เมื่อคืนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผมขับรถขึ้นทางด่วนโดยมีภรรยานั่งมาด้วย ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80 Km/H ก่อนถึงด่านเก็บเงินประชาชื่นสัก 2 กิโลเมตร
มีเสียงดังตูมพร้อมแรงปะทะอย่างแรงที่ท้ายรถเรา หัวเราทั้ง 2 ผงะหงายกระแทกเบาะพิงศรีษะของรถ (ดีที่เราคาดเข็มขัดนิรภัยกันทั่งคู่ไม่งั๊นหัวอาจกระเด้งกลับไปกระแทกคอนโซลรถได้อีก)
ผมชลอรถเหลือบไปดูกระจกหลังก็ทราบชัดเจนว่ามีรถเก๋งสีดำคันใหญ่มาชนท้ายรถเรา แล้วรถคันที่มาชนท้ายเรากลับไม่ชลอจอดรถ กลับเร่งแซงรถเราไปเลย ผมมองจากกระจกประตูคนขับยังเห็นว่าเขาหันมามองเรานิดนึงแล้วเร่งขับไป
ผมตัดสินใจขับรถตามกวดเขาไป แต่รถเราโดนชนอย่างหนักได้ยินเสียงวัตถุลากไปกับพื้นถนน และมีกลิ่นเหม็นไหม้อย่างแรง จึงขับไปได้ด้วยความเร็วไม่มากนัก โชคดีว่าจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลด่านเก็บเงินมากนัก รถที่ชนแล้วหนีสุดท้ายจึงมาติดที่หน้าด่านเก็บเงิน เราจึงตามมาได้ทันและขับจอดขวางหน้ารถเขาไว้ (หากไม่ขวางไว้ ผมเชื่อว่าเขาขับผ่านด่าน easy pass หนีต่อไปแน่ )
ผมรีบลงจากรถถ่ายภาพทะเบียนรถเขา แล้วเดินไปหาเขา (เห็นกระจกด้านคนขับเปิดลงสุดอยู่แล้ว) ถามว่า "เฮ้ย..เมาหรือเปล่า ขับชนแล้วหนีมาอย่างนี้ได้ไง"
เขาผยักหน้านิดนึง ไม่พูดอะไร (ก็ดูเหมือนจะเมาจริงๆ นั้นแหล่ะ แต่ถึงขณะที่พิมพ์อยู่นี้ผมชักไม่แน่ใจว่าเมาจริงหรือแกล้งเมา)
ผมบอก "ลงมาจากรถ" (เพราะเกรงว่าเขาอาจจะขับพุ่งชนรถผมอีก รถเขาใหญ่กว่ารถเรามาก)
เขานั่งนิ่งไม่ตอบ แล้วก็มีรถเพื่อนเขา (สุดท้ายทราบว่าเป็นลูกน้อง) อีกคันตามมาทันรีบลงมากันผมไว้ และขอโทษ พร้อมให้ชื่อเบอร์โทรบอกว่าเดี๋ยวเขา (ชื่อ ส.ว.) จัดการรับผิดชอบเองทั่งหมด ไม่มีปัญหา
คุณ ส.ว. คุยดีมาก ขอโทษตลอดเวลา กัน "พี่อ้วน" นายของเขาไม่ให้ลงมายุ่งใดๆ ทั้งสิ้น และ"พี่อ้วน" นายของคุณ ส.ว. ก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ
เรารอจนประกันฝ่ายเขามาถึง (บริษัท LMG) ถ่ายภาพออกใบเครมประกันให้ทั่ง 2 ฝ่าย
สรุปรถเรากันชนท้ายพังหลุดคาตัวรถ (ที่มาของเสียงวัตถุครูดถนน ตอนขับกวดเขา)
ส่วนของตัวถังยุบลงไปขูดกับล้อหลัง (ที่มาของกลิ่นเหม็นไหม้ของยางรถสีกับตัวถังขณะขับกวดเขา)
ประตูด้านข้างเป็นรอยขูด (จากที่เรานำรถเข้าขวางหน้ารถเขาที่จะขับหนีต่อ)
ศรีษะเราทั่งคู่กระแทกที่พิงศรีษะ ภรรยาผมบอกไม่เป็นอะไร (ณ ขณะนั้น) ส่วนผัวมึนๆ หัวเล็กน้อย จึงว่าจะไปตรวจที่ รพ.อีกทีนึง
