อยากแต่งงานแต่แม่ไม่อนุมัติทำไงดีคะ

ตอนนี้เราคบกับแฟนเรามา3ปีแล้วค่ะ แล้วแฟนเราเค้าก็อยากแต่งงานมากเนื่องจากเราคบกันมาได้ซักพักแล้วและเค้าก็อยากจะทำอะไรให้ถูกต้องคืออย่างนี้นะคะ
แฟนเราเค้าเป็นคนต่างชาติ เป็นมุสลิมค่ะแล้วประเทศที่เค้าอยู่คือซาอุดิอารเบีย ซึ่งประเทศนี้จะใช้วีซ่าท่องเที่ยวไม่ได้ ปัญหาคือระหว่างที่เราคบกันมาเค้าจะมาหาเราบ่อยมาก ส่วนมากจะมา2เดือนครั้ง และบางครั้งอยู่กับเรานาน ถึงหกเดือน แต่ช่วงนี้มาแค่20วัน เพราะเค้าต้องดูแลธุรกิจของที่บ้านค่ะ
แฟนเราเค้าบอกว่าเค้าไม่มีความสุขเวลาเค้าอยู่ที่ซาอุ เค้าอยากให้เราอยู่กับเค้า เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ไปเยี่ยมก็ไม่ได้ แล้วอีกอย่างเรายังเป็นพุทธอยู่เลยจะทำวีซ่าว่าไปซาอุเรื่องศาสนาก็ไม่ได้
เราได้คุยกับที่บ้านเรื่องแต่งงานที่บ้านเราบอกว่าให้เรียนจบก่อน คือตอนนี้เราอายุ19ค่ะ เรียนมหาลัยอยู่
แต่เราคิดว่านะคะแต่งงานกันมันก็น่าจะดีกว่าเพราะเราทำถูกต้องและอีกอย่างทุกวันนี้เรากับแฟนก็ดูแลกันเหมือนคนที่เค้าแต่งงานกันแล้ว

แฟนเราเค้าก็เคยคุยกับแม่นะคะเรื่องหมั้นแต่แม่เราก็ผลัดออกไปก่อนเราก็อยากแต่งกับแฟนเราเพราะ อยากให้แฟนเป็นคนไทยเราจะได้ทำธุรกิจด้วยกันที่ไทยด้วยซาอุด้วยอย่างน้อยก็จะได้ได้อยู่ด้วยกันมากกว่านี้และเราเป็นคนขี้หึงด้วยค่ะ ถ้าแต่งงานกันไปอย่างน้อยเราจะได้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
แฟนเราเค้าก็พยายามทำให้เราเห็นว่าเค้าไม่เจ้าชู้แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะคิดนู่นนี่นั่นคืะ เลยมีปัญหาที่ว่าเค้าอยากให้เราไว้ใจเค้าและทำให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำนั้าเราเห็น ประมาณนี้ แต่เราก็ผญค่ะ อดคิดเล็กