ความเดิมตอนที่แล้ว
Part 1 เที่ยวรอบโตเกียว 7 วัน 7 คืน ด้วยงบ 35,000 บาท :
http://ppantip.com/topic/33127518
Part 2 B-mobile, Skyliner, Vessel inn ueno และ Tokyo tower :
http://ppantip.com/topic/33131081
Part 3 เดิมเต็มความฝันวัยเด็กที่ Odaiba, ไปดู Gundam และ Onepiece :
http://ppantip.com/topic/33141110
หลังจากใช้บริการทัวร์เสริม(Retime) จาก Airasia X เดินเล่นและนอนเล่นในสนามบิน KLIA2 จนหนำใจแล้ว ก็ออกเดินทาง การเดินทางใช้เวลาประมาณ 7 ชม. ครับ กว่าจะถึงสนามบินนาริตะก็เที่ยวพอดี แผนที่วางไว้ว่าจะตะลุยโตเกียวตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเป็นอันว่าพัง ผมมีสิ่งที่ต้องทำที่สนามบินนาริตะ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือไปรับซิมสำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตที่เค้าท์เตอร์ไปรษณีย์ และซื้อตั๋วรถไฟ Skyliner สำหรับไปและกลับสนามบิน
ก่อนอื่นผมจะพูดถึงเรื่องซิมการ์ดก่อน จริงๆทางเลือกสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่นที่นิยมกันมีอยู่ 2 วิธี คือเช่า Pocket wifi และ ซื้อ Internet Sim ขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ
1. Pocket Wifi : ง่ายมันก็คืออุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Wifi แบบพกติดตัวนั่นเองครับ ข้อดีของมันก็คือสามารถใช้งานได้หลายคน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ให้ใช้งาน Internet ได้ไม่จำกัด ข้อเสียคือ ต้องเดินอยู่ใกล้ๆกันในระยะที่สัญญาณส่งถึง และ เช่ามาแล้วต้องส่งคืนส่วนใหญ่ต้องส่งคืนทางไปรษณีย์ครับ ส่วนราคคาจะอยู่ที่ประมาณ 200 - 300 บาทต่อวัน แล้วแต่แพคเกจ และผู้ให้บริการครับ
ผู้ให้บริการที่นิยมกันคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ HIS : http://goo.gl/jNeYOF
Samurai : http://www.bs-mobile.jp/th/
2. Prepaid Internet Sim : มันคือ Simcard ธรรมดาๆนี่แหละครับ แต่เอาไว้ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างเดียว โทรออกไม่ได้ ซิมก็จะมีหลายแบบทั้งใช้งานได้ไม่จำกัด (แต่จำกัดความเร็วสูงสุด) หรือใช้ความเร็วไม่จำกัด (แต่จำกัดปริมาณข้อมูล) ทั้งนี้ซิมก็จะมีวันหมดอายุของมันครับว่าใช้ได้กี่วัน(ต่อได้โดยการซื้อแพคเกจเพิ่ม) ข้อดีคือใช้งานง่ายเหมือนใช้โทรศัพท์ทั่วไป เสียบซิมเข้ามือถือ ตั้งค่า APN จบ ไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมอะไรให้วุ่นวาย และไม่ต้องคืน ไม่ต้องรักษาให้ยุ่งยาก ข้อเสียคือถ้าใช้ 3G/4G แบตมันจะหมดไวกว่าใช้ Wifi และเล่นได้แค่เครื่องเดียว แชร์ต่อไม่ได้ (มือถือแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน บางรุ่นอาจจะแชร์ได้) ราคาก็จะมีตั้งแต่ 1000 บาทขึ้นไปครับ ผู้ให้บริการที่นิยมคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้B-mobile : http://www.bmobile.ne.jp/english/