รถเขาไฟหน้าแตก กันชนแตก ฝากระโปรงยุบ แก้มยุบ (แสดงว่าชนแรงจริง ปกติรถยุโรปคันใหญ่ไม่น่าจะยุบมากขนาดนี้)
ต่างคนต่างลากรถตนเองแยกย้ายกันกลับ
เรากลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน หลังจากลากรถไปเข้าที่ศูนย์ H ที่เราเข้าใช้บริการตลอดเพราะอยู่ใกล้บ้านพอดี
ตื่นเช้ามายังรู้สึกมึนๆ เล็กน้อย (ไม่แน่ใจว่าเพราะจากที่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับหรือไม่)
อยากถามเพื่อนๆ และผู้รู้หน่อยครับว่า
1. อย่างนี้เราควรแจ้งความฟ้อง อาญา หรือแพ่ง หรือไม่อย่างไร กรณีเมาสุราขับรถ และชนแล้วหนี
(ปกติแล้ว ผมและโดยเฉพาะภรรยา เป็นคนใจดี ไม่เคยเอาเปรียบอะไรใคร เกรงแต่จะโดยฝ่ายเขาเอาเปรียบภายหลัง)
2. ขณะที่รถเราเข้าซ่อม บริษัทประกันฝ่ายเขา ต้องมีรถมาให้เราใช้งานหรือไม่ (เท่าที่ถาม พนง.ที่มาเครม เขาบอกเราต้องไปติดต่อที่ บริษัทเอง)
3. มีข้อแนะนำเพิ่มเติมอย่างอื่นๆ ใดบ้าง
ขอบคุณในคำแนะนำล่วงหน้าครับ
ปล.ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมรู้สึกว่า การเมาแล้วขับแบบนี้เป็นอันตรายกับคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก และการชนแล้วหนี ยิ่งแสดงถึงความแย่มากๆ
จึงอยากบันทึกไว้เพื่อแชร์ประสพการณ์ และให้ได้รุ้ว่าควร หรือทำอย่างไรได้บ้าง
โดนคนเมาขับรถชนแล้วหนีบนทางด่วน...ทำอย่างไรได้บ้าง
มีเสียงดังตูมพร้อมแรงปะทะอย่างแรงที่ท้ายรถเรา หัวเราทั้ง 2 ผงะหงายกระแทกเบาะพิงศรีษะของรถ (ดีที่เราคาดเข็มขัดนิรภัยกันทั่งคู่ไม่งั๊นหัวอาจกระเด้งกลับไปกระแทกคอนโซลรถได้อีก)
ผมชลอรถเหลือบไปดูกระจกหลังก็ทราบชัดเจนว่ามีรถเก๋งสีดำคันใหญ่มาชนท้ายรถเรา แล้วรถคันที่มาชนท้ายเรากลับไม่ชลอจอดรถ กลับเร่งแซงรถเราไปเลย ผมมองจากกระจกประตูคนขับยังเห็นว่าเขาหันมามองเรานิดนึงแล้วเร่งขับไป
ผมตัดสินใจขับรถตามกวดเขาไป แต่รถเราโดนชนอย่างหนักได้ยินเสียงวัตถุลากไปกับพื้นถนน และมีกลิ่นเหม็นไหม้อย่างแรง จึงขับไปได้ด้วยความเร็วไม่มากนัก โชคดีว่าจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลด่านเก็บเงินมากนัก รถที่ชนแล้วหนีสุดท้ายจึงมาติดที่หน้าด่านเก็บเงิน เราจึงตามมาได้ทันและขับจอดขวางหน้ารถเขาไว้ (หากไม่ขวางไว้ ผมเชื่อว่าเขาขับผ่านด่าน easy pass หนีต่อไปแน่ )
ผมรีบลงจากรถถ่ายภาพทะเบียนรถเขา แล้วเดินไปหาเขา (เห็นกระจกด้านคนขับเปิดลงสุดอยู่แล้ว) ถามว่า "เฮ้ย..เมาหรือเปล่า ขับชนแล้วหนีมาอย่างนี้ได้ไง"
