1.ในกรณีที่ผมซื้อ RMF มาตั้งแต่อายุ 48 (ปี 2552)  ต่อเนื่องทุกปีไปจนถึงอายุ 54 ปี (ปี 2558) เป็นปีสุดท้าย หลังจากนั้นผมจะไม่ซื้อ RMF แล้ว ได้หรือไม่ครับ  และผมจะไถ่ถอน RMF ที่ซื้อตอนอายุ 54 ปี (หรือที่ซื้อเมื่อปี 2558) ได้ตอนอายุ 59 ปีหรือในปี 2563 ตามหลัก FIFO ใช่หรือไม่ครับ

-----------------------------------------------------------------------------------
เพราะอ่านจาก ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 171 ข้อ 2 (1) สามารถระงับการซื้อหน่วยลงทุนได้ 1 ปี และ ข้อ 5 ให้ยกเว้น ข้อ 2 (1) กรณีที่อายุมากว่า 55 ปี ไม่ต้องซื้อ RMF ต่อไปได้ (หรืออยากซื้อก็ซื้อได้ไม่มีขั้นต่ำ  และจะซื้อเมื่อไรก็ได้ไม่ต้อง 5 ปีติดต่อกัน แต่ให้ถือไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี)

ทั้งนี้จากการ Search หาข้อมูลในกระทู้เก่าใน pantip  บอกว่าการถือหน่วยลงทุนใน RMF ไม่น้อยกว่า 5 ปี  ให้นับปีที่ซื้อ หรือ หากถือไว้ครบ 5 ปีแล้ว ส่วนที่ซื้อภายใน 5 ปีนั้นๆ สามารถถอนได้ทั้งหมดเลยพร้อมก้นเมื่องวดแรกครบกำหนด---ใน คห.ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างขัดแย้งกับประกาศฯ ซึ่งได้แยกกันชัดเจนระหว่าง "ซื้อไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้งระงับการซื้อได้แต่ห้ามเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน” ตาม ข้อ 2(1) และ “การถือไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี และเมื่อผู้ลงทุนอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ จึงจะไถ่ถอนได้” ตามข้อ 2(2)  

-----------------------------------------------------------------------------------
2.ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าการนับอายุการถือหน่วยลงทุนมิได้หมายความถึงการนับเฉพาะปีที่ซื้อ รวมถึงการไถ่ถอน RMF 5 ปีหลังสุดกรณีที่อายุเกิน 55 ปี ก็ไม่สามารถทำได้หมดพร้อมกันใช่หรือไม่ครับ (เช่น หากผมซื้อ RMF ตอนอายุ 51 ปี (ปี 2555) ซื้อต่อเนื่อง 5 ปี จนถึงปี 2559  หรือตอนผมอายุ 55 ปี พอปี 2560 ผมสามรถไถ่ถอนหน่วยลงทุน RMF ที่ลงทุนได้ทุกกองใน 5 ปีที่ผ่านมาได้หรือไม่ครับ --- ความเข้าใจผมถ้าอ่านตามประกาศฯ คือไม่ได้ กองสุดท้ายที่ซื้อปี 2559 ต้องไถ่ถอนตอนปี 2564 ตามหลัก FIFO

แต่ผมอ่านในข้อ 3 ตาม link http://www.rd.go.th/publish/36195.0.html กลับบอกว่าสามารถดำเนินการได้ ซึ่งขัดแย้งกับข้อความใน ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 171 จึงขอให้ท่านที่มีความเชี่ยวชาญช่วยไขความกระจ่างให้ด้วยครับ

อ้างถึง ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 171 ตาม link http://www.rd.go.th/publish/39784.0.html


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 171

ข้อ 2     (1)    ผู้มีเงินได้ต้องซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง และต้องไม่ระงับการซื้อหน่วยลงทุนเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีติดต่อกัน การซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามวรรคหนึ่ง ต้องมีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของเงินได้ที่ได้รับในแต่ละปี หรือมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 บาทต่อปี
                        (2)    ผู้มีเงินได้จะต้องถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก และไถ่ถอนหน่วยลงทุนดังกล่าวเมื่อผู้มีเงินได้นั้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
                        ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับในกรณีผู้มีเงินได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เพราะเหตุทุพพลภาพหรือตาย
                        (3)    ผู้มีเงินได้ต้องไม่ได้รับเงินปันผลหรือเงินอื่นใดจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพในระหว่างการลงทุน และต้องได้รับคืนเงินลงทุนและผลประโยชน์จากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเมื่อมีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนเท่านั้น
                        (4)    ผู้มีเงินได้ต้องไม่กู้ยืมเงินหรือเบิกเงินจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ผู้มีเงินได้ได้ซื้อหน่วยลงทุนไว้

ข้อ 5 กรณีผู้มีเงินได้ได้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก และมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ทุพพลภาพ ผู้มีเงินได้จะไม่ซื้อหน่วยลงทุนต่อไป หรือจะซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพปีใดปีหนึ่งและจะซื้อหน่วยลงทุนเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ โดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 2(1) และข้อ 3 วรรคสอง


แก้ไขขีดเส้นใต้และทำตัวหนาในส่วนที่เป็นคำถามครับ