กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับ วันนี้ขอหยิบยกเอาสมารืทโฟนที่เรียกเสียงฮือฮาแก่วงการสมาร์ทโฟนอย่าง OPPO N3 ที่การเปิดตัวครั้งนี้เรียกว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียวครับ หากเพื่อนๆที่ติดตามสมาร์ทโฟนของค่ายนี้จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล N ไปแล้ว หรือจะเรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกก็ได้ครับ นั่นก็คือ OPPO N1 สมาร์ทโฟนที่สามารถหมุนกล้องได้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์กันไปหลายๆคนโดยเฉพาะสาวๆที่ชอบการเซลฟี่ จึงต้องตอบโจทย์ลูกค้าอีกครั้งด้วยการเปิดรุ่นภาคต่อกับรุ่นที่ 2 แต่รุ่นไม่ 2 นะ เอ๊ะยังไง!! ก็รุ่นใหม่ที่ว่ามานี้ดันกระโดดข้ามมาเป็น OPPO N3 เลย แล้ว N2 หายไปไหน ช่างมันเถอะ!!! ฮ่าๆ
เรียกได้ว่าสำหรับ OPPO N3 นั้น การดีไซน์ของตัวเครื่องค่อนข้างที่จะฉีกแนวจากตัวเก่าไปพอสมควรครับ จากตัวเก่าที่ออกจะโค้งมนและดูใหญ่พอสมควร แต่พอมาเป็นรุ่นใหม่นี้มีการดีไซน์ใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น แอบมีความเหลี่ยมๆอยู่แต่ก็ปะปนไปกับความโค้งมนได้อย่างลงตัวครับ ทางด้านวัสดุนั้น OPPO เลือกใช้เป็นวัสดุขัดมัน จากที่ตัวเก่าอย่าง OPPO N1 ที่เป็นพลาสติกแบบด้าน ทำให้เป็นรอยง่าย การเปลี่ยนวัสดุถือว่าตอบโจทย์ครับ แต่ที่เปลี่ยนกันอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือในส่วนของกล้องครับ เพราะในส่วนนี้เลือกใช้เป็นวัสดุหนังเทียม ใครที่เคยใช้ Samsung Galaxy Note 3 น่าจะคุ้นๆนะครับ และมีรอยเย็บอ้อมตัวกล้อง ก็ดูสวยไปอีกแบบครับ ในส่วนของสัดส่วนตัวเครื่อง เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าตัวที่แล้วมากครับ จับถนัดมือมากขึ้น มีความบางเพียงแค่ 8.7 มม.เท่านั้น แต่เรื่องความหนักก็ไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมเท่ารัยที่ 192 กรัมครับ
ตัว OPPO N3 เองถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่พัฒนาแล้ว แต่ก็ยังมีส่วนที่ลดลงมานะครับ นั่นก็คือในส่วนของหน้าจอ ที่รุ่นเดิมมีขนาด 5.9 นิ้ว แต่น้องใหม่อย่าง N3 มีขนาดหน้าจอที่ 5.5 นิ้ว(น่าจะเป็นเพราะว่าจอ 5.9 นิ้วใหญ่เกินไป ทำให้คนที่ชื่นชอบการเซลฟี่ ถือสมาร์ทโฟนได้ไม่ถนัดนัก) ความละเอียดก็ยังคง Full HD เหมือนเดิม แต่ความหนาแน่นพิกเซลเพิ่มขึ้นเป็น 403PPi ครับ แน่นอนว่าต้องใช้จอที่มีสีที่สดใสสมจริงอย่างจอ IPS LCD แน่นอน เท่านั้นยังไม่พอ ยังเสริมความแกร่งของหน้าจอด้วยกระจกกันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกจาก Corning Gorilla Glass 3 ในส่วนของการแสดงผลนั้น OPPO N3 ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ที่มาพร้อม ColorOS ระบบที่จะทำให้สมาร์ทโฟน OPPO แตกต่างและพิเศษกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆไป ทั้งสามารถเปลี่ยนธีม เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร หรือแม้กระทั้งตั้งแอนิเมชั่นแสดงสภาพอากาศต่างๆอีกมากมายครับ
