ผมไม่รู้ว่ามีใครเคยสังเกตุ หรือมีการทดลองเรื่องนี้ไม๊
สมมุติฐานของผมคือ ฝันของคนเราสามารถติดต่อ เชื่อมโยงกับคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับทุกคนหรือทุกครั้ง
เหมือนคลื่นความถี่ที่ บังเอิญมีช่องสัญญาณตรงกันจึงรับข้อมูลได้ โดยเวลาตื่นร่างกายสามารถรับรู้ตามความจริงได้
แต่เวลาฝัน เป็นเรื่องของเราหรือเรื่องคนอื่นที่บังเอิญรับคลื่นได้ ปนเปกันแล้วสมองจึงมาแปลและสั่งงานอีกที
เนื่องจาก ความฝันของผมหลายครั้งจะ ปรากฏที่ๆไม่เคยไป เช่น โรงเรียน หรือสนามบอลแห่งหนึ่ง
อย่างเมื่อคืน ผมฝันว่ากำลังกินอาหารในร้านแห่งหนึ่ง เสร็จก็จะไปเข้าห้องน้ำ เป็นเหตุการณ์ธรรมดาที่เจอได้ในชีวิตจริง
แต่พอเดินไปห้องน้ำ กลายเป็นว่าผมต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ ของโรงเรียนๆหนึ่ง ที่มีเด็กรอกันเยอะ ติดโรงอาหาร
ซึ่งความฝันลักษณะที่ตัวผมไปโผล่โรงเรียนที่ไม่รู้จัก เคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจ เพิ่งมาสังเกตุครั้งนี้
เพราะมีเด็กนักเรียน บ้านติดๆกันหลายคน หลายหลัง ที่ผมอาจเข้าไปรับคลื่นความฝันเค้าได้แต่ในลักษณะที่ตัวผมเอง เป็นศูนย์กลาง
หรืออย่างเรื่อง การเข้าฝันของคนที่เสียไปแล้ว ในความเชื่อที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ก็อาจจะเป็นลักษณะนี้
เป็นช่องความถี่ หรือเป็นมิติของพลังงาน ที่สามารถเกิดการแทรกซ้อนได้ เดินทางได้ ไม่จำกัดแค่ในร่างกาย
ถ้าเราทำการเก็บข้อมูลมาศึกษา อาจจะเข้าใจเรื่องลึกลับบางอย่างได้
เข้าฝัน
สมมุติฐานของผมคือ ฝันของคนเราสามารถติดต่อ เชื่อมโยงกับคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับทุกคนหรือทุกครั้ง
เหมือนคลื่นความถี่ที่ บังเอิญมีช่องสัญญาณตรงกันจึงรับข้อมูลได้ โดยเวลาตื่นร่างกายสามารถรับรู้ตามความจริงได้
แต่เวลาฝัน เป็นเรื่องของเราหรือเรื่องคนอื่นที่บังเอิญรับคลื่นได้ ปนเปกันแล้วสมองจึงมาแปลและสั่งงานอีกที
เนื่องจาก ความฝันของผมหลายครั้งจะ ปรากฏที่ๆไม่เคยไป เช่น โรงเรียน หรือสนามบอลแห่งหนึ่ง
อย่างเมื่อคืน ผมฝันว่ากำลังกินอาหารในร้านแห่งหนึ่ง เสร็จก็จะไปเข้าห้องน้ำ เป็นเหตุการณ์ธรรมดาที่เจอได้ในชีวิตจริง
แต่พอเดินไปห้องน้ำ กลายเป็นว่าผมต้องไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ ของโรงเรียนๆหนึ่ง ที่มีเด็กรอกันเยอะ ติดโรงอาหาร
ซึ่งความฝันลักษณะที่ตัวผมไปโผล่โรงเรียนที่ไม่รู้จัก เคยเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจ เพิ่งมาสังเกตุครั้งนี้
เพราะมีเด็กนักเรียน บ้านติดๆกันหลายคน หลายหลัง ที่ผมอาจเข้าไปรับคลื่นความฝันเค้าได้แต่ในลักษณะที่ตัวผมเอง เป็นศูนย์กลาง
หรืออย่างเรื่อง การเข้าฝันของคนที่เสียไปแล้ว ในความเชื่อที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ก็อาจจะเป็นลักษณะนี้
เป็นช่องความถี่ หรือเป็นมิติของพลังงาน ที่สามารถเกิดการแทรกซ้อนได้ เดินทางได้ ไม่จำกัดแค่ในร่างกาย
ถ้าเราทำการเก็บข้อมูลมาศึกษา อาจจะเข้าใจเรื่องลึกลับบางอย่างได้