“ไอลาวเอ้ย”, “ลาววะ”, “อย่ามาลาวได้มะ” คำแช่งจำพวกนี้เป็นคำคุ้นหูของผมในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ถ้าจำไม่ผิดน่าจะช่วงประถมปลายถึงมัธยมต้นและเชื่อว่าหลายๆคนก็น่าจะเคยได้ยินได้ใช้กันมาบ้าง
ในตอนนั้นผมไม่เคยได้เห็นประเทศลาว ไม่เคยได้รู้จักคนลาว แต่กลับนำคำว่าลาวมาใช้ในเชิงดูถูกคนอื่นได้ น่าแปลกว่าทัศนคตินั้นมาจากไหน จนโตขึ้นผมจึงได้เริ่มเข้าใจว่าลึกๆแล้วคนไทยมักจะมีทัศนคติในเชิงลบต่อเพื่อนบ้านรั้วติดกันหลายๆชาติ
01: ดอกหญ้าลาว ก็เหมือนดอกหญ้าไทย. คนลาว ก็เหมือนคนไทย ..
เรากำลังนั่งทานข้าวเช้ากันอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆโรงแรม มื้อเช้าวันนี้เป็นอาหารยอดฮิตของปากเซคือ … เฝอนั่นเองครับ ตั้งแต่มาถึงที่นี่มองไปทางไหนก็มักจะเจอร้านขายเฝอจนบางทีก็สงสัยว่านี่nูอยู่เวียดนามหรือลาวกันแน่ฟระ!!
นี่เป็นที่มาของอีกคำถามหนึ่งในใจว่าแล้วอาหารท้องถิ่นของลาวแท้ๆนี่เป็นยังไง? จะเป็นส้มตำข้าวเหนียวเหมือนอาหารอีสานบ้านเรามั้ยก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆในเมืองปากเซนี้ผมยังไม่เห็นอาหารที่เป็นอาหารลาวเลย
02: รอยยิ้มแบบ"ลาวๆ"
เสร็จจากข้าวเช้าเราก็ไปรอรถที่ร้านอาหารเมื่อวานโดยกำหนดรถออกตามตั๋วคือเก้าโมงตรงครับ(ถ้าจำไม่ผิด) แต่เอาเข้าจริงกว่ารถจะมาก็ล่วงไปเก้าโมงครึ่งได้ รถที่จะพาเราลงไปบ้านนากะสังเป็นรถตู้15ที่นั่ง หน้าตาก็ธรรมดาเหมือนรถตู้วินทั่วๆไป ด้วยความที่ฝรั่ง(หัวทอง)ไปกันเยอะมากแต่ที่เยอะและใหญ่กว่าคือเป้แบ็คแพ็คของแต่ละท่านทำให้ฝรั่ง(หัวดำ)5คนโดนจับแยกไปนั่งสองคัน
จากตัวเมืองปากเซไปท่าเรือบ้านนากะสังรถจะวิ่งไปตามถนนหลวงหมายเลข13 เลียบไปตามริมแม่น้ำโขง ระหว่างทางจะผ่านท่าข้ามเพื่อไปเมืองจำปาสัก
เมืองจำปาสักเป็นเมืองหลวงเก่าของแขวงจำปาสักครับแต่ปัจจุบันตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ผลัดเปลี่ยนไปอยู่ในมือของปากเซที่มีขนาดใหญ่กว่ามากถ้าหากจะเทียบกัน แต่แม้จำปาสักจะเป็นเมืองเล็กๆแต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมคงนักเดินทางหลายๆคนด้วยเพราะมีแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่ใครๆก็ชอบมาตกอย่างปราสาทหินวัดพู แต่ด้วยเวลาที่จำกัดและการเดินทางที่ไม่สะดวกเราเลยขอเดินใช้การ์ดนางฟ้าข้ามเมืองนี้ไป
03: จำปา คือลีลาวดี
จากถนนหลวงหมายเลข13 รถตู้แยกเข้าสู่ถนนเล็กๆที่มุ่งสู่บ้านนากะสัง สองข้างทางแลดูค่อนข้างจะเงียบเหงาจนรถวิ่งลึกเข้าไปอีกสักพักจึงเริ่มเจอคนมากขึ้น
ที่สุดถนนเป็นบ้านนากะสังที่มีลักษณะเป็นหมู่บ้านไม้เล็กๆขนาบอยู่สองข้าง แต่ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่ด้วยความที่เป็นท่าเรือสู่ดอนเดดและดอนคอน แหล่งปาร์ตี้ยอดฮิตของฝรั่งหัวทองทำให้ที่บ้านนากะสังนี้มีลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บ้างเช่นที่จอดรถทัวร์ ที่แลกเงิน และบริษัททัวร์ที่ขายตั๋วทั้งรถและเรือ
ตั๋วรถขามาที่เราซื้อนั้นพ่วงไว้ด้วยเรือข้ามฟากซึ่งเราจะสามารถมาขึ้นตอนไหนก็ได้เราเลยตัดสินใจว่าจะลงใต้ต่อเพื่อไปคอนพะเพ็งก่อน แล้วค่อยกลับมาเพื่อข้ามฝั่งไปดอนเดดจะได้ประหยัดค่าข้ามเรือ
เราให้พี่คนขับรถตู้ช่วยหารถสองแถวไปคอนพะเพ็งให้แล้วก็เลยซื้อตั๋วเรือข้ามฟากและรถกลับเข้าเมืองปากเซสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วยเลย ป้าที่ท่ารถยังใจดีให้เราฝากกระเป๋าเป้ไว้ที่นี่ด้วย
04: โชเฟอร์
[CR] [เที่ยวเป็นเอก.เลขเป็นโท#1]ทริปแรกแบกเป้เที่ยว@จำปาสัก part2: ชาวเกาะก็มองเห็นดาว
ในตอนนั้นผมไม่เคยได้เห็นประเทศลาว ไม่เคยได้รู้จักคนลาว แต่กลับนำคำว่าลาวมาใช้ในเชิงดูถูกคนอื่นได้ น่าแปลกว่าทัศนคตินั้นมาจากไหน จนโตขึ้นผมจึงได้เริ่มเข้าใจว่าลึกๆแล้วคนไทยมักจะมีทัศนคติในเชิงลบต่อเพื่อนบ้านรั้วติดกันหลายๆชาติ
เรากำลังนั่งทานข้าวเช้ากันอยู่ที่ร้านอาหารข้างๆโรงแรม มื้อเช้าวันนี้เป็นอาหารยอดฮิตของปากเซคือ … เฝอนั่นเองครับ ตั้งแต่มาถึงที่นี่มองไปทางไหนก็มักจะเจอร้านขายเฝอจนบางทีก็สงสัยว่านี่nูอยู่เวียดนามหรือลาวกันแน่ฟระ!!
นี่เป็นที่มาของอีกคำถามหนึ่งในใจว่าแล้วอาหารท้องถิ่นของลาวแท้ๆนี่เป็นยังไง? จะเป็นส้มตำข้าวเหนียวเหมือนอาหารอีสานบ้านเรามั้ยก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆในเมืองปากเซนี้ผมยังไม่เห็นอาหารที่เป็นอาหารลาวเลย
เสร็จจากข้าวเช้าเราก็ไปรอรถที่ร้านอาหารเมื่อวานโดยกำหนดรถออกตามตั๋วคือเก้าโมงตรงครับ(ถ้าจำไม่ผิด) แต่เอาเข้าจริงกว่ารถจะมาก็ล่วงไปเก้าโมงครึ่งได้ รถที่จะพาเราลงไปบ้านนากะสังเป็นรถตู้15ที่นั่ง หน้าตาก็ธรรมดาเหมือนรถตู้วินทั่วๆไป ด้วยความที่ฝรั่ง(หัวทอง)ไปกันเยอะมากแต่ที่เยอะและใหญ่กว่าคือเป้แบ็คแพ็คของแต่ละท่านทำให้ฝรั่ง(หัวดำ)5คนโดนจับแยกไปนั่งสองคัน
จากตัวเมืองปากเซไปท่าเรือบ้านนากะสังรถจะวิ่งไปตามถนนหลวงหมายเลข13 เลียบไปตามริมแม่น้ำโขง ระหว่างทางจะผ่านท่าข้ามเพื่อไปเมืองจำปาสัก
เมืองจำปาสักเป็นเมืองหลวงเก่าของแขวงจำปาสักครับแต่ปัจจุบันตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ผลัดเปลี่ยนไปอยู่ในมือของปากเซที่มีขนาดใหญ่กว่ามากถ้าหากจะเทียบกัน แต่แม้จำปาสักจะเป็นเมืองเล็กๆแต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมคงนักเดินทางหลายๆคนด้วยเพราะมีแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ที่ใครๆก็ชอบมาตกอย่างปราสาทหินวัดพู แต่ด้วยเวลาที่จำกัดและการเดินทางที่ไม่สะดวกเราเลยขอเดินใช้การ์ดนางฟ้าข้ามเมืองนี้ไป
จากถนนหลวงหมายเลข13 รถตู้แยกเข้าสู่ถนนเล็กๆที่มุ่งสู่บ้านนากะสัง สองข้างทางแลดูค่อนข้างจะเงียบเหงาจนรถวิ่งลึกเข้าไปอีกสักพักจึงเริ่มเจอคนมากขึ้น
ที่สุดถนนเป็นบ้านนากะสังที่มีลักษณะเป็นหมู่บ้านไม้เล็กๆขนาบอยู่สองข้าง แต่ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่ด้วยความที่เป็นท่าเรือสู่ดอนเดดและดอนคอน แหล่งปาร์ตี้ยอดฮิตของฝรั่งหัวทองทำให้ที่บ้านนากะสังนี้มีลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บ้างเช่นที่จอดรถทัวร์ ที่แลกเงิน และบริษัททัวร์ที่ขายตั๋วทั้งรถและเรือ
ตั๋วรถขามาที่เราซื้อนั้นพ่วงไว้ด้วยเรือข้ามฟากซึ่งเราจะสามารถมาขึ้นตอนไหนก็ได้เราเลยตัดสินใจว่าจะลงใต้ต่อเพื่อไปคอนพะเพ็งก่อน แล้วค่อยกลับมาเพื่อข้ามฝั่งไปดอนเดดจะได้ประหยัดค่าข้ามเรือ
เราให้พี่คนขับรถตู้ช่วยหารถสองแถวไปคอนพะเพ็งให้แล้วก็เลยซื้อตั๋วเรือข้ามฟากและรถกลับเข้าเมืองปากเซสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วยเลย ป้าที่ท่ารถยังใจดีให้เราฝากกระเป๋าเป้ไว้ที่นี่ด้วย