สวัสดีค่า เพื่อนๆ ทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เริ่มเขียนเลย หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
จะขอแนะนำที่เที่ยวในญี่ปุ่น อย่าเพิ่งเบื่อญี่ปุ่นกันนะคะ เพราะอยากจะพาไปที่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทย ก็คือ จังหวัดชิมาเนะค่ะ
ก็ขอแนะนำก่อนเลยว่า จังหวัดชิมาเนะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูโกคุ ซึ่งใกล้กับจังหวัดฮิโรชิม่า สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งจากจังหวัดฮิโรชิม่า หรือจากจังหวัดโอคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถบัสหรือชินคันเซ็นค่ะ
ในจังหวัดชิมาเนะนี้ จะมีจุดศูนย์กลางคือ เมืองมัตสึเอะ นักท่องเที่ยวสามารถพักที่เมืองนี้แล้วเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกที่สุดค่ะ
วันนี้มีแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งมาแนะนำ
ที่แรกกันเลยค่ะ
Yaegaki Shrine (ศาลเจ้ายาเอกาคิ ภ.ญี่ปุ่นเรียกว่า ยาเอกาคิ จินจะ)
ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านเสริมดวงความรักค่ะ คนญี่ปุ่นจึงนิยมมาขอพรด้านความรักกันจำนวนมาก
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว กิจกรรมยอดฮิตก็ต้องเป็นการทำนายดวงที่บ่อกระจกนี้เลยค่ะ
การทำนายก็จะใช้กระดาษทำนายวางลงไปในบ่อน้ำ และวางเหรียญ 10 เยนบนกระดาษ
หากกระดาษจมลงเร็ว (ประมาณไม่เกิน 15 นาที) ก็จะทำนายว่าได้พบเนื้อคู่เร็ว
หากจมลงช้า (ประมาณ 30 นาที) ก็จะทำนายว่าได้เจอเนื้อคู่ช้าค่ะ
หรือถ้ากระดาษจมลงใกล้ก็หมายความว่าจะได้พบรักกับคนใกล้ตัวค่ะ แต่ถ้าจมไกลออกไปก็หมายความว่าจะพบรักกับคนที่อยู่ห่างไกลค่ะ
การเดินทางไปยังศาลเจ้าก็ไม่ยากเลยค่ะ
นั่งรถบัสจากสถานี Matsue ไปลงปลายทางศาลเจ้ายาเอกาคิ ใช้เวลา 25 นาที
เวลาเข้าชม 9.00 - 17.00 น.
มาต่อกันที่ที่ 2 นะคะ Yuushien (ยูชิเอ็น) สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถชมสวนสวยที่มีดอกโบตั๋นกว่า 30,000 ต้น ให้ชมความงามได้ตลอดทั้งปี
สวนแห่งนี้เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อ 40 ปีก่อน สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมดอกโบตั๋นได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามมากที่สุด
ค่าเข้าชมสวน คนละ 800 เยน หากไปกันเป็นกรุ๊ป 20 คนขึ้นไปก็จะมีส่วนลดเหลือ 650 เยน
เวลาให้เข้าชม เดือนมีนาคม - ตุลาคม 8.30 -17.30 น.
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 8.30 - 17.00 น.