iWifi : http://iwifi.jp/simcard.php?lang=th&id_sale=his
จากการพิจารณาทั้งหมดผมเลือกใช้บริการ Visitor Sim ของ B-mobile เพราะต้องการความสะดวก ไม่ต้องรักษา ใช้เสร็จทิ้งได้เลย ไม่ต้องทำเรื่องต่างๆให้ยุ่งยากครับ การสั่งซื้อสามารถทำได้ล่วงหน้า 7 วัน และสามารถเลือกได้ว่าจะให้ส่งไปที่สนามบิน หรือที่โรงแรมครับ ผมเลือกแพคเกจ 1 GB สำหรับใช้งานได้ 14 วัน ในราคา 4300 Yen รวมภาษีและค่าส่ง
1. เริ่มต้นเราก็เข้าไปในเว็บไซต์ B-mobile กันก่อนเลยครับ :
http://www.bmobile.ne.jp/english ก็กดเข้าไปที่ Online store หรือเลือก Purchase ก็ได้
2. จากนั้นก็จะมีรายละเอียดให้อ่าน เป็นรายละเอียดการสั่งซื้อทั้งหมด ให้อ่านทำความเข้าใจให้ดีนะครับ แล้วก็เลื่อนลงไปข้างล่างเพื่อเลือกขนาดซิม ประเภทแพคเกจที่ต้องการ และวิธีการจัดส่ง
3. ตรงนี้ผมเลือกซิม nano 1GB ให้จัดส่งที่สนามบิน (มีค่าจัดส่ง 200 Yen แต่ถ้าให้ส่งที่โรงแรมจะไม่มีค่าจัดส่ง) ผมเลือกให้ส่งที่สนามบินเพราะผมต้องการเริ่มใช้ Internet ให้เร็วที่สุดครับ ยังต้องเข้าไปหลงตอนเดินหาโรงแรมอีก อย่างน้อยมี Internet ไว้ก็หาข้อมูลต่างๆได้ อุ่นใจกว่าครับ คลิกเข้าไปแล้วก็จะเจอข้อมูลต่างๆ ทำความเข้าใจกับข้อมูลตรงนั้นว่าถูกต้องตรงกับความข้อมูลว่าตรงกับความต้องการของเราแล้ว ก็เลื่อนไปข้างล่าง และคลิก OK ที่เงื่อนไขให้ครบทุกข้อครับ แล้วก็กด Fill in your information ได้เลย
4. หลังจากนั้นให้กรอกข้อมูลของเราครับ ตรงนี้สำคัญ กรุณากรอกให้ตรงตาม Passport เพราะข้อมูลตรงนี้คือที่อยู่จัดส่ง ไม่สามารถแก้ไขได้ทีหลัง ส่วนวันที่ให้กรอกคือวันที่เราต้องการรับของ (Sim ก็จะถูก Activate ให้เริ่มใช้งานได้วันนี้ครับ) ส่วนตัวผมแนะนำว่าถ้าเป็นทริปที่ไม่ถึง 14 วัน ให้เลือกให้ของไปถึงก่อนล่วงหน้าสัก 1 วันก็ดีครับ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับของแน่ๆ ณ ตอนที่ไปถึง ยิ่งไฟลท์เช้าๆเนี่ยแนะนำเลยครับ หลังจากนั้นเลื่อนไปกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ตรงด้านล่างที่เขียนว่า No. of payment ก็เลือกไปว่าเราจะเอา Sim กี่ใบครับ
5. เสร็จแล้วเราก็จะได้ Confirmation E-mail มา หน้าตาแบบนี้ครับ เป็นอันเสร็จสิ้น
6. พอใกล้ถึงวันเดินทางเราก็จะได้ E-mail ยืนยันการจัดส่งอีกฉบับ ในนั้นจะมี Tracking no. ครับ จงเก็บมันไว้ให้ดี จะปริ้นท์เอาไปด้วยก็ได้ เพราะเราอาจจะต้องใช้ Tracking no. นี้เพื่อให้พักงานสามารถหาพัสดุของเราได้รวดเร็วขึ้นครับ
