22 ม.ค.--ดีบีเอส วิคเคอร์ส
ราคาเป้าหมาย 8.4 บาท/หุ้น
มี Potential Upside จากงานก่อสร้างโครงการโปรแตช
• TRC ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างและออกแบบทางวิศวกรรมงานระบบท่อและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีโดยมีความเชี่ยวชาญในงานระบบท่อก๊าซธรรมชาติ ลูกค้าของ TRC จะอยู่ในอุตสหากรรมพลังงาน & ปิโตรเคมี ได้แก่ กลุ่มปตท., กลุ่ม IVL, Down Chemical, BCP, SCC, AMATA, TOTAL, Petrogas Rima, GLOW เป็นต้น
• คาดปี 58 รายได้เติบโต 20% บริษัทมี Backlog ณ สิ้นเดือนธ.ค.57 ประมาณ 4 พันล้านบาท โดย 60% เป็นงานท่อก๊าซ และอีก 40% เป็นงานรับเหมาก่อสร้าง (Processing Plant) ซึ่งงานท่อก๊าซมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 15% และงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 20% ซึ่งใน Backlog ดังกล่าวจะรับรู้รายได้ในปี 58 ประมาณ 2.4 พันล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 59-60 ส่วนงานใหม่ที่บริษัทประมูลไปแล้วและมีโอกาสสูงที่จะได้คือ งานซ่อมท่อก๊าซเส้นที่ 1 ของปตท. มูลค่า 3.725พันล้านบาท โดยคาดว่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการในสิ้นไตรมาส 1/58 โดยหากได้รับงานนี้ก็จะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 58ประมาณ 30% หรือ 1.1 พันล้านบาท ทำให้เป้าหมายรายได้ปี 58 ที่ 3.5 พันล้านบาท เติบโต 20% นั้นมีความเป็นไปได้สูง
• บริษัทเข้าประมูลงานทั้งที่เป็นท่อก๊าซและ Processing Plant ในมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของท่อก๊าซเส้นที่ 5 ของปตท.มุลค่างานประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาเพิ่มและทำให้ Backlog มีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่างานท่อก๊าซและ Processing Plant ปิโตรเคมี จะยังมีเข้ามาต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นตามแผนการลงทุนของกลุ่มปตท.ที่ยังเดินหน้าต่อ
• ความผันผวนของมาร์จิ้นค่อนข้างน้อย เพราะเมื่อชนะประมูลงานและเซ็นสัญญา บริษัทก็จะทำการเจรจาซื้อวัตถุดิบกับซับพลายเออร์ไว้ล่วงหน้าเลย ซึ่งบริษัทจะใช้วัตถุดิบนำเข้าประมาณ 60% และซื้อในประเทศ 40% และสำหรับปี 58 นี้คาดว่ามาร์จิ้นน่าจะขยับขึ้นได้จากราคาน้ำมันลดลง
• โอกาสของบริษัท คือ
1. บริษัทย่อย สหการวิศวกร จำกัด ร่วมลงทุนกับ China Railway No.3 Engineering Group Co.Ltd ในสัดส่วน 51% :49% เพื่อเข้าประมูลงานรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยขณะนี้ประเมินการลงทุนภาครัฐจะเดินหน้าได้เร็วขึ้น คาดว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการรถไฟรางคู่ภายในปี 58 ซึ่งก็เป็นโอกาสของบริษัทร่วมทุนนี้ที่จะเข้าไปประมูลงาน ทั้งนี้จุดเด่นของ China Railway คือมีความชำนาญในธุรกิจคมนาคมประเภทราง โดยปัจจุบันไทยสั่งซื้อรางรถไฟจากจีนประมาณ 90% ของที่ใช้ทั้งหมดในประเทศ เพราะราคารางเหล็กของจีนมีความ Competitive มาก
