เหตุเกิดวันเสาร์ที่ผ่านมา ถ้าดูตามคลิปจากกล้องหน้ารถผมจะเห็นว่ามีรถฟอร์จูนเนอร์คนนึงเพิ่งยูเทิรน์รถมา
ก็คงเห็นว่ารถคันหน้าเขาช้าก็เลยแซงขวามา พอดีผมก็เห็นเหตุการณ์หมดแล้วก็ชะลอแล้วก็ขับตามตูดเขา
โดยที่ไม่ได้บีบแตร ไม่ได้ตบไฟสูงใดๆทั้งนั้น เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวเขาคงเร่งขึ้นมา หรือหากเขาช้าก็คงหลบเข้า
ซ้ายตามมารยาทการขับรถทั่วไป
ก๊อกแรก
ขับไปได้อึดใจนึงปรากฏว่าความเร็วรถก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แล้วก็ไม่ได้หลบซ้ายด้วย ต้องบอกก่อนครับว่าปกติถ้า
ผมเจอรถช้าวิ่งขวานี่ผมจะพยายามแซงซ้ายไปให้พ้นๆ ไม่ไปเสียเวลาตบไฟ บีบแตรไล่ ให้เป็นข่าวตามหน้านสพ.
ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ดันแกล้งเบรค จะด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ ผมจึงไม่เสียเวลารอที่จะแซงซ้าย พร้อมกับบีบแตรเตือน
ไม่ได้เปิดกระจกยกนิ้วกลาง ด่าหยาบคายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับเร่งเพื่อจะแซง แล้วก็ไม่ได้คิดจะไปปาดเอาคืนอะไร
ทั้งนั้น (ถ้าฟังเสียงในรถจะมีลูกเมียผมอยู่ด้วย ส่วนผมไม่ได้พูดอะไรเลย)
ก๊อกสอง
ช่วงที่ผมขับแซงจนพ้นแล้ว เขาดันตบไฟสูงไล่ผมอีก ซึ่งดูจากลักษณะการเปิดไฟ ไม่ใช่เปิดแบบปกติแน่นอน
ซึ่งผมไม่ได้มีกล้องหลังมาให้ดูกัน จนแฟนผมอุทานออกมาว่าอ้าวนั่นแหละ นาทีนั้นผมนี่เปิดไฟเลี้ยวซ้ายจอด
ข้างทางเลยดูซิว่าเขาจะจอดมั้ย อยากรู้เหมือนกันว่า
คิดอะไร ต้องการอะไร ปรากฏว่าเขาไม่จอด ผมก็เลยเร่ง
เครื่องไปบีบแตรตักเตือนเขาอีกนั่นแหละ (เช่นเดิม ไม่ได้เปิดกระจกชูนิ้ว หรือด่าอะไร) แล้วจากนั้นผมก็รีบๆ แซง
ให้มันพ้นๆ ไป จนไปติดสี่แยกไฟแดง ซึ่งผมเป็นคันแรกอยู่ขวาสุด เขาเป็นคันที่สองต่อท้ายผม
ก๊อกสาม
ผมนั่งจ้องกระจกมองหลังแล้วดูว่าจะมีอะไรมากวนผมอีก จนเห็นว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ในใจนึงผมอยากเปิดประตู
ลงไปถาม
ให้รู้แล้วรู้รอดว่าต้องการอะไร(วะ) แต่พอลูกผมมาเล่นกับผมด้วย ผมก็เลยอโหสิกรรมแล้วก็ตัดความคิด
นั้นซะ พอไฟแดงก็รีบไปๆ ซะ แต่ก็ยังหันมามองกระจกมองหลังอยู่ดูว่ายังจะเกิดอะไรอีกมั้ย ปรากฏว่าสิ่งที่ผมเห็น
ก็คือเขาขับรถค่อนข้างช้า เห็นรถที่อยู่ด้านหลังเขาพยายามเบี่ยงออกมาดูทางด้านขวาอยู่เหมือนกัน
เห็นอย่างนั้นแล้วผมก็เลิกสนใจแล้วก็ขับรถไปตามปกติ คือจะบอกว่าถ้าเป็นสมัยวัยรุ่น แล้วขับรถคนเดียวนี่เจอแบบว่า
มาแกล้งเบรคใส่ผมนี่ผมแซงกลับแล้วเอาคืนตรงนั้นเลย จึงไม่น่าแปลกใจว่าสมัยนี้มันจึงมีเรื่องบนท้องถนนกันบ่อยๆ
ขับรถเจอฟอร์จูนเนอร์คันนี้ก็ระวังกันหน่อยครับ
ก็คงเห็นว่ารถคันหน้าเขาช้าก็เลยแซงขวามา พอดีผมก็เห็นเหตุการณ์หมดแล้วก็ชะลอแล้วก็ขับตามตูดเขา
โดยที่ไม่ได้บีบแตร ไม่ได้ตบไฟสูงใดๆทั้งนั้น เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวเขาคงเร่งขึ้นมา หรือหากเขาช้าก็คงหลบเข้า
ซ้ายตามมารยาทการขับรถทั่วไป
ก๊อกแรก
ขับไปได้อึดใจนึงปรากฏว่าความเร็วรถก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แล้วก็ไม่ได้หลบซ้ายด้วย ต้องบอกก่อนครับว่าปกติถ้า
ผมเจอรถช้าวิ่งขวานี่ผมจะพยายามแซงซ้ายไปให้พ้นๆ ไม่ไปเสียเวลาตบไฟ บีบแตรไล่ ให้เป็นข่าวตามหน้านสพ.
ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ดันแกล้งเบรค จะด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ ผมจึงไม่เสียเวลารอที่จะแซงซ้าย พร้อมกับบีบแตรเตือน
ไม่ได้เปิดกระจกยกนิ้วกลาง ด่าหยาบคายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับเร่งเพื่อจะแซง แล้วก็ไม่ได้คิดจะไปปาดเอาคืนอะไร
ทั้งนั้น (ถ้าฟังเสียงในรถจะมีลูกเมียผมอยู่ด้วย ส่วนผมไม่ได้พูดอะไรเลย)
ก๊อกสอง
ช่วงที่ผมขับแซงจนพ้นแล้ว เขาดันตบไฟสูงไล่ผมอีก ซึ่งดูจากลักษณะการเปิดไฟ ไม่ใช่เปิดแบบปกติแน่นอน
ซึ่งผมไม่ได้มีกล้องหลังมาให้ดูกัน จนแฟนผมอุทานออกมาว่าอ้าวนั่นแหละ นาทีนั้นผมนี่เปิดไฟเลี้ยวซ้ายจอด
ข้างทางเลยดูซิว่าเขาจะจอดมั้ย อยากรู้เหมือนกันว่าคิดอะไร ต้องการอะไร ปรากฏว่าเขาไม่จอด ผมก็เลยเร่ง
เครื่องไปบีบแตรตักเตือนเขาอีกนั่นแหละ (เช่นเดิม ไม่ได้เปิดกระจกชูนิ้ว หรือด่าอะไร) แล้วจากนั้นผมก็รีบๆ แซง
ให้มันพ้นๆ ไป จนไปติดสี่แยกไฟแดง ซึ่งผมเป็นคันแรกอยู่ขวาสุด เขาเป็นคันที่สองต่อท้ายผม
ก๊อกสาม
ผมนั่งจ้องกระจกมองหลังแล้วดูว่าจะมีอะไรมากวนผมอีก จนเห็นว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ในใจนึงผมอยากเปิดประตู
ลงไปถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าต้องการอะไร(วะ) แต่พอลูกผมมาเล่นกับผมด้วย ผมก็เลยอโหสิกรรมแล้วก็ตัดความคิด
นั้นซะ พอไฟแดงก็รีบไปๆ ซะ แต่ก็ยังหันมามองกระจกมองหลังอยู่ดูว่ายังจะเกิดอะไรอีกมั้ย ปรากฏว่าสิ่งที่ผมเห็น
ก็คือเขาขับรถค่อนข้างช้า เห็นรถที่อยู่ด้านหลังเขาพยายามเบี่ยงออกมาดูทางด้านขวาอยู่เหมือนกัน
เห็นอย่างนั้นแล้วผมก็เลิกสนใจแล้วก็ขับรถไปตามปกติ คือจะบอกว่าถ้าเป็นสมัยวัยรุ่น แล้วขับรถคนเดียวนี่เจอแบบว่า
มาแกล้งเบรคใส่ผมนี่ผมแซงกลับแล้วเอาคืนตรงนั้นเลย จึงไม่น่าแปลกใจว่าสมัยนี้มันจึงมีเรื่องบนท้องถนนกันบ่อยๆ