[CR] [CR]Nippon in my thoughts #2 : B-mobile, Skyliner, Vessel inn ueno และ Tokyo tower
Part 1 เที่ยวรอบโตเกียว 7 วัน 7 คืน ด้วยงบ 35,000 บาท : http://ppantip.com/topic/33127518
Part 2 B-mobile, Skyliner, Vessel inn ueno และ Tokyo tower : http://ppantip.com/topic/33131081
Part 3 เดิมเต็มความฝันวัยเด็กที่ Odaiba, ไปดู Gundam และ Onepiece : http://ppantip.com/topic/33141110
หลังจากใช้บริการทัวร์เสริม(Retime) จาก Airasia X เดินเล่นและนอนเล่นในสนามบิน KLIA2 จนหนำใจแล้ว ก็ออกเดินทาง การเดินทางใช้เวลาประมาณ 7 ชม. ครับ กว่าจะถึงสนามบินนาริตะก็เที่ยวพอดี แผนที่วางไว้ว่าจะตะลุยโตเกียวตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเป็นอันว่าพัง ผมมีสิ่งที่ต้องทำที่สนามบินนาริตะ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือไปรับซิมสำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตที่เค้าท์เตอร์ไปรษณีย์ และซื้อตั๋วรถไฟ Skyliner สำหรับไปและกลับสนามบิน
ก่อนอื่นผมจะพูดถึงเรื่องซิมการ์ดก่อน จริงๆทางเลือกสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่นที่นิยมกันมีอยู่ 2 วิธี คือเช่า Pocket wifi และ ซื้อ Internet Sim ขอให้ข้อมูลดังนี้ครับ
1. Pocket Wifi : ง่ายมันก็คืออุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ Wifi แบบพกติดตัวนั่นเองครับ ข้อดีของมันก็คือสามารถใช้งานได้หลายคน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ให้ใช้งาน Internet ได้ไม่จำกัด ข้อเสียคือ ต้องเดินอยู่ใกล้ๆกันในระยะที่สัญญาณส่งถึง และ เช่ามาแล้วต้องส่งคืนส่วนใหญ่ต้องส่งคืนทางไปรษณีย์ครับ ส่วนราคคาจะอยู่ที่ประมาณ 200 - 300 บาทต่อวัน แล้วแต่แพคเกจ และผู้ให้บริการครับ
ผู้ให้บริการที่นิยมกันคือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. Prepaid Internet Sim : มันคือ Simcard ธรรมดาๆนี่แหละครับ แต่เอาไว้ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างเดียว โทรออกไม่ได้ ซิมก็จะมีหลายแบบทั้งใช้งานได้ไม่จำกัด (แต่จำกัดความเร็วสูงสุด) หรือใช้ความเร็วไม่จำกัด (แต่จำกัดปริมาณข้อมูล) ทั้งนี้ซิมก็จะมีวันหมดอายุของมันครับว่าใช้ได้กี่วัน(ต่อได้โดยการซื้อแพคเกจเพิ่ม) ข้อดีคือใช้งานง่ายเหมือนใช้โทรศัพท์ทั่วไป เสียบซิมเข้ามือถือ ตั้งค่า APN จบ ไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมอะไรให้วุ่นวาย และไม่ต้องคืน ไม่ต้องรักษาให้ยุ่งยาก ข้อเสียคือถ้าใช้ 3G/4G แบตมันจะหมดไวกว่าใช้ Wifi และเล่นได้แค่เครื่องเดียว