2. บริษัทย่อย คือ TRC International Limited เข้าถือหุ้น 4.48%`ในบริษัทเหมืองแร่โปแตช อาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือAPMC ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองโปรแตช ปัจจุบันมีทุนชำระแล้ว 1.674 พันล้านบาท โดยเหมืองนี้อยู่ที่จ.ชัยภูมิปัจจุบันได้มีการ Verify แหล่งแร่และทำการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เรียบร้อยแล้ว รอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งพบว่ามีปริมาณสำรองที่ประมาณ 420 ล้านตัน และมีกำลังการผลิตแร่ได้สูงสุด 1.1ล้านตันต่อปี โครงการนี้มีมูลค่างานก่อสร้าง 3 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี คือปี 2558-2560 คาดว่าจะเริ่มทำการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2561 ซึ่งในส่วนของงานก่อสร้างเห็นว่า TRC มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานนี้ เพราะมีประสบการณ์ในการก่อสร้างและเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการนี้ด้วย
• การประเมินมูลค่าหุ้น คาดการณ์ว่ากำไรจากธุรกิจท่อก๊าซและ Processing Plant จะเติบโตได้ 23% ในปี 58 เป็น 320 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท/หุ้น หากให้ P/E เป้าหมาย 15 เท่า จะมีมูลค่าหุ้น 5.80 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีปัจจัยที่เป็น Catalyst จากการเข้าประมูลรถไฟทางคู่ร่วมกับพันธมิตรจากจีน คือ China Railwayและจากโครงการก่อสร้างโปรแตชที่มีมูลค่างานก่อสร้างสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมี Backlog พุ่งขึ้นสูงกว่า 3เท่าและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ประเมินว่าถ้าบริษัทได้งานก่อสร้างโครงการโปรแตชจะทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 58 ของTRC เพิ่มขึ้นประมาณ 0.17 บาท/หุ้น ยังผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นของ TRC จะขึ้นไปเป็น 0.56 บาท/หุ้น บนเป้าหมายP/E ที่ 15 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมปี 58 เพิ่มเป็น 8.40 บาท/หุ้น
TRC มีดีขนาดไหน โบรคถึงให้ราคาเหมาะสม 8.4 บาท/หุ้น
ราคาเป้าหมาย 8.4 บาท/หุ้น
มี Potential Upside จากงานก่อสร้างโครงการโปรแตช
• TRC ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างและออกแบบทางวิศวกรรมงานระบบท่อและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีโดยมีความเชี่ยวชาญในงานระบบท่อก๊าซธรรมชาติ ลูกค้าของ TRC จะอยู่ในอุตสหากรรมพลังงาน & ปิโตรเคมี ได้แก่ กลุ่มปตท., กลุ่ม IVL, Down Chemical, BCP, SCC, AMATA, TOTAL, Petrogas Rima, GLOW เป็นต้น
• คาดปี 58 รายได้เติบโต 20% บริษัทมี Backlog ณ สิ้นเดือนธ.ค.57 ประมาณ 4 พันล้านบาท โดย 60% เป็นงานท่อก๊าซ และอีก 40% เป็นงานรับเหมาก่อสร้าง (Processing Plant) ซึ่งงานท่อก๊าซมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 15% และงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 20% ซึ่งใน Backlog ดังกล่าวจะรับรู้รายได้ในปี 58 ประมาณ 2.4 พันล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 59-60 ส่วนงานใหม่ที่บริษัทประมูลไปแล้วและมีโอกาสสูงที่จะได้คือ งานซ่อมท่อก๊าซเส้นที่ 1 ของปตท. มูลค่า 3.725พันล้านบาท โดยคาดว่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการในสิ้นไตรมาส 1/58 โดยหากได้รับงานนี้ก็จะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 58ประมาณ 30% หรือ 1.1 พันล้านบาท ทำให้เป้าหมายรายได้ปี 58 ที่ 3.5 พันล้านบาท เติบโต 20% นั้นมีความเป็นไปได้สูง
