รีวิว รด เขาชนผี ไม่มีคะแนนจะให้ นอกจากสงสัยว่าคุณกอล์ฟ ธัญวารินทร์เค้าเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือจริงๆเหรอ



รด.เขาชนผี ที่เขาชนไก่
หนังไทยกะโหลกกะลาที่สมควรให้มันผ่านไปเฉยๆ (ไม่มีคะแนนจะให้นอกจากความว่างเปล่า)

--------------------

เราสงสารคนต่างจังหวัดทุกครั้งที่เวลาที่เรารีวิวหนังไทยดีดีที่ฉายในวงแคบ แล้วมีเพื่อนสมาชิกต่างจังหวัดบ่นว่า ทำไมฉายแต่ใน กทม ยกตัวอย่างเช่น The Master , ปู่สมบูรณ์ คนต่างจังหวัดเค้าก็อยากดูทำไมไม่ได้ดู ส่วนหนังที่คนต่างจังหวัดได้ดูกลับมีแต่หนังตลก หนังผี หนังไทยวัยรุ่น

มีคนบอกว่าสูตรสำเร็จหนังไทยคือ หนังตลก หนังผี หนังวัยรุ่น หนังกะเทย คือ รด เขาชนผีนี่ครบสูตรเลยมีครบทุกอย่างในหนัง เข้าใจว่าคนสร้างหนังกะจะกวาดรายได้จากแฟนหนังไทยแน่นอน แต่เอาเข้าจริงๆ คนทำหนังไทยกำลังหลงทางหรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดคุณซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ตั้งใจทำหนังด้วยความปราณีตในทุกส่วนมันน่าจะออกมาดี ไม่ใช่สักแต่ทำออกมาสั่วๆกะให้มีขายเด็กผู้ชาย มีผีหลอก มีวิ่งหนีผี มีตลก แล้วคิดว่ามันจะเป็นสูตรสำเร็จที่จะทำให้หนังได้ตังเหรอ

คือน่าเสียดายผู้กำกับคุณกอล์ฟ ธัญวารินทร์ ย้อนไป 4-5 ปีก่อน เราว่าวงการหนังไทยน่าจะได้ต้อนรับผู้กำกับฝีมือดีมาประดับวงการได้ เพราะมีคนบอกว่าหนังเรื่อง insect in the backyard ที่ถูกสั่งห้ามฉายในอาณาจักรไทยเป็นหนังที่ดีมาก และจนทุกวันนี้หนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังลึกลับที่แทบจะไม่ค่อยมีใครเคยดู แม้แต่ตัวเราผมเองก็ยังไม่เคยดู แต่ที่แน่ๆ คุณกอล์ฟ ธัญวารินทร์ ได้เครดิตว่าคือสุดยอดผู้กำกับไปแล้ว ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้นผลงานของคุณกอล์ฟที่ผ่านเข้ามาลงจอหนังบ้านเราในช่วงเวลาไม่กี่ปีจะว่าไปก็หลายเรื่องนะ ไม่ว่าจะเป็น ไม่ได้ขอให้มารัก , เธอเขาเราผี , ฟินสุโค่ย มาจนถึง รด เขาชนผีที่เขาชนไก่ มันไม่สามารถการันตีได้สักเรื่องเลยว่าคุณกอล์ฟเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือ แต่ในทางตรงกันข้าม ผลงานที่ออกมามันมีสภาพไม่ได้ต่างอะไรกับหนังของพจน์อานนท์เวอร์ชั่นเซฟคอร์สเลย คือโปรดักชั่นหนังคุณกอล์ฟดูเป็นหนังราคาถูกทุกเรื่อง ภาพของหนังออกมาดูไม่ค่อยลงทุนและดูไม่ค่อยแพงเลย และที่สำคัญส่วนที่สำคัญที่สุดของหนังคือ บทหนัง ซึ่งคุณกอล์ฟน่าจะเขียนเองทุกเรื่องก็อยู่ในเกณฑ์ห่วยอย่างไม่น่าให้อภัยเลย

เริ่มที่ชื่อหนังก่อนเลย ก็ไม่รู้ว่าทำไมเปลี่ยนชื่อจาก รดเขาชนผี มาเป็น รด เขาชนผีที่เขาชนไก่ คือเพราะกลัวคนไม่รู้ว่าหนังถ่ายที่เขาชนไก่เหรอ หรือเพราะคิดว่า เขาชนไก่มันขายได้มันมีแฟนคลับจะเข้าไปดู คือแค่ชื่อเรื่องมันก็แป้กแล้ว จริงๆนะ