มาดูในส่วนของสเปกภายในกันบ้างครับ OPPO N3 ตัวนี้จัดเต็มมาด้วย CPU ที่กำลังนิยมกันเลยอย่าง Qualcomm SnapDragon 801 เป็น CPU ระดับ Quad Core ความเร็ว 2.3 GHz มาพร้อม GPU รุ่น Adreno 330 ให้แรมมาขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายใน 32 GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย Micro SD Card ได้สูงสุด 128 GB กันเลยทีเดียว หากดูจากสเปกแล้วหลายๆคนแอบสงสัยว่าทำไมถึงไม่ยัด CPU ตัวใหม่อย่าง Qualcomm SnapDragon 810 ตัวใหม่ล่าสุดมาเลย แต่กลับไปใช้ CPU ที่นิยมใช้กันบนสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปๆในปี 2014 แทน นี่อาจจะเป็นเพราะ OPPO คิดว่าตระกูล N อาจจะเน้นการใช้งานในส่วนของการถ่ายภาพและมัลติมีเดีย ที่สำคัญ CPU รุ่นที่ใช้ในปัจจุบันก็แรงมากพอแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อๆอาจจะได้เห็น OPPO เลือกใช้ CPU ตัวแรงอย่าง Qualcomm SnapDragon 810 ในตระกูล Find เร็วๆนี้ก็เป็นได้ครับ
ไฮไลน์ของรุ่นนี้ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ นั่นก็คือในส่วนของกล้องนั่นเอง OPPO N3 นั้นมาพร้อมกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยเลือกใช้เลนซ์ของ Omnivison โดยกล้องตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/2.3 นิ้ว มีขนาดของจุดอยู่ที่ 1.34 um และรูรับแสงกว้าง F/2.2 มาพร้อมไฟแฟลช LED แบบคู่ คงไม่ต้องพูดถึงกล้องหน้านะครับ เพราะถ้าเราจะถ่ายก็แค่เลือกที่หน้าจอก็สามารถที่จะหมุนกล้องมาทางด้านหน้าเครื่องเพื่อถ่ายได้เลย ไม่ต้องตกใจครับ เพราะนั่นเท่ากับว่าคุยก็จะได้ถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าที่มีขนาด 16 ล้านพิกเซลแน่นอน แต่ OPPO ก็ไม่ลืมที่จะยัดเอาโหมดความงามหรือ Beauty Mod โหมดที่จะปรับรูปคนให้สวยใสได้โดยที่ไม่ต้องแต่งเพิ่มแต่อย่างใด เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพด้วยO-Click เวอร์ชั่น 2.0 เป็นรีโมทขนาดเล็กๆที่เอากดถ่ายรูปเวลาที่เราอยู่ไกลจากสมาร์ทโฟน หลังจากอ่านแล้วอาจจะสงสัยว่าในรุ่นนี้หากเปลี่ยนกล้องมาเป็นหมุนแบบอัตโนมัติเราสามารถเอานิ้วไปหมุนได้อีกมั้ย? คำตอบคือได้นะครับ ไม่ทำให้เสียแต่อย่างใด
ในส่วนของความสามารถอื่นๆของ OPPO N3 ก็เช่นการแสกนนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องด้วยระบบ Touch AccessSecurity ให้คุณสามารถปลดล็อคหน้าจอด้วยลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 นิ้ว เพียงแค่วางนิ้วลงบนจุดสแกน โดยไม่ต้องทำการปาดขึ้นปาดลงแต่อย่างใด OPPO N3 ยังมาพร้อมการชาร์ตแบตด้วยความรวดเร็ว 30 นาที ชาร์ตได้สูงสุดถึง 75% และแน่นอนว่า OPPO N3 รองรับการใช้งาน 2 ซิม รองรับทั้ง Micro Sim และ Nano Sim ครับ
ก่อนจะจากกันไปขอปิดท้ายด้วยระบบ Skylight Notification เป็นหลอดไฟขนาดใหญ่ที่ซ้อนอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง จะทำหน้าที่เป็นไฟแจ้งเตือนเวลามีข้อความต่างๆเข้า แต่ไม่ต้องกลัวนะครับว่ามันจะกินไฟ แเพราะ OPPO N3 ตัวนี้มาพร้อมแบตขนาดใหญ่ ที่มีความจุถึง 3000 mAh หรือถ้ายังไม่สบายใจกลัวว่ามันจะกินไฟอยู่ก็สามารถเลือกปิดได้ครับ ใครที่ชอบ OPPO N3 สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ราคา 19,900 บาทที่ช็อปขายสมาร์ทโฟนทั่วไป สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
อ่านข่าวเต็มๆได้ที่
http://www.dspzeeplus.com/2015/01/oppo-n3.html ครับ
OPPO N3 สุดยอดสมาร์ทโฟน แค่หมุน โลกก็เปลี่ยน!!
