การร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 4 Take Over Deals และ 6 Joint Venture Deals
รวมถึงมีอีก 3 Deals ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต / Take Over รวม 4 ดีล มูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท
1. Property Perfect ซื้อกิจการ Thai Property
Image : Height Sukhumvit, Thai Property
เพอร์เฟคเทคโอเวอร์ไทยพร็อพ โดยการแลกหุ้นเพิ่มทุน อัตรา 2 หุ้นไทยพร็อพต่อ 1 หุ้นเพอร์เฟค พร้อมประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลล์ อัตรา 114 หุ้นแกรนด์ต่อ 131 หุ้นเพอร์เฟค คาดว่าจะใช้เงินในการลงทุนรวม 3.9 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.07 หมื่นล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์มองบริษัทต้องการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รายงานระบุว่า มูลค่าการทำรายการในครั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินมูลค่ารวม 3.9 พันล้านบาท โดยใช้สำหรับการซื้อกิจการบริษัทไทยพร็อพ ประมาณ 1.8 พันล้านบาท และลงทุนบริษัทแกรนด์ 2.14 พันล้านบาท
Info : Bangkok Biz News
2. กลุ่ม Singha ซื้อกิจการ Rasa Property และเตรียมจะ take over อีก 1 บริษัท
Image : Singha Complex, Singha Estate
- แผนการรวมธุรกิจของ บ.รสา กับ บ.สันติบุรี (จากสันติ ภิรมย์ภักดี) และ บ.เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ (จากสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์)
- ทุนจดทะเบียน บ.รสา เพิ่มจาก 550 ลบ. เป็น 4,712 ลบ. โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 4,162 หุ้น และขายสิงห์หุ้นละ 1.87 บาท มูลค่ารวม 7,784 ลบ.
- ทำไมต้อง บ.รสา? บ.รสาเป็น บ.ขนาดเล็ก ราคาหุ้นยังไม่แพง มีโครงการน้อย สะดวกในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ
- แนวทางธุรกิจหลังควบรวม จะเริ่มจากอสังหาฯให้เช่า เน้น โรงแรม ออฟฟิศ คอมเมอเชียล เนื่องจากมีที่ดินที่มีศักยภาพ เช่น ที่ดินสถานฑูตญี่ปุ่นเดิม แยกอโศก-เพชรบุรี
Info : Prachachat Online (21-23 Apr 2014)
3. Golden Land ซื้อกิจการ K Land
Image : Sathorn Square, K Land
คณะกรรมการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำการซื้อหุ้นของบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ KLAND เป็นจำนวน 1,780 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้น KLAND ทั้งหมด มูลค่าประมาณ 3,560 ล้านบาท หรือ 2 บาทต่อหุ้น โดยมีมติซื้อหุ้นจากบริษัท SMJC จำนวน 699,998,060 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 39.33 ในราคา 2 บาทต่อหุ้น และจะทำการเสนอซื้อหุ้น KLAND จากผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดในลำดับต่อไป ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้ GOLD เป็นผู้ถือหุ้น KLAND ร้อยละ 100 ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีเงื่อนไขว่าการเข้าทำรายการครั้งนี้ GOLD จะต้องถือหุ้นใน KLAND ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติให้จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT อาคารสำนักงานเกรดเอขึ้น โดยจะนำ อาคารสาทรสแควร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ศักยภาพสูงตั้งอยู่ใจกลางเขตธุรกิจของกรุงเทพฯ เข้าจัดตั้งกองทุน REIT พร้อมกับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ที่จะนำอาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ เข้าร่วมจัดตั้งในกองทุนนี้ด้วย โดยมูลค่ารวมกว่า10,000 ล้านบาท และคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้เข้าทำการเข้าจองซื้อหน่วยลงทุนในกอง REIT ในจำนวนไม่เกินร้อยละ 30 ของของหน่วยทรัสต์ที่ออกเสนอขายแก่ผู้ลงทุน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจใหกับผู้ลงทุน
4. WHA ซื้อกิจการ Hemaraj
Image : Hemaraj
นายสมยศ อนันตประยูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามซื้อหุ้น บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2557 หลังจากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 8,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 3,580 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2558 และต่อด้วยการทำกระบวนการซื้อหุ้นทั้งหมดโดยสมัครใจ (VTO) ที่คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนมี.ค.2558
สำหรับการเข้าซื้อหุ้น HEMRAJ จะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ จะทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีแหล่งรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องมากขึ้น และจะทำให้รายได้และกำไรเติบโตเท่าตัว เมื่อเทียบปี 2556 ที่มีรายได้ 7,000 ล้านบาท และกำไร 1,460 ล้านบาท.
Info : Thai Post (18 Nov 2014)
Joint Venture 8.2 หมื่นล้านบาท
5. Sansiri + BTS Group Holdings
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ แสนสิริ มีมูลค่าสินทรัพย์รวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท
“ถ้าแสนสิริเข้าหุ้นกับใครยืนยันว่าไม่ได้มองแค่เรื่องเงินทุน เพราะเชื่อว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯทุกรายสามารถระดมทุนเองได้ การที่แสนสิริร่วมทุนกับบีทีเอสกรุ๊ปฯต้องมีอะไรที่ซินเนอร์ยี่ หรือเสริมซึ่งกันและกันได้มากกว่าแค่เงินทุน” คำกล่าวของเศรษฐา เพราะถ้ามองภาพรวมอสังหาฯหลายเดือนที่ผ่านมา วงการอสังหาฯเป็นเกมของรายใหญ่ เช่น กลุ่มเบียร์สิงห์, เจ้าสัวเบียร์ช้าง ฯลฯ ต่อไปถ้าไม่ใหญ่จริงก็อยู่ยาก ถ้าต้องการโตข้ามรุ่นก็ต้องหาพันธมิตรควบรวมกิจการ โฟกัสที่ดีลร่วมทุน “แสนสิริ-บีทีเอส” สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการร่วมมือพัฒนาคอนโดฯรัศมี 500 เมตรจากรถไฟฟ้าปัจจุบันและอนาคต เงื่อนไขต้องเป็นโครงการที่มีมูลค่าขายขั้นต่ำ 3 พันล้านบาท โดยจะพัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนที่เตรียมจดทะเบียนใหม่เร็ว ๆ นี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมเงินลงทุนฝั่งละ 5 พันล้านบาท รวมเป็น 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะพัฒนาโครงการรวมมูลค่าได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และอนาคตยังมีแผนพัฒนาโครงการร่วมกันอีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ โดยแสนสิริ-บีทีเอสจะใส่เงินก้อนแรกฝั่งละ 600 ล้านบาท รวมเป็น 1.2 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาคอนโดฯโครงการบนที่ดิน 5 ไร่ ใกล้บีทีเอสหมอชิต ซึ่งปัจจุบันเป็นลานจอดรถและบางส่วนให้แบงก์อิสลามฯเช่าพื้นที่
โปรเจ็กต์แรก จะพัฒนาเป็นคอนโดฯ 900 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 6 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยยูนิตละกว่า 6 ล้านบาท ส่วนเรื่องราคาขายต่อตารางเมตร ส่วนความร่วมมือในอนาคต ต้องมองไปที่พอร์ตที่ดินของบีทีเอสที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าปัจจุบันและส่วนต่อขยายในอนาคต อาทิ ที่ดินใกล้บีทีเอสหมอชิต 16 ไร่ จะตัดที่ดิน 5 ไร่ ให้บริษัทร่วมทุนแสนสิริพัฒนา, ที่ดินติดบีทีเอสพญาไท 4 ไร่ ซึ่งจะต้องให้ขั้นตอนการควบรวมกิจการกับเอ็นพาร์คแล้วเสร็จ จึงค่อยพิจารณาว่าจะซื้อที่ดินจากเอ็นพาร์คมาพัฒนาหรือไม่ 3)อาคารสร้างค้างอีก 2 ตึก ในโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค จำนวน 2 พันยูนิตเศษ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีที่ดินในโครงการธนาซิตี้ บางนา กม.13-14 อีกเกือบ 400 ไร่
Info : Prahcachat Online (20 Oct 2014)
6. Natural Park + BTS Group
ย้อนไป 4 ปีก่อนได้หวนคืนวงการพัฒนาที่ดินอีกครั้ง ผ่านบริษัทลูก “บีทีเอส แอสเสทส์” เปิดตัวคอนโดฯโครงการแรก…แอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค เฟส 1 เมื่อปี”53 ชูจุดขายรับบัตรโดยสารรถไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งในอดีตโครงการนี้เคยเป็นของ บมจ.แนเชอรัล พาร์คมาก่อน แต่งานนี้ไม่ถึงกับแจ้งเกิดได้เปรี้ยงปร้างแบบที่ “คีรี กาญจนพาสน์” นายใหญ่บีทีเอสคาดหวัง กระทั่งล่าสุด “เสี่ยคีรี” เดินเกมแลกหุ้นในบีทีเอส แอสเสทส์ 100% ให้กับ เอ็นพาร์ค-บมจ.แนเชอรัล พาร์ค
Info : Prahcachat Online (20 Oct 2014)
7. Thanasiri + Isan Piman
บมจ.ธนาสิริกรุ๊ป ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมทุนกับบริษัท อีสาน พิมาน กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาฯท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “พิมานสิริ” มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาฯในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มต้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยอีสาน พิมาน กรุ๊ป ทำธุรกิจอสังหาฯในจังหวัดขอนแก่นมากว่า 30 ปี พัฒนาบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 40-50 โครงการ ขณะที่ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป เป็นบริษัทอสังหาฯขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ต้องการยกระดับเพื่อแข่งขัน กับรายใหญ่
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ซื้อที่ดินแปลงแรกในจังหวัดอุดรธานี เนื้อที่ 50 ไร่ จะแบ่งเฟสแรก 25 ไร่ เริ่มพัฒนาปีหน้า วางแผนเปิดตัวเป็นโครงการบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท รวมประมาณ 100 แปลง มูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท
Info : Prachachat Online (1 Dec 2014)
8. AP + Mitsubishi
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาจะมีหลากหลายปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ในทางกลับกันบริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) องค์กรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงนามในสัญญาร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ RHYTHM อโศก II RHYTHM สุขุมวิท 36 – 38 และ Aspire รัชดา – วงศ์สว่าง มูลค่ากว่า 7,150 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยมูลค่ายอดขายรวมกว่า 3,700 ล้านบาท
ล่าสุด เพื่อสานต่อการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทาง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) วันนี้ (13 สิงหาคม 2557) คณะกรรมการบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติการเข้าร่วมทุน (Joint Venture) กับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) โดยจะเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยการลงนามในสัญญาร่วมทุนครั้งใหม่นี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม 2557 เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันจำนวน 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวประมาณช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการร่วมทุนอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำภาพการเป็นพันธมิตรระยะยาวระหว่าง AP และ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ตลอดจนความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพและบรรษัทภิบาลขององค์กร และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในสายตานักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาผ่าน บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ จำกัด อันเป็นบริษัทย่อยซึ่งเดิมบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 และหลังจากการลงนามครั้งนี้ บริษัทจะถือหุ้นในอัตราส่วนร้อยละ AP 51% : บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป 49%
Info : Yusabuy (19 Aug 2014)
9. CP Group + Magnolia + Siampiwat
กลุ่ม ซี.พี.จับมือสยามพิวรรธน์ สัดส่วนลงทุน 50:50 ลงทุนอภิมหาโปรเจกต์ “ไอคอนสยาม” บนเนื้อที่ 50 ไร่ ถ.เจริญนคร มูลค่าลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 2 ศูนย์การค้าหรู พื้นที่ 5.25 แสนตร.ม.-แมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเด้นท์ คอนโดฯ หรู 440 ยูนิต มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมเปิดให้บริการปี 60 แบงก์กสิกรไทย-ธนชาต ร่วมปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้าน
Info : Siampiwat
10.Supalai + Satterley Property Group
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้ขยายพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศด้วยการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของออสเตรเลีย “แซทเทอร์ลีย์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป” ( Satterley Property Group) ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยมีโครงการนำร่องเป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการในกรุงเมลเบิร์น ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดของชื่อโครงการยังไม่ได้สรุป ณ ตอนนี้
Info : DD Property (30 Oct 2014)
Credit : www.realist.co.th
ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่
Thinkvestment Fanpage :
https://www.facebook.com/thinkvestment
ดีลอสังหาฯแห่งปี 2014
การร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 4 Take Over Deals และ 6 Joint Venture Deals
รวมถึงมีอีก 3 Deals ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต / Take Over รวม 4 ดีล มูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท
1. Property Perfect ซื้อกิจการ Thai Property
Image : Height Sukhumvit, Thai Property
