ความเดิมตอนที่แล้ว ตอนที่ 7..ท่าลี่ (1/2)
นั่งทานอาหารเที่ยงที่ร้าน Kitchen Plus ซึ่งอยู่หลังปั๊ม ปตท. เยื้องทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ
มาเข้ากระทู้ตอนนี้กัน ตอนที่ 7..ท่าลี่ (2/2)
หลังอาหารเที่ยงแล้ว ก็ออกเดินทางจากภูเรือ ดูเข็มไมล์อยู่ที่ 1,290 กิโลเมตร วิ่งไปเส้นทางที่จะไปจังหวัดเลย ขับไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร มีแยกซ้ายมือไปเส้น 2399 ก็ขับไปอีก 22 กิโลเมตร ทางช่วงนี้ดีครับ ก็ก้มหน้าก้มตาขับขึ้นเขาลงเนินไปเรื่อย ๆ พอแฉลบผ่านชะง่อนผาหน้าอีกที แม่เจ้า! เจอ “โคกใหญ่เบ้อเร่อ” อยู่ตรงหน้า วิวทิวเขาลักหลั่นกัน สวยงามมาก เล่นเอาตาค้างเลย เชิญชมภาพครับ :
เครดิตภาพ Panorama จากกล้องปัจจัย 6+ ของแม่บ้าน:
หลังจากผ่าน “โคกใหญ่” มาได้สักพักใหญ่ ๆ ทางเริ่มจะไม่ค่อยดี แต่ก็ใกล้ท่าลี่แล้ว ถนนเริ่มแคบลงและเหมือนวิ่งผ่านทุ่งนาเพราะมีเจ้าทุยหลายตัวเดินเล็มหญ้าอยู่ปลายทุ่ง ถนนบางช่วงเป็นหลุมบ่อ แต่ไม่มากนัก พอขับซิกแซกหลบไปมาได้ เพราะไม่มีรถสวนซักคัน ขับ ๆ ไป เหมือนกำลังจะหลงทางก็เห็นป้ายท่าลี่ โล่งอก นึกว่านอนกลางทุ่งกับเจ้าทุยเสียแล้ว
หลังจากได้อ่านข้อมูลอำเภอท่าลี่เมื่อคืนก่อนก่อนจะผล็อยง่วงหลับไป ก็ได้ความว่า ที่ท่าลี่ มีวัดศักดิ์สิทธิ์วัดหนึ่ง เห็นข้อมูลบอกว่า วัดนี้ สร้างขึ้นเพื่อต่อชะตาพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนม ชื่อวัดว่า พระธาตุสัจจะ ก็น่าจะไปกราบไหว้สักการะสักครั้งและจะได้เป็นวัดทางฝั่งไทย แล้วพรุ่งนี้ ก็ไปสักการะวัดทางฝั่งลาวอีกวัดหนึ่ง ก็จะได้ชื่อว่า ไหว้พระ 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว จึงขับตรงไปที่วัดแห่งนั้น ปรากฏว่า ในวัดนี้ มีสิ่งของที่ใหญ่โตมาก 2 อย่าง อยู่ในวัด เชิญชมภาพครับ :
เดี๋ยวนี้ทันสมัย มีบทสวดทั้งภาษาไทย ลาวและอังกฤษ ด้วย:
นี่ไงครับ 2 สิ่งที่ใหญ่โต:
ออกจากวัดพระธาตุสัจจะ เดินทางเข้าตัวเมือง ถึงแยกโลตัส เลี้ยวซ้ายตรงไป Le Bar Tarry รีสอร์ทที่ได้โทรจองไว้เมื่อเช้านี้อยู่ไม่ไกลนัก ตัวรีสอร์ทอยู่ซ้ายมือของถนนติดกับตลาดสด เลี้ยวเข้าไป check in ได้ห้องพัก จัดแจงธุระเสร็จสรรพก็ออกมานั่ง ชิว ๆ จนถึงอาหารค่ำ อาหารค่ำวันนี้ ฝากท้องกับกับข้าวง่าย ๆ ที่ห้องอาหารในรีสอร์ทนี่ ทั้งหมดแค่ 300 บาทเอง เจ้าของโรงแรมยังใจดี เอากล้วยน้ำว้าอวบอิ่มเหลืองอร่ามจากสวนมาให้ลองด้วย กล้วยสวนนี่ อร่อยจริง ๆ เนื้อแน่นเนียน เม็ดน้อย หวานสนิท เชิญชมภาพครับ :
ภาพอาคาร Le Bar Tarry ตอนพลบค่ำ:
ห้องพักเรียบแต่ดูสะอาดและกว้างขวาง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบ และ
ก็มีแมลงบินเข้ามาในห้องบ้างตอนกลางคืนตามประสาโรงแรมที่ด้านหลังเป็นทุ่งนา:
อิ่มหนำแล้ว ต่างคนต่างรู้หน้าที่ เข้าห้องตัวเอง นอนหลับฝันดี
คราวหน้าเป็นตอนที่ 8..ด่านมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว
คราวหน้าจะข้ามน้ำข้ามทะเล (จริง ๆ เป็นแม่น้ำ) ไปฝั่งลาวและบอกวิธีการทำใบผ่านด่านให้ด้วย ไหว้พระวัดลาว จะได้ชื่อว่าไหว้พระ 2 แผ่นดิน ไทย-ลาวอย่างสมบูรณ์ ซื้อของปลอดภาษี ไปลอยแพห้วยกระทิง แล้วเดินทางไปพักที่เชียงคาน
