คนที่เรียนการถ่ายภาพโดยตรง แตกต่างกับ คนที่เล่นกล้องทั่วๆไปยังไงครับ

คือตอนนี้ผมเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กๆ ว่าสมัยนี้คนที่มีกล้องหลายๆท่าน ก็ถ่ายรูปออกมาได้สวย แล้วคนที่เรียนพวกศิลปะการถ่ายภาพนี่มีอะไรพิเศษนอกเหนือจากคนที่ใช้กล้องทั่วๆไปยังไงครับ เพราะเห็นหลายๆท่านที่รับงาน ก็ฝึกฝนเองจนชำนาญ ซ้ำยังไม่ได้เรียนคณะนี้ ก็ถ่ายรูปได้สวยๆทั้งนั้นเลย

ปล.คือตอนนี้ผมอยากเรียนการถ่ายภาพอะครับ
ที่มองไว้มี วิจิตรศิลป์ มช กับ นิเทศศิลป์ ลาดกระบัง

ขอขอบคุณ พี่ ป้า น้า อา ที่มาตอบทุกๆคนครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
อันดับแรก ตัดทิ้งประโยคไอ้พวก "ไม่เรียน แต่ทำเงินได้เป็นแสน ๆ" ก่อนนะครับ อันนั้นไม่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องความจำเป็นของการเรียนหรือไม่เรียน มันเป็นเรื่องของการหาเงิน ทำมาหากินหาเลี้ยงชีพ คนไม่เคยเรียนหนังสือก็รวยเป็นพันล้านได้ครับ ถ้าเค้ามีวิธีของเค้า




ชีวิตที่ผ่านมาของผม เบื่อที่สุดกับประโยคทำนองว่า "ศึกษาเอาเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียน" คำพูดนี้เจอในหลากหลายอาชีพมากครับ
ส่วนตัวผมมองว่าเป็นประโยคปลอบใจตัวเองของคนบางจำพวกมากกว่า ส่วนใหญ่มักมาจากคนที่รู้เพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของศาสตร์วิชาแล้วยกหางตัวเองว่ามันคือสิ่งสุดยอด

ในทุก ๆ ศาสตร์ ตัวความรู้มันประกอบไปด้วยสองส่วนนั่นคือ คือ 1. ทฤษฏี  2. ปฏิบัติ

ผมจะข้ามไม่พูดถึงเรื่องประโยชน์ของการได้เรียนรู้อย่างเป็นแบบแผน, วินัยที่ได้จากการเรียน, โอกาสที่เข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ นะครับ อันนั้นเป็นเรื่องพื้น ๆ ที่การเรียนอย่างถูกต้องย่อมให้มาอยู่แล้ว
แต่ผมจะพูดเพียงแค่ว่า อารยธรรมของมนุษย์ที่สืบต่อกันมาถึงทุกวันนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการ "ส่งต่อความรู้" มากกว่า "ตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง"
มีมนุษย์ไม่กี่คนบนโลก ที่อาศัยเพียงการปฏิบัติ ฝึกฝนด้วยตนเองจนเกิดศาสตร์ความรู้ใหม่ และถ้ามี,คนๆนั้นก็อาจใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะบรรลุศาสตร์นั้น ๆ ซึ่งผมมองว่าเราจะไปทำซ้ำในสิ่งที่เค้าทำมาแล้วทำไมครับ

ดังนั้น คำว่า "การเรียน" ในมุมมองของผมคือ การย่อและเรียบเรียงศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันให้คุณได้รับรู้, เลือกใช้ และต่อยอดไปในทางของคุณเอง
ในขณะคำว่า "เรียนรู้ด้วยตัวเอง" ในมุมมองของผมคือ เป็นการเรียนรู้ที่ประหยัด แต่ใช้เวลามาก เพื่อแลกกับความรู้ที่ได้ โดยความรู้ที่ได้นั้นก็ไม่อาจแน่ใจโดยเสมอไปว่าถูก อีกทั้งการต่อยอดความรู้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 36
ผมมองว่างี้นะ

สมมุติ คุณไปเรียน คณะเจียวไข่
คุณจะได้เรียน
- ต้นทางของไข่ มีที่มาอย่างไร
- ไข่มีกี่ประเภท เลือกใช้อย่างไร
- วิธีคัดเลือกไข่ ที่เหมาะสมกับการเจียว
- วิธีการเจียว การเลือกใช้อุณหภูมิในการเจียว ปริมาณน้ำมันใจการเจียว
- วิธีการกลับด้านไข่ ทำอย่างไรให้สวยงามน่าทาน
- ไข่เจียวประยุกต์
คือปูตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงการประยุกต์ใช้  และแต่ละเรื่องที่เรียน ต้องผ่านการทำซ้ำๆ ฝึกฝน จนชำนาญ

ขณะที่ คุณเรียนวิธีเจียวไข่จากกูเกิ้ล หรือหัดเอง
คุณจะได้แค่ วิธีเจียวไข่ ที่ต้องทำตามขั้นตอน 1...2.....3....4...5....

ทั้งสองคนเจียวไข่ได้เหมือนกัน
แต่ไข่เจียวของคนแรกจะมีลูกเล่นมากกว่า  
สามารถคุมได้ว่า ต้องการไข่เจียวที่ฟู  ไข่เจียวหนานุ่ม ไข่เจียวบางกรอบ หรือทำไข่เจียวที่มากกว่าไข่เจียวออกมาได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่