เพอร์เฟคเทคโอเวอร์ไทยพร็อพ โดยการแลกหุ้นเพิ่มทุน อัตรา 2 หุ้นไทยพร็อพต่อ 1 หุ้นเพอร์เฟค พร้อมประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลล์ อัตรา 114 หุ้นแกรนด์ต่อ 131 หุ้นเพอร์เฟค คาดว่าจะใช้เงินในการลงทุนรวม 3.9 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.07 หมื่นล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์มองบริษัทต้องการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รายงานระบุว่า มูลค่าการทำรายการในครั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินมูลค่ารวม 3.9 พันล้านบาท โดยใช้สำหรับการซื้อกิจการบริษัทไทยพร็อพ ประมาณ 1.8 พันล้านบาท และลงทุนบริษัทแกรนด์ 2.14 พันล้านบาท
Info : Bangkok Biz News
2. กลุ่ม Singha ซื้อกิจการ Rasa Property และเตรียมจะ take over อีก 1 บริษัท
Image : Singha Complex, Singha Estate
- แผนการรวมธุรกิจของ บ.รสา กับ บ.สันติบุรี (จากสันติ ภิรมย์ภักดี) และ บ.เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ (จากสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์)
- ทุนจดทะเบียน บ.รสา เพิ่มจาก 550 ลบ. เป็น 4,712 ลบ. โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 4,162 หุ้น และขายสิงห์หุ้นละ 1.87 บาท มูลค่ารวม 7,784 ลบ.
- ทำไมต้อง บ.รสา? บ.รสาเป็น บ.ขนาดเล็ก ราคาหุ้นยังไม่แพง มีโครงการน้อย สะดวกในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ
- แนวทางธุรกิจหลังควบรวม จะเริ่มจากอสังหาฯให้เช่า เน้น โรงแรม ออฟฟิศ คอมเมอเชียล เนื่องจากมีที่ดินที่มีศักยภาพ เช่น ที่ดินสถานฑูตญี่ปุ่นเดิม แยกอโศก-เพชรบุรี
Info : Prachachat Online (21-23 Apr 2014)
3. Golden Land ซื้อกิจการ K Land
Image : Sathorn Square, K Land
คณะกรรมการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 อนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำการซื้อหุ้นของบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ KLAND เป็นจำนวน 1,780 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้น KLAND ทั้งหมด มูลค่าประมาณ 3,560 ล้านบาท หรือ 2 บาทต่อหุ้น โดยมีมติซื้อหุ้นจากบริษัท SMJC จำนวน 699,998,060 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 39.33 ในราคา 2 บาทต่อหุ้น และจะทำการเสนอซื้อหุ้น KLAND จากผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดในลำดับต่อไป ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้ GOLD เป็นผู้ถือหุ้น KLAND ร้อยละ 100 ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีเงื่อนไขว่าการเข้าทำรายการครั้งนี้ GOLD จะต้องถือหุ้นใน KLAND ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติให้จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT อาคารสำนักงานเกรดเอขึ้น โดยจะนำ อาคารสาทรสแควร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ศักยภาพสูงตั้งอยู่ใจกลางเขตธุรกิจของกรุงเทพฯ เข้าจัดตั้งกองทุน REIT พร้อมกับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ที่จะนำอาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ เข้าร่วมจัดตั้งในกองทุนนี้ด้วย โดยมูลค่ารวมกว่า10,000 ล้านบาท และคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้เข้าทำการเข้าจองซื้อหน่วยลงทุนในกอง REIT ในจำนวนไม่เกินร้อยละ 30 ของของหน่วยทรัสต์ที่ออกเสนอขายแก่ผู้ลงทุน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจใหกับผู้ลงทุน
4. WHA ซื้อกิจการ Hemaraj
Image : Hemaraj
นายสมยศ อนันตประยูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามซื้อหุ้น บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2557 หลังจากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 8,800 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 3,580 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2558 และต่อด้วยการทำกระบวนการซื้อหุ้นทั้งหมดโดยสมัครใจ (VTO) ที่คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนมี.ค.2558
สำหรับการเข้าซื้อหุ้น HEMRAJ จะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ จะทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีแหล่งรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องมากขึ้น และจะทำให้รายได้และกำไรเติบโตเท่าตัว เมื่อเทียบปี 2556 ที่มีรายได้ 7,000 ล้านบาท และกำไร 1,460 ล้านบาท.
Info : Thai Post (18 Nov 2014)
Joint Venture 8.2 หมื่นล้านบาท
5. Sansiri + BTS Group Holdings
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ แสนสิริ มีมูลค่าสินทรัพย์รวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท
“ถ้าแสนสิริเข้าหุ้นกับใครยืนยันว่าไม่ได้มองแค่เรื่องเงินทุน เพราะเชื่อว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯทุกรายสามารถระดมทุนเองได้ การที่แสนสิริร่วมทุนกับบีทีเอสกรุ๊ปฯต้องมีอะไรที่ซินเนอร์ยี่ หรือเสริมซึ่งกันและกันได้มากกว่าแค่เงินทุน” คำกล่าวของเศรษฐา เพราะถ้ามองภาพรวมอสังหาฯหลายเดือนที่ผ่านมา วงการอสังหาฯเป็นเกมของรายใหญ่ เช่น กลุ่มเบียร์สิงห์, เจ้าสัวเบียร์ช้าง ฯลฯ ต่อไปถ้าไม่ใหญ่จริงก็อยู่ยาก ถ้าต้องการโตข้ามรุ่นก็ต้องหาพันธมิตรควบรวมกิจการ โฟกัสที่ดีลร่วมทุน “แสนสิริ-บีทีเอส” สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการร่วมมือพัฒนาคอนโดฯรัศมี 500 เมตรจากรถไฟฟ้าปัจจุบันและอนาคต เงื่อนไขต้องเป็นโครงการที่มีมูลค่าขายขั้นต่ำ 3 พันล้านบาท โดยจะพัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุนที่เตรียมจดทะเบียนใหม่เร็ว ๆ นี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมเงินลงทุนฝั่งละ 5 พันล้านบาท รวมเป็น 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะพัฒนาโครงการรวมมูลค่าได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และอนาคตยังมีแผนพัฒนาโครงการร่วมกันอีกอย่างน้อย 2-3 โครงการ โดยแสนสิริ-บีทีเอสจะใส่เงินก้อนแรกฝั่งละ 600 ล้านบาท รวมเป็น 1.2 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาคอนโดฯโครงการบนที่ดิน 5 ไร่ ใกล้บีทีเอสหมอชิต ซึ่งปัจจุบันเป็นลานจอดรถและบางส่วนให้แบงก์อิสลามฯเช่าพื้นที่
โปรเจ็กต์แรก จะพัฒนาเป็นคอนโดฯ 900 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 6 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยยูนิตละกว่า 6 ล้านบาท ส่วนเรื่องราคาขายต่อตารางเมตร ส่วนความร่วมมือในอนาคต ต้องมองไปที่พอร์ตที่ดินของบีทีเอสที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าปัจจุบันและส่วนต่อขยายในอนาคต อาทิ ที่ดินใกล้บีทีเอสหมอชิต 16 ไร่ จะตัดที่ดิน 5 ไร่ ให้บริษัทร่วมทุนแสนสิริพัฒนา, ที่ดินติดบีทีเอสพญาไท 4 ไร่ ซึ่งจะต้องให้ขั้นตอนการควบรวมกิจการกับเอ็นพาร์คแล้วเสร็จ จึงค่อยพิจารณาว่าจะซื้อที่ดินจากเอ็นพาร์คมาพัฒนาหรือไม่ 3)อาคารสร้างค้างอีก 2 ตึก ในโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค จำนวน 2 พันยูนิตเศษ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีที่ดินในโครงการธนาซิตี้ บางนา กม.13-14 อีกเกือบ 400 ไร่
Info : Prahcachat Online (20 Oct 2014)
6. Natural Park + BTS Group
ย้อนไป 4 ปีก่อนได้หวนคืนวงการพัฒนาที่ดินอีกครั้ง ผ่านบริษัทลูก “บีทีเอส แอสเสทส์” เปิดตัวคอนโดฯโครงการแรก…แอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค เฟส 1 เมื่อปี”53 ชูจุดขายรับบัตรโดยสารรถไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งในอดีตโครงการนี้เคยเป็นของ บมจ.แนเชอรัล พาร์คมาก่อน แต่งานนี้ไม่ถึงกับแจ้งเกิดได้เปรี้ยงปร้างแบบที่ “คีรี กาญจนพาสน์” นายใหญ่บีทีเอสคาดหวัง กระทั่งล่าสุด “เสี่ยคีรี” เดินเกมแลกหุ้นในบีทีเอส แอสเสทส์ 100% ให้กับ เอ็นพาร์ค-บมจ.แนเชอรัล พาร์ค
Info : Prahcachat Online (20 Oct 2014)
7. Thanasiri + Isan Piman
บมจ.ธนาสิริกรุ๊ป ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมทุนกับบริษัท อีสาน พิมาน กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาฯท้องถิ่นในจังหวัดขอนแก่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “พิมานสิริ” มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาฯในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มต้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยอีสาน พิมาน กรุ๊ป ทำธุรกิจอสังหาฯในจังหวัดขอนแก่นมากว่า 30 ปี พัฒนาบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 40-50 โครงการ ขณะที่ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป เป็นบริษัทอสังหาฯขนาดกลางในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ต้องการยกระดับเพื่อแข่งขัน กับรายใหญ่