กลับมาพบกันอีกเช่นเคยครับ วันนี้ขอหยิบยกเอาสมารืทโฟนที่เรียกเสียงฮือฮาแก่วงการสมาร์ทโฟนอย่าง OPPO N3 ที่การเปิดตัวครั้งนี้เรียกว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียวครับ หากเพื่อนๆที่ติดตามสมาร์ทโฟนของค่ายนี้จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูล N ไปแล้ว หรือจะเรียกว่าเป็นรุ่นบุกเบิกก็ได้ครับ นั่นก็คือ OPPO N1 สมาร์ทโฟนที่สามารถหมุนกล้องได้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์กันไปหลายๆคนโดยเฉพาะสาวๆที่ชอบการเซลฟี่ จึงต้องตอบโจทย์ลูกค้าอีกครั้งด้วยการเปิดรุ่นภาคต่อกับรุ่นที่ 2 แต่รุ่นไม่ 2 นะ เอ๊ะยังไง!! ก็รุ่นใหม่ที่ว่ามานี้ดันกระโดดข้ามมาเป็น OPPO N3 เลย แล้ว N2 หายไปไหน ช่างมันเถอะ!!! ฮ่าๆ
เรียกได้ว่าสำหรับ OPPO N3 นั้น การดีไซน์ของตัวเครื่องค่อนข้างที่จะฉีกแนวจากตัวเก่าไปพอสมควรครับ จากตัวเก่าที่ออกจะโค้งมนและดูใหญ่พอสมควร แต่พอมาเป็นรุ่นใหม่นี้มีการดีไซน์ใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น แอบมีความเหลี่ยมๆอยู่แต่ก็ปะปนไปกับความโค้งมนได้อย่างลงตัวครับ ทางด้านวัสดุนั้น OPPO เลือกใช้เป็นวัสดุขัดมัน จากที่ตัวเก่าอย่าง OPPO N1 ที่เป็นพลาสติกแบบด้าน ทำให้เป็นรอยง่าย การเปลี่ยนวัสดุถือว่าตอบโจทย์ครับ แต่ที่เปลี่ยนกันอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือในส่วนของกล้องครับ เพราะในส่วนนี้เลือกใช้เป็นวัสดุหนังเทียม ใครที่เคยใช้ Samsung Galaxy Note 3 น่าจะคุ้นๆนะครับ และมีรอยเย็บอ้อมตัวกล้อง ก็ดูสวยไปอีกแบบครับ ในส่วนของสัดส่วนตัวเครื่อง เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าตัวที่แล้วมากครับ จับถนัดมือมากขึ้น มีความบางเพียงแค่ 8.7 มม.เท่านั้น แต่เรื่องความหนักก็ไม่ค่อยแตกต่างจากเดิมเท่ารัยที่ 192 กรัมครับ
ตัว OPPO N3 เองถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่พัฒนาแล้ว แต่ก็ยังมีส่วนที่ลดลงมานะครับ นั่นก็คือในส่วนของหน้าจอ ที่รุ่นเดิมมีขนาด 5.9 นิ้ว แต่น้องใหม่อย่าง N3 มีขนาดหน้าจอที่ 5.5 นิ้ว(น่าจะเป็นเพราะว่าจอ 5.9 นิ้วใหญ่เกินไป ทำให้คนที่ชื่นชอบการเซลฟี่ ถือสมาร์ทโฟนได้ไม่ถนัดนัก) ความละเอียดก็ยังคง Full HD เหมือนเดิม แต่ความหนาแน่นพิกเซลเพิ่มขึ้นเป็น 403PPi ครับ แน่นอนว่าต้องใช้จอที่มีสีที่สดใสสมจริงอย่างจอ IPS LCD แน่นอน เท่านั้นยังไม่พอ ยังเสริมความแกร่งของหน้าจอด้วยกระจกกันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกจาก Corning Gorilla Glass 3 ในส่วนของการแสดงผลนั้น OPPO N3 ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ที่มาพร้อม ColorOS ระบบที่จะทำให้สมาร์ทโฟน OPPO แตกต่างและพิเศษกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆไป ทั้งสามารถเปลี่ยนธีม เปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร หรือแม้กระทั้งตั้งแอนิเมชั่นแสดงสภาพอากาศต่างๆอีกมากมายครับ