แชร์ต่อไม่ได้ (มือถือแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน บางรุ่นอาจจะแชร์ได้) ราคาก็จะมีตั้งแต่ 1000 บาทขึ้นไปครับ ผู้ให้บริการที่นิยมคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากการพิจารณาทั้งหมดผมเลือกใช้บริการ Visitor Sim ของ B-mobile เพราะต้องการความสะดวก ไม่ต้องรักษา ใช้เสร็จทิ้งได้เลย ไม่ต้องทำเรื่องต่างๆให้ยุ่งยากครับ การสั่งซื้อสามารถทำได้ล่วงหน้า 7 วัน และสามารถเลือกได้ว่าจะให้ส่งไปที่สนามบิน หรือที่โรงแรมครับ ผมเลือกแพคเกจ 1 GB สำหรับใช้งานได้ 14 วัน ในราคา 4300 Yen รวมภาษีและค่าส่ง
1. เริ่มต้นเราก็เข้าไปในเว็บไซต์ B-mobile กันก่อนเลยครับ : http://www.bmobile.ne.jp/english ก็กดเข้าไปที่ Online store หรือเลือก Purchase ก็ได้
2. จากนั้นก็จะมีรายละเอียดให้อ่าน เป็นรายละเอียดการสั่งซื้อทั้งหมด ให้อ่านทำความเข้าใจให้ดีนะครับ แล้วก็เลื่อนลงไปข้างล่างเพื่อเลือกขนาดซิม ประเภทแพคเกจที่ต้องการ และวิธีการจัดส่ง
3. ตรงนี้ผมเลือกซิม nano 1GB ให้จัดส่งที่สนามบิน (มีค่าจัดส่ง 200 Yen แต่ถ้าให้ส่งที่โรงแรมจะไม่มีค่าจัดส่ง) ผมเลือกให้ส่งที่สนามบินเพราะผมต้องการเริ่มใช้ Internet ให้เร็วที่สุดครับ ยังต้องเข้าไปหลงตอนเดินหาโรงแรมอีก อย่างน้อยมี Internet ไว้ก็หาข้อมูลต่างๆได้ อุ่นใจกว่าครับ คลิกเข้าไปแล้วก็จะเจอข้อมูลต่างๆ ทำความเข้าใจกับข้อมูลตรงนั้นว่าถูกต้องตรงกับความข้อมูลว่าตรงกับความต้องการของเราแล้ว ก็เลื่อนไปข้างล่าง และคลิก OK ที่เงื่อนไขให้ครบทุกข้อครับ แล้วก็กด Fill in your information ได้เลย
4. หลังจากนั้นให้กรอกข้อมูลของเราครับ ตรงนี้สำคัญ กรุณากรอกให้ตรงตาม Passport เพราะข้อมูลตรงนี้คือที่อยู่จัดส่ง ไม่สามารถแก้ไขได้ทีหลัง ส่วนวันที่ให้กรอกคือวันที่เราต้องการรับของ (Sim ก็จะถูก Activate ให้เริ่มใช้งานได้วันนี้ครับ) ส่วนตัวผมแนะนำว่าถ้าเป็นทริปที่ไม่ถึง 14 วัน ให้เลือกให้ของไปถึงก่อนล่วงหน้าสัก 1 วันก็ดีครับ เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับของแน่ๆ ณ ตอนที่ไปถึง ยิ่งไฟลท์เช้าๆเนี่ยแนะนำเลยครับ หลังจากนั้นเลื่อนไปกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ตรงด้านล่างที่เขียนว่า No. of payment ก็เลือกไปว่าเราจะเอา Sim กี่ใบครับ
5. เสร็จแล้วเราก็จะได้ Confirmation E-mail มา หน้าตาแบบนี้ครับ เป็นอันเสร็จสิ้น
6. พอใกล้ถึงวันเดินทางเราก็จะได้ E-mail ยืนยันการจัดส่งอีกฉบับ ในนั้นจะมี Tracking no. ครับ จงเก็บมันไว้ให้ดี จะปริ้นท์เอาไปด้วยก็ได้ เพราะเราอาจจะต้องใช้ Tracking no. นี้เพื่อให้พักงานสามารถหาพัสดุของเราได้รวดเร็วขึ้นครับ