ที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำก็เป็นสวนเหมือนกันค่ะ แต่มีบริเวณที่ชมนกได้ด้วย
Matsue Vogel Park (ออกเสียงแบบญี่ปุ่น มัตสึเอะ โฟเกะรุ พาคุ) เป็นสวนในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ภายในสวนบานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และนอกจากนี้ยังมีสวนนกให้ได้ชมอีกด้วย
มีนกพันธุ์ที่หาชมยาก และมีมุมได้ใกล้ชิดกับนกด้วย
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เดือนเมษายน - กันยายน 9.00 - 17.30 และเดือนตุลาคม - มีนาคม 9.00 - 17.00
ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 1,080 เยนค่ะ (ถูกกว่าค่าเข้าของคนญี่ปุ่นอีก)
ครั้งที่ไปมา ต้องนั่งรถ 2 ต่อค่ะ
จากสถานี Matsue นั่งรถบัสไปลงที่สถานี Matsue shinjiko onsen Station แล้วนั่งรถไฟต่อไปลงสถานี Matsue Vogel Park ก็ถึงเลยค่ะ
รวมค่ารถแล้ว 620 เยนค่ะ
ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ มาแนะนำเพื่อนๆ ที่หาที่เที่ยวใหม่ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็แนะนำติชมได้นะคะ
[CR] Unseen Japan จังหวัด Shimane
จะขอแนะนำที่เที่ยวในญี่ปุ่น อย่าเพิ่งเบื่อญี่ปุ่นกันนะคะ เพราะอยากจะพาไปที่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทย ก็คือ จังหวัดชิมาเนะค่ะ
ก็ขอแนะนำก่อนเลยว่า จังหวัดชิมาเนะ ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูโกคุ ซึ่งใกล้กับจังหวัดฮิโรชิม่า สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งจากจังหวัดฮิโรชิม่า หรือจากจังหวัดโอคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถบัสหรือชินคันเซ็นค่ะ
ในจังหวัดชิมาเนะนี้ จะมีจุดศูนย์กลางคือ เมืองมัตสึเอะ นักท่องเที่ยวสามารถพักที่เมืองนี้แล้วเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกที่สุดค่ะ
วันนี้มีแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งมาแนะนำ
ที่แรกกันเลยค่ะ
Yaegaki Shrine (ศาลเจ้ายาเอกาคิ ภ.ญี่ปุ่นเรียกว่า ยาเอกาคิ จินจะ)
ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านเสริมดวงความรักค่ะ คนญี่ปุ่นจึงนิยมมาขอพรด้านความรักกันจำนวนมาก
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว กิจกรรมยอดฮิตก็ต้องเป็นการทำนายดวงที่บ่อกระจกนี้เลยค่ะ
การทำนายก็จะใช้กระดาษทำนายวางลงไปในบ่อน้ำ และวางเหรียญ 10 เยนบนกระดาษ
หากกระดาษจมลงเร็ว (ประมาณไม่เกิน 15 นาที) ก็จะทำนายว่าได้พบเนื้อคู่เร็ว
หากจมลงช้า (ประมาณ 30 นาที) ก็จะทำนายว่าได้เจอเนื้อคู่ช้าค่ะ
หรือถ้ากระดาษจมลงใกล้ก็หมายความว่าจะได้พบรักกับคนใกล้ตัวค่ะ แต่ถ้าจมไกลออกไปก็หมายความว่าจะพบรักกับคนที่อยู่ห่างไกลค่ะ
การเดินทางไปยังศาลเจ้าก็ไม่ยากเลยค่ะ
นั่งรถบัสจากสถานี Matsue ไปลงปลายทางศาลเจ้ายาเอกาคิ ใช้เวลา 25 นาที
เวลาเข้าชม 9.00 - 17.00 น.
มาต่อกันที่ที่ 2 นะคะ Yuushien (ยูชิเอ็น) สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถชมสวนสวยที่มีดอกโบตั๋นกว่า 30,000 ต้น ให้ชมความงามได้ตลอดทั้งปี
สวนแห่งนี้เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อ 40 ปีก่อน สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมดอกโบตั๋นได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิจะสวยงามมากที่สุด
ค่าเข้าชมสวน คนละ 800 เยน หากไปกันเป็นกรุ๊ป 20 คนขึ้นไปก็จะมีส่วนลดเหลือ 650 เยน
เวลาให้เข้าชม เดือนมีนาคม - ตุลาคม 8.30 -17.30 น.
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 8.30 - 17.00 น.
ที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำก็เป็นสวนเหมือนกันค่ะ แต่มีบริเวณที่ชมนกได้ด้วย
Matsue Vogel Park (ออกเสียงแบบญี่ปุ่น มัตสึเอะ โฟเกะรุ พาคุ) เป็นสวนในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ภายในสวนบานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และนอกจากนี้ยังมีสวนนกให้ได้ชมอีกด้วย
มีนกพันธุ์ที่หาชมยาก และมีมุมได้ใกล้ชิดกับนกด้วย
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เดือนเมษายน - กันยายน 9.00 - 17.30 และเดือนตุลาคม - มีนาคม 9.00 - 17.00
ค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 1,080 เยนค่ะ (ถูกกว่าค่าเข้าของคนญี่ปุ่นอีก)
ครั้งที่ไปมา ต้องนั่งรถ 2 ต่อค่ะ
จากสถานี Matsue นั่งรถบัสไปลงที่สถานี Matsue shinjiko onsen Station แล้วนั่งรถไฟต่อไปลงสถานี Matsue Vogel Park ก็ถึงเลยค่ะ
รวมค่ารถแล้ว 620 เยนค่ะ
ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ มาแนะนำเพื่อนๆ ที่หาที่เที่ยวใหม่ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็แนะนำติชมได้นะคะ