิเรก ก็อาจจะกลายเป็นอาชีพในอนาคตได้สักวันหนึ่ง ที่เราแข็งแรงหรือมีพื้นฐานมากพอ ซึ่งจะยังไม่ใช่วันนี้
มีญาติคนหนึ่งของเรา ที่เรียนทำอาหารตามกระแสนิยม อยากเป็นเซฟ ก็เข้าเรียนวิทยาลัย 4ปี แล้วพอดีช่วงเรียนจบ วิทยาลัยพาไปดูงาน
ที่ประเทศญี่ปุ่น ไปดูงานด้านอาหารเนี่ยแหละ เวลา 1 เดือน ปรากฎว่า กลับมาพลิกชีวิตเลย เพราะไปแล้วชอบญี่ปุ่นมาก ตอนแรกไปแบบ
ไม่รู้อะไรเลย ภาษาก็ไม่ได้ กลับมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไทย 1 ปี แล้วกลับไปเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 1 ปี กลายมาเป็น ติวเตอร์ภาษาญี่ปุ่น
รับแปลงานภาษาญี่ปุ่น คือไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับอาหารเลย แต่ไปทำด้านภาษาญี่ปุ่นแทน เรียกว่าเพียงแค่ 1 เดือนเปลี่ยนชีวิตคนๆหนึ่งไปเลย
แล้วที่เคยได้ยินมา มีคนจบอาชีพหนึ่ง แต่ว่ามีความชอบในงานอดิเรก ก็คือชอบต้นไม้ รู้จักต้นไม้ทุกชนิด ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ยามว่าง
ไปๆมาๆตอนหลังเลิกทำงานประจำไปเปิดร้านขายต้นไม้ แล้วก็รับจัดสวน กลายเป็นช่างออกแบบตกแต่งสวนไป
อะไรมันก็เปลี่ยนแปลงได้ อาจจะไม่ได้เปลี่ยนวันนี้พรุ่งนี้ แต่อนาคตถ้าเราเจอทางของตนเอง มันก็อาจจะเปลี่ยนวันหน้าก็ได้
วันนี้ยังไม่รู้ไปทางไหน ก็ไปตามทางที่เราเรียนมาก่อน แต่ถ้าวันข้างหน้า เราเจอหนทางของตนเอง ค่อยเปลี่ยนทีหลังก็ได้
ไม่มีคำว่าสายหรอก มีแต่เพียงว่า เมื่อไหร่เราจะเจอหนทางของตนเอง เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
เคยรู้สึกไม่ถนัดหรือไม่ชอบในสิ่งที่เรียน/งานที่กำลังทำอยู่บ้างไหม แก้ปัญหานี้ยังไงคะ
เราจบป.ตรี วิศวกรรมเคมี และเรียนต่อป.โททันที วิศวกรรมเคมีเช่นเดียวกันค่ะ
เราเป็นคนเรียนกลางๆ ได้เกรดประมาณ 3.1 ทั้งป.ตรีและป.โท
ตอนที่เรียนป.ตรี รู้สึกว่ามันยาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าชอบหรือไม่ชอบ
เลยอยากตอกย้ำความรู้สึกตัวเองด้วยการเรียนต่อโทที่คณะเดิมสาขาเดิม อยากรู้ว่าวิศวะเคมีป.โทเค้าจะเรียนอะไรต่อไปอีก
ตลอดเวลาที่เรียนป.โทรู้สึกว่ามันยากมาก และมันไม่ใช่เรา เราไม่ชอบมันเลย เรียนไปก็ท้อไป กัดฟันจนจบมาได้แบบถูๆไถๆ
และตอนนี้เพิ่งเรียนจบ กำลังหางานทำ ถ้าถามตรงๆว่าจะทำงานเป็นวิศวกรเคมีได้มั้ย ก็คิดว่าคงได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบตรงนี้
คงทำไปตามหน้าที่ แต่ก็คิดไม่ออกว่าถ้าเราไม่ทำตรงนี้ แล้วเราจะไปทำอะไร ในเมื่อเราเรียนสายนี้มาทั้งตรีทั้งโท
และที่บ้านก็ค่อนข้างตั้งความหวังไว้พอสมควร
หรือเราควรลองทำงานสายนี้ดูก่อน มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
อยากขอคำปรึกษา หรือแบ่งปันเรื่องราวว่าแต่ละคนที่เคยเจอปัญหานี้ ผ่านมันไปได้ยังไงคะ