• บริษัทเข้าประมูลงานทั้งที่เป็นท่อก๊าซและ Processing Plant ในมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของท่อก๊าซเส้นที่ 5 ของปตท.มุลค่างานประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาเพิ่มและทำให้ Backlog มีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่างานท่อก๊าซและ Processing Plant ปิโตรเคมี จะยังมีเข้ามาต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นตามแผนการลงทุนของกลุ่มปตท.ที่ยังเดินหน้าต่อ
• ความผันผวนของมาร์จิ้นค่อนข้างน้อย เพราะเมื่อชนะประมูลงานและเซ็นสัญญา บริษัทก็จะทำการเจรจาซื้อวัตถุดิบกับซับพลายเออร์ไว้ล่วงหน้าเลย ซึ่งบริษัทจะใช้วัตถุดิบนำเข้าประมาณ 60% และซื้อในประเทศ 40% และสำหรับปี 58 นี้คาดว่ามาร์จิ้นน่าจะขยับขึ้นได้จากราคาน้ำมันลดลง
• โอกาสของบริษัท คือ
1. บริษัทย่อย สหการวิศวกร จำกัด ร่วมลงทุนกับ China Railway No.3 Engineering Group Co.Ltd ในสัดส่วน 51% :49% เพื่อเข้าประมูลงานรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยขณะนี้ประเมินการลงทุนภาครัฐจะเดินหน้าได้เร็วขึ้น คาดว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการรถไฟรางคู่ภายในปี 58 ซึ่งก็เป็นโอกาสของบริษัทร่วมทุนนี้ที่จะเข้าไปประมูลงาน ทั้งนี้จุดเด่นของ China Railway คือมีความชำนาญในธุรกิจคมนาคมประเภทราง โดยปัจจุบันไทยสั่งซื้อรางรถไฟจากจีนประมาณ 90% ของที่ใช้ทั้งหมดในประเทศ เพราะราคารางเหล็กของจีนมีความ Competitive มาก
2. บริษัทย่อย คือ TRC International Limited เข้าถือหุ้น 4.48%`ในบริษัทเหมืองแร่โปแตช อาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือAPMC ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองโปรแตช ปัจจุบันมีทุนชำระแล้ว 1.674 พันล้านบาท โดยเหมืองนี้อยู่ที่จ.ชัยภูมิปัจจุบันได้มีการ Verify แหล่งแร่และทำการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เรียบร้อยแล้ว รอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งพบว่ามีปริมาณสำรองที่ประมาณ 420 ล้านตัน และมีกำลังการผลิตแร่ได้สูงสุด 1.1ล้านตันต่อปี โครงการนี้มีมูลค่างานก่อสร้าง 3 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี คือปี 2558-2560 คาดว่าจะเริ่มทำการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2561 ซึ่งในส่วนของงานก่อสร้างเห็นว่า TRC มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานนี้ เพราะมีประสบการณ์ในการก่อสร้างและเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการนี้ด้วย
• การประเมินมูลค่าหุ้น คาดการณ์ว่ากำไรจากธุรกิจท่อก๊าซและ Processing Plant จะเติบโตได้ 23% ในปี 58 เป็น 320 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.39 บาท/หุ้น หากให้ P/E เป้าหมาย 15 เท่า จะมีมูลค่าหุ้น 5.80 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีปัจจัยที่เป็น Catalyst จากการเข้าประมูลรถไฟทางคู่ร่วมกับพันธมิตรจากจีน คือ China Railwayและจากโครงการก่อสร้างโปรแตชที่มีมูลค่างานก่อสร้างสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมี Backlog พุ่งขึ้นสูงกว่า 3เท่าและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ประเมินว่าถ้าบริษัทได้งานก่อสร้างโครงการโปรแตชจะทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 58 ของTRC เพิ่มขึ้นประมาณ 0.17 บาท/หุ้น ยังผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นของ TRC จะขึ้นไปเป็น 0.56 บาท/หุ้น บนเป้าหมายP/E ที่ 15 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมปี 58 เพิ่มเป็น 8.40 บาท/หุ้น