รด เขาชนผี เป็นหนังวัยรุ่นวิ่งหนีผี ที่สภาพหนังไม่ต่างอะไรกับบ้านผีปอบเลย มุขตลกในหนังไม่มีรสนิยม ราคาถูก สกปรกโสโครก ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวทั้งกะเทย ทั้งเสียบ มาแบบครบทุกมุข แต่มันไม่ตลก ชั้นเชิงในการสอดร้อยต่อมุขก็ไม่สมูธ อยู่ๆจะจับยัดก็จับยัดเข้ามา บทหนังไร้เหตุผลไม่มีที่มาที่ไป หลายตอนนึกจะยัดเข้ามาก็ยัด เด็กๆ รด จะประกวดคลิป คลิปเต้น อยู่ๆก็ยัดเข้ามา อยู่ๆก็ถ่ายคลิปเต้นกันตอนที่วิ่งหนีผี คือมันคัลท์ไปปะวะ ตัวละครแบนราบขาดมิติ โดยเฉพาะตัวละครสำคัญที่น่าจะทำให้หนังดูมีปมที่น่าขบคิดอย่างผีเต๋าสมชายในเรื่อง ที่ควรจะมีมิติและกลมกว่านี้ก็กลายเป็นผีไม่มีเหตุผล คือถ้าอยากจะทำหนังตลกก็ทำให้มันปัญญาอ่อนแบบหนังของพจน์อานนท์ไปเลย อย่าดัดจริตใส่คติอะไรลงมาแล้วไม่เข้าท่าแบบนี้ บทสรุปคือสิ่งที่ตัวละครบรรยายแบบจับยัด ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือบทหนังที่ผ่านการคิดด้วยสมองมาแล้ว

แคแรคเตอร์ตัวละครบางตัวโยกมาจากหนังพจน์อานนท์อย่างเห็นได้ชัด คือ กัส วรดิษฐ์ ที่ในเรื่องนี้มารับบทจ่าเทพครูฝึกแต่ก้ยังพูดอีสานแบบสมัยที่เป็น โคย ในหอแต๋วแตก แคเรคเตอร์ เด็กๆ รก ในเรื่องเหมือนเดฌกๆของพจน์ อานนท์ใน ม6/5 เรื่องนี้ถ้าดูเผินๆ ไม่รู้อะไรเลย จะนึกว่า นี่เป็นหนังพจน์อานนท์เรื่อง ม6/5 ตอน รด เขาชนผี แต่ถ้าเทียบกับพจน์ อานนท์ เอาจริงๆ หนังพจน์อานนท์ยังมีคลาสดูแพงดูลงทุนกว่าเลย แต่ระดับมันสมองสติปัญญาในการคิดมุขและทำหนังไม่ต่างกันเท่าไหร่

นักแสดงเด่น สมชาย เข็มกลัด หนังแทบไม่ได้ใช้ศักยภาพอะไรเลย เพราะดีไซน์แคแรคเตอรืออกมาแบนราบมาก และน้องหนักแน่นนี่แสดงหนังโอเคนะ แต่หน้าแน่นมาก จมูกแทบจะทิ่มจอแล้ว

ถ้าอยากเป็นพจน์ อานนท์ 2 ก็ยังไปไม่ถึง เพราะหนังพจน์ อานนท์ เค้ามีแบรนด์ที่แข็งแรง ลงจอปุ้บมีแฟนประจำรอดู แต่ รด เขาชนผี นี่ท่าทางจะแป้ก เพราะโรงที่ไปดู มีคนดู 5 คน ทั้งโรง นึกแล้วก็สงสารนะ สงสารคนไทย สงสารวงการหนังไทย โรงหนังก็มีเยอะนะ คนในวงการหนังไทยที่ฝีมือดีๆก็มีเยอะ แต่หนังที่ได้เลือกฉายลงดรงในวงกว้างกลับไร้รสนิยม และคนดูหนังไทยก็เลยมีแต่หนังไทยที่ไม่มีรสนิยมแบบนี้แหละดู

อยากให้โรงหนังในบ้านเราเลือกหนังลงโรงแบบมีรสนิยมบ้างจัง หนังไทยนอกกระแสดีๆบางเรื่องกว่าจะได้ฉายลงโรงเลือดตาแทบกระเด็น อย่างปู่สมบูรณ์ ได้ฉายวันละรอบและมีโรงเดียว ปีก่อน The master ได้ฉายที่เฮาส์โรงเดียว เอาจริงๆหนังพวกนี้เสียอีกที่ทางโรงฉายน่าจะจัดให้คนดูได้ดูบ้าง

สะท้อนใจ สะเทือนใจกับชะตากรรมหนังไทย ที่ทุกวันนี้คนไทยแทบไม่มีทางเลือกเลย มีแต่หนังตำบอนแบบนี้ให้เราดู