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ซื้อที่ดินแปลงแรกในจังหวัดอุดรธานี เนื้อที่ 50 ไร่ จะแบ่งเฟสแรก 25 ไร่ เริ่มพัฒนาปีหน้า วางแผนเปิดตัวเป็นโครงการบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท รวมประมาณ 100 แปลง มูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท
Info : Prachachat Online (1 Dec 2014)
8. AP + Mitsubishi
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาจะมีหลากหลายปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่ในทางกลับกันบริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) องค์กรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ร่วมลงนามในสัญญาร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ RHYTHM อโศก II RHYTHM สุขุมวิท 36 – 38 และ Aspire รัชดา – วงศ์สว่าง มูลค่ากว่า 7,150 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยมูลค่ายอดขายรวมกว่า 3,700 ล้านบาท
ล่าสุด เพื่อสานต่อการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทาง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) วันนี้ (13 สิงหาคม 2557) คณะกรรมการบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติการเข้าร่วมทุน (Joint Venture) กับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group) โดยจะเข้าทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยการลงนามในสัญญาร่วมทุนครั้งใหม่นี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม 2557 เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันจำนวน 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวประมาณช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการร่วมทุนอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำภาพการเป็นพันธมิตรระยะยาวระหว่าง AP และ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ตลอดจนความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพและบรรษัทภิบาลขององค์กร และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในสายตานักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมกันพัฒนาผ่าน บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ จำกัด อันเป็นบริษัทย่อยซึ่งเดิมบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 และหลังจากการลงนามครั้งนี้ บริษัทจะถือหุ้นในอัตราส่วนร้อยละ AP 51% : บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป 49%
Info : Yusabuy (19 Aug 2014)
9. CP Group + Magnolia + Siampiwat
กลุ่ม ซี.พี.จับมือสยามพิวรรธน์ สัดส่วนลงทุน 50:50 ลงทุนอภิมหาโปรเจกต์ “ไอคอนสยาม” บนเนื้อที่ 50 ไร่ ถ.เจริญนคร มูลค่าลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 2 ศูนย์การค้าหรู พื้นที่ 5.25 แสนตร.ม.-แมกโนเลีย วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเด้นท์ คอนโดฯ หรู 440 ยูนิต มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมเปิดให้บริการปี 60 แบงก์กสิกรไทย-ธนชาต ร่วมปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้าน
Info : Siampiwat
10.Supalai + Satterley Property Group
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้ขยายพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศด้วยการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของออสเตรเลีย “แซทเทอร์ลีย์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป” ( Satterley Property Group) ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยมีโครงการนำร่องเป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการในกรุงเมลเบิร์น ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดของชื่อโครงการยังไม่ได้สรุป ณ ตอนนี้
Info : DD Property (30 Oct 2014)
Credit : www.realist.co.th
ติดตามข่าวสารและเรื่องราวของการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่
Thinkvestment Fanpage : https://www.facebook.com/thinkvestment