[CR] เล่าเรื่องการเดินทาง 2,200 กิโลเมตร 3 แผ่นดิน ไทย-พม่า-ลาว ตอนที่ 7. การเดินทางวันที่ 7..อำเภอท่าลี่ (2/2)
นั่งทานอาหารเที่ยงที่ร้าน Kitchen Plus ซึ่งอยู่หลังปั๊ม ปตท. เยื้องทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ
มาเข้ากระทู้ตอนนี้กัน ตอนที่ 7..ท่าลี่ (2/2)
หลังอาหารเที่ยงแล้ว ก็ออกเดินทางจากภูเรือ ดูเข็มไมล์อยู่ที่ 1,290 กิโลเมตร วิ่งไปเส้นทางที่จะไปจังหวัดเลย ขับไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร มีแยกซ้ายมือไปเส้น 2399 ก็ขับไปอีก 22 กิโลเมตร ทางช่วงนี้ดีครับ ก็ก้มหน้าก้มตาขับขึ้นเขาลงเนินไปเรื่อย ๆ พอแฉลบผ่านชะง่อนผาหน้าอีกที แม่เจ้า! เจอ “โคกใหญ่เบ้อเร่อ” อยู่ตรงหน้า วิวทิวเขาลักหลั่นกัน สวยงามมาก เล่นเอาตาค้างเลย เชิญชมภาพครับ :
เครดิตภาพ Panorama จากกล้องปัจจัย 6+ ของแม่บ้าน:
หลังจากผ่าน “โคกใหญ่” มาได้สักพักใหญ่ ๆ ทางเริ่มจะไม่ค่อยดี แต่ก็ใกล้ท่าลี่แล้ว ถนนเริ่มแคบลงและเหมือนวิ่งผ่านทุ่งนาเพราะมีเจ้าทุยหลายตัวเดินเล็มหญ้าอยู่ปลายทุ่ง ถนนบางช่วงเป็นหลุมบ่อ แต่ไม่มากนัก พอขับซิกแซกหลบไปมาได้ เพราะไม่มีรถสวนซักคัน ขับ ๆ ไป เหมือนกำลังจะหลงทางก็เห็นป้ายท่าลี่ โล่งอก นึกว่านอนกลางทุ่งกับเจ้าทุยเสียแล้ว
หลังจากได้อ่านข้อมูลอำเภอท่าลี่เมื่อคืนก่อนก่อนจะผล็อยง่วงหลับไป ก็ได้ความว่า ที่ท่าลี่ มีวัดศักดิ์สิทธิ์วัดหนึ่ง เห็นข้อมูลบอกว่า วัดนี้ สร้างขึ้นเพื่อต่อชะตาพระธาตุพนม ที่จังหวัดนครพนม ชื่อวัดว่า พระธาตุสัจจะ ก็น่าจะไปกราบไหว้สักการะสักครั้งและจะได้เป็นวัดทางฝั่งไทย แล้วพรุ่งนี้ ก็ไปสักการะวัดทางฝั่งลาวอีกวัดหนึ่ง ก็จะได้ชื่อว่า ไหว้พระ 2 แผ่นดิน ไทย-ลาว จึงขับตรงไปที่วัดแห่งนั้น ปรากฏว่า ในวัดนี้ มีสิ่งของที่ใหญ่โตมาก 2 อย่าง อยู่ในวัด เชิญชมภาพครับ :
เดี๋ยวนี้ทันสมัย มีบทสวดทั้งภาษาไทย ลาวและอังกฤษ ด้วย:
นี่ไงครับ 2 สิ่งที่ใหญ่โต:
ออกจากวัดพระธาตุสัจจะ เดินทางเข้าตัวเมือง ถึงแยกโลตัส เลี้ยวซ้ายตรงไป Le Bar Tarry รีสอร์ทที่ได้โทรจองไว้เมื่อเช้านี้อยู่ไม่ไกลนัก ตัวรีสอร์ทอยู่ซ้ายมือของถนนติดกับตลาดสด เลี้ยวเข้าไป check in ได้ห้องพัก จัดแจงธุระเสร็จสรรพก็ออกมานั่ง ชิว ๆ จนถึงอาหารค่ำ อาหารค่ำวันนี้ ฝากท้องกับกับข้าวง่าย ๆ ที่ห้องอาหารในรีสอร์ทนี่ ทั้งหมดแค่ 300 บาทเอง เจ้าของโรงแรมยังใจดี เอากล้วยน้ำว้าอวบอิ่มเหลืองอร่ามจากสวนมาให้ลองด้วย กล้วยสวนนี่ อร่อยจริง ๆ เนื้อแน่นเนียน เม็ดน้อย หวานสนิท เชิญชมภาพครับ :
ภาพอาคาร Le Bar Tarry ตอนพลบค่ำ:
ห้องพักเรียบแต่ดูสะอาดและกว้างขวาง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จำเป็นครบ และ
ก็มีแมลงบินเข้ามาในห้องบ้างตอนกลางคืนตามประสาโรงแรมที่ด้านหลังเป็นทุ่งนา:
อิ่มหนำแล้ว ต่างคนต่างรู้หน้าที่ เข้าห้องตัวเอง นอนหลับฝันดี
คราวหน้าเป็นตอนที่ 8..ด่านมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว
คราวหน้าจะข้ามน้ำข้ามทะเล (จริง ๆ เป็นแม่น้ำ) ไปฝั่งลาวและบอกวิธีการทำใบผ่านด่านให้ด้วย ไหว้พระวัดลาว จะได้ชื่อว่าไหว้พระ 2 แผ่นดิน ไทย-ลาวอย่างสมบูรณ์ ซื้อของปลอดภาษี ไปลอยแพห้วยกระทิง แล้วเดินทางไปพักที่เชียงคาน