สำหรับ รด เขาชนผีที่เขาชนไก่ ไม่มีคะแนนจะให้ นอกจากความว่างเปล่า สิ้นหวัง และคาดหวังให้ผู้กำกับคืนฟอร์มกลับไปทำหนังนอกกระแส(ดีๆ) บ้าง อย่ามาทำหนังแมสแบบนี้เลย หนังแมสแต่แป้กเสียดายโรงฉายครับ

https://www.facebook.com/overhyp
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คหสต. ตั้งแต่ดูหนังไทยมา ผมว่า ผกก คนนี้ฝีมือห่วยแตกที่สุดแล้วครับ
เอาจริงๆถ้าคนมีวามรู้เรื่องหนังหน่อย น่าจะเรียกว่า ทำหนังไม่เป็น เลยด้วยซ้ำครับ

ในฐานะคนที่ดู insect in the backyard มาก็ห่วยครับ ที่โดนแบนเพราะหนังมันห่วยครับ
หนังไม่ต่างจากหนัง av เลย แบบอัดตูดกันอย่างไม่มีเหตุผล หาที่มาที่ไปไม่ได้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังดี
ทั้งทุเรส อุบาส ไม่สมควรเรียกว่าหนังด้วยซ้ำ สมควรแล้วที่ถูกแบน

เทียบกับ พจน์ อานนท์ ฝีมือดีกว่าเยอะ อย่างน้อยก็ดูรู้เรื่อง ถ่ายภาพ โปรดัคชั่นดีกว่า
พจน์ อานนท์ ผมชอบนะ อย่างน้อยก็มีความ คัลท์ ในตัวผลงาน ถึงหนังจะห่วยก็เถอะ
แต่ผู้กำกับคนนี้ เป็นคนเดียวเลยครับ ที่มีความคิดว่า เมื่อไหร่จะเลิกทำหนังสักที
ผมไม่ได้ด่าโดยที่ไมาดูผลงานนะ ดูแล้วหลายเรื่อง จนมีความคิดแบบนี้จริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แล้วเรื่องนี้หละครับ  เขาไม่ได้มีฝีมือเลยเหรอครับ
ได้ชิงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทุกสถาบัน

ความคิดเห็นที่ 14
ที่สมาชิกหลายคนสงสัยกันว่าทำไมหนังไทยถึงมีแต่แนวเดิมๆ ทั้งหนังตลก, หนังผี, โรแมนติค คอมเมดี้ ซ้ำๆ กันไปอยู่แค่นั้น
ต้องบอกเลยครับ ว่าการจะทำหนังซักเรื่องนึงมันต้องใช้งบครับ "งบ" นี่สำคัญครับ
ลองคิดตามครับว่าถ้าคุณจะให้วงการหนังไทยทำหนังแนวแบบต่างประเทศอออกมา
ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยเช่น The Avengers, The Fast & Furious อะไรทำนองนั้น อย่างแรกเลยครับ
วงการภาพยนต์ทุกๆ วันนี้ มีเทคโนโลยี เข้ามาเกี่ยวข้องมาก ( ส่วนตัวผมคิดว่าประมาณ 70 - 80% เลยด้วยซ้ำ )
ที่บอกว่าเทคโนโลยีนี่ไม่ใช่แค่ Green Screen & Blue Screen ( พวกฉากเขียว ) อย่างเดียวนะครับ
เขามีทั้ง Motion Capture หรืออะไรต่างๆ นาๆ ซึ่งสามารถทำให้ภาพยนต์นั้นมีความสมจริงมากขึ้นเยอะ
ถามว่าเทคโนโลยีแบบเดียวกันพวกนี้ วงการไทย มีแบบนั้นหรือไม่..ก็ต้องไม่อยู่แล้วครับ
เพราะค่าใช้เรื่องพวกนั้นสูง เฉพาะค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในการทำหนังพวกนี้แล้ว
บางทีมากกว่างบในการทำหนังไทยของเรา 2 - 3 เรื่องรวมกันด้วยซ้ำครับ
นี่ยังไม่ได้พูดถึงพวกหนังที่ใช้ระเบิดมากดเป็นของเล่นอย่าง Transformers ของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์
หรือ The Fast & Furious อีก หนังพวกนี้เขาใช้รถยนต์จริงๆ เป็น 100 คัน มาระเบิดจริงๆ นะครับ ไม่ว่าจะรถเล็ก รถใหญ่
( อาจจะมีบางส่วนที่ใช้ Computer Graphic ในการสร้างบ้าง )
ระเบิดก็ใช้ระเบิดจริงๆ และทางเขามีบุคลากรที่มีความรู้เรื่องพวกนี้ ( Special Effect ) อยู่เพรียบพร้อม
ย้อนกลับมาถึงประเด็นครับ
ที่บอกมานั่นแค่ส่วนนึงเท่านั้น ที่บอกถึงความแตกต่างระหว่างวงการภาพยนต์ไทยเรากับประเทศอื่นๆ
ทีนี้ครับ สมมุติเลยว่าถ้าวงการหนังไทย อยากตามใจแฟนๆ หนังจริงๆ ลงทุนกับหนังสักเรื่องแบบจริงๆ จังๆ
หาเทคโนโลยีดีๆ มาใช้ ทีนี้ถามว่า "พวกเราพร้อมจะเสียเงินไปดูในโรงกันจริงๆ หรือไม่?"
"พร้อมที่จะซื้อแผ่นแท้ลิขสิทธิ์ของหนังเรื่องนั้นๆ หรือเปล่า?"
วงการภาพยนต์ต่างประเทศยักษ์ใหญ่ ที่เขากล้าลุงทน เสียเงินเป็นหลายร้อยล้าน สำหรับหนังเรื่องนึง ก็เพราะผู้คนของเขาสนับสนุนของแท้ครับ
ไม่ว่าจะเป็นดูกันที่โรง หรือยังไงผมก็ไม่รู้หรอกครับ แต่พอมีแผ่นลิขสิทธิ์ออกมา เขาก็อุดหนุนกันครับ
แต่เทียบกับประเทศไทยเรา 'ภาพยนต์ใหม่ๆ จะไปหาที่ไหนดีนะ?' ...ดาวน์โหลดตามเว็บมีทั้ง Bittorrent, ตามบล็อกแจกหนังทั้งหลาย
หรือแผ่นผีตามตลาดนัด หรือ ข้างทาง แถมยังมีหนังที่ซูมจากในโรงอีกต่างหาก ยิ่งของพวกนี้บางทีหนังเข้าโรงวันเดียว วันต่อไปมันก็มาละครับ
เอ้า!...ทำไมล่ะ? ก็ "ราคามันถูก" ไงครับ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะหยิบเงินในกระเป๋าตัวเองครั้งละ 500 - 1200
เพื่อซื้อแผ่นลิขสิทธิ์แท้ๆ ราคาที่พูดถึงนี่คือราคาแผ่น DVD ไปจนถึง แผ่น Blu-Ray นะครับ ( Blu-Ray คืออะไร ต้องลองหากันเอาเองนะ )
รอโหลดเอาดีกว่า เดี๋ยวก็มีคนที่ใจดีที่เสียสละใช้เงินตัวเองซื้อมา แล้วก็มาปล่อยฟรีต่อให้ สบายมากๆ เงินก็ไม่เสีย แถมได้ดูชัดๆ ระดับ HD
มีให้เลือกหลากหลายทุก Resolution ไม่ว่าจะ 720p, 1080p ไปจนถึง 4K มีทุกแบบครับ
สุดท้ายแล้วครับ ถามหน่อยว่า ถ้าวงการหนังไทยทำหนังออกมาแล้วเจอแต่เรื่องแบบนี้ เขาจะทำหนังดีๆ ลงทุนเยอะๆ ออกมาเพื่ออะไรกันล่ะครับ
ในเมื่อลงทุนสร้างหนังเรื่องนึง ก็ไม่ได้กำไรขนาดนั้น ( นอกจากเรื่องที่ทำออกมา แล้วสนุก จริงๆ อันนั้นก็ดีกันไปครับ )
ก็เลยย้อนมาเป็นคำตอบของเรื่องที่ว่า " ทำไมหนังไทยถึงมีแต่แนวเดิมๆ ซ้ำๆ " นั่นแหละครับ
" เพราะต้นทุนมันก็ถูกดี จะเสียเงินเยอะๆ ไปทำไม เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่คิดกันเรื่องซื้อแผ่นแท้นั่นแหละครับ "

( ตัวผมเองก็ใช่ว่าอุดหนุนของแท้ทุกครั้งนะครับ ต้องยอมรับ เพราะบางเรื่องที่เรามองว่าไม่ใช่แนว หรืออาจจะเฉยๆ ในสายตาเราเอง
   อันนี้บางทีก็ดูในเว็บ หรือดาวน์โหลดมาดูครับ แต่หนังระดับปานกลาง - ดี กล้าพูดว่าผมก็ไปดูในโรง และอุดหนุนของแท้ทั้งสิ้นครับ )

      
      **เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าใครมองว่าผิดตรง หรือไม่พอใจตรงไหน ต้องขออภัยไว้ก่อนด้วยเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่