มาดูในส่วนของสเปกภายในกันบ้างครับ OPPO N3 ตัวนี้จัดเต็มมาด้วย CPU ที่กำลังนิยมกันเลยอย่าง Qualcomm SnapDragon 801 เป็น CPU ระดับ Quad Core ความเร็ว 2.3 GHz มาพร้อม GPU รุ่น Adreno 330 ให้แรมมาขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายใน 32 GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย Micro SD Card ได้สูงสุด 128 GB กันเลยทีเดียว หากดูจากสเปกแล้วหลายๆคนแอบสงสัยว่าทำไมถึงไม่ยัด CPU ตัวใหม่อย่าง Qualcomm SnapDragon 810 ตัวใหม่ล่าสุดมาเลย แต่กลับไปใช้ CPU ที่นิยมใช้กันบนสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปๆในปี 2014 แทน นี่อาจจะเป็นเพราะ OPPO คิดว่าตระกูล N อาจจะเน้นการใช้งานในส่วนของการถ่ายภาพและมัลติมีเดีย ที่สำคัญ CPU รุ่นที่ใช้ในปัจจุบันก็แรงมากพอแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อๆอาจจะได้เห็น OPPO เลือกใช้ CPU ตัวแรงอย่าง Qualcomm SnapDragon 810 ในตระกูล Find เร็วๆนี้ก็เป็นได้ครับ
ไฮไลน์ของรุ่นนี้ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ นั่นก็คือในส่วนของกล้องนั่นเอง OPPO N3 นั้นมาพร้อมกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยเลือกใช้เลนซ์ของ Omnivison โดยกล้องตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/2.3 นิ้ว มีขนาดของจุดอยู่ที่ 1.34 um และรูรับแสงกว้าง F/2.2 มาพร้อมไฟแฟลช LED แบบคู่ คงไม่ต้องพูดถึงกล้องหน้านะครับ เพราะถ้าเราจะถ่ายก็แค่เลือกที่หน้าจอก็สามารถที่จะหมุนกล้องมาทางด้านหน้าเครื่องเพื่อถ่ายได้เลย ไม่ต้องตกใจครับ เพราะนั่นเท่ากับว่าคุยก็จะได้ถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าที่มีขนาด 16 ล้านพิกเซลแน่นอน แต่ OPPO ก็ไม่ลืมที่จะยัดเอาโหมดความงามหรือ Beauty Mod โหมดที่จะปรับรูปคนให้สวยใสได้โดยที่ไม่ต้องแต่งเพิ่มแต่อย่างใด เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพด้วยO-Click เวอร์ชั่น 2.0 เป็นรีโมทขนาดเล็กๆที่เอากดถ่ายรูปเวลาที่เราอยู่ไกลจากสมาร์ทโฟน หลังจากอ่านแล้วอาจจะสงสัยว่าในรุ่นนี้หากเปลี่ยนกล้องมาเป็นหมุนแบบอัตโนมัติเราสามารถเอานิ้วไปหมุนได้อีกมั้ย? คำตอบคือได้นะครับ ไม่ทำให้เสียแต่อย่างใด
ในส่วนของความสามารถอื่นๆของ OPPO N3 ก็เช่นการแสกนนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องด้วยระบบ Touch AccessSecurity ให้คุณสามารถปลดล็อคหน้าจอด้วยลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 นิ้ว เพียงแค่วางนิ้วลงบนจุดสแกน โดยไม่ต้องทำการปาดขึ้นปาดลงแต่อย่างใด OPPO N3 ยังมาพร้อมการชาร์ตแบตด้วยความรวดเร็ว 30 นาที ชาร์ตได้สูงสุดถึง 75% และแน่นอนว่า OPPO N3 รองรับการใช้งาน 2 ซิม รองรับทั้ง Micro Sim และ Nano Sim ครับ
ก่อนจะจากกันไปขอปิดท้ายด้วยระบบ Skylight Notification เป็นหลอดไฟขนาดใหญ่ที่ซ้อนอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง จะทำหน้าที่เป็นไฟแจ้งเตือนเวลามีข้อความต่างๆเข้า แต่ไม่ต้องกลัวนะครับว่ามันจะกินไฟ แเพราะ OPPO N3 ตัวนี้มาพร้อมแบตขนาดใหญ่ ที่มีความจุถึง 3000 mAh หรือถ้ายังไม่สบายใจกลัวว่ามันจะกินไฟอยู่ก็สามารถเลือกปิดได้ครับ ใครที่ชอบ OPPO N3 สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ราคา 19,900 บาทที่ช็อปขายสมาร์ทโฟนทั่วไป สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ http://www.dspzeeplus.com/2015/01/oppo-n3.html ครับ