เขาผยักหน้านิดนึง ไม่พูดอะไร (ก็ดูเหมือนจะเมาจริงๆ นั้นแหล่ะ แต่ถึงขณะที่พิมพ์อยู่นี้ผมชักไม่แน่ใจว่าเมาจริงหรือแกล้งเมา)
ผมบอก "ลงมาจากรถ" (เพราะเกรงว่าเขาอาจจะขับพุ่งชนรถผมอีก รถเขาใหญ่กว่ารถเรามาก)
เขานั่งนิ่งไม่ตอบ แล้วก็มีรถเพื่อนเขา (สุดท้ายทราบว่าเป็นลูกน้อง) อีกคันตามมาทันรีบลงมากันผมไว้ และขอโทษ พร้อมให้ชื่อเบอร์โทรบอกว่าเดี๋ยวเขา (ชื่อ ส.ว.) จัดการรับผิดชอบเองทั่งหมด ไม่มีปัญหา
คุณ ส.ว. คุยดีมาก ขอโทษตลอดเวลา กัน "พี่อ้วน" นายของเขาไม่ให้ลงมายุ่งใดๆ ทั้งสิ้น และ"พี่อ้วน" นายของคุณ ส.ว. ก็นั่งนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ
เรารอจนประกันฝ่ายเขามาถึง (บริษัท LMG) ถ่ายภาพออกใบเครมประกันให้ทั่ง 2 ฝ่าย
สรุปรถเรากันชนท้ายพังหลุดคาตัวรถ (ที่มาของเสียงวัตถุครูดถนน ตอนขับกวดเขา)
ส่วนของตัวถังยุบลงไปขูดกับล้อหลัง (ที่มาของกลิ่นเหม็นไหม้ของยางรถสีกับตัวถังขณะขับกวดเขา)
ประตูด้านข้างเป็นรอยขูด (จากที่เรานำรถเข้าขวางหน้ารถเขาที่จะขับหนีต่อ)
ศรีษะเราทั่งคู่กระแทกที่พิงศรีษะ ภรรยาผมบอกไม่เป็นอะไร (ณ ขณะนั้น) ส่วนผัวมึนๆ หัวเล็กน้อย จึงว่าจะไปตรวจที่ รพ.อีกทีนึง
รถเขาไฟหน้าแตก กันชนแตก ฝากระโปรงยุบ แก้มยุบ (แสดงว่าชนแรงจริง ปกติรถยุโรปคันใหญ่ไม่น่าจะยุบมากขนาดนี้)
ต่างคนต่างลากรถตนเองแยกย้ายกันกลับ
เรากลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน หลังจากลากรถไปเข้าที่ศูนย์ H ที่เราเข้าใช้บริการตลอดเพราะอยู่ใกล้บ้านพอดี
ตื่นเช้ามายังรู้สึกมึนๆ เล็กน้อย (ไม่แน่ใจว่าเพราะจากที่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับหรือไม่)
อยากถามเพื่อนๆ และผู้รู้หน่อยครับว่า
1. อย่างนี้เราควรแจ้งความฟ้อง อาญา หรือแพ่ง หรือไม่อย่างไร กรณีเมาสุราขับรถ และชนแล้วหนี
(ปกติแล้ว ผมและโดยเฉพาะภรรยา เป็นคนใจดี ไม่เคยเอาเปรียบอะไรใคร เกรงแต่จะโดยฝ่ายเขาเอาเปรียบภายหลัง)
2. ขณะที่รถเราเข้าซ่อม บริษัทประกันฝ่ายเขา ต้องมีรถมาให้เราใช้งานหรือไม่ (เท่าที่ถาม พนง.ที่มาเครม เขาบอกเราต้องไปติดต่อที่ บริษัทเอง)
3. มีข้อแนะนำเพิ่มเติมอย่างอื่นๆ ใดบ้าง
ขอบคุณในคำแนะนำล่วงหน้าครับ
ปล.ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะผมรู้สึกว่า การเมาแล้วขับแบบนี้เป็นอันตรายกับคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก และการชนแล้วหนี ยิ่งแสดงถึงความแย่มากๆ
จึงอยากบันทึกไว้เพื่อแชร์ประสพการณ์ และให้ได้รุ้ว่าควร หรือทำอย่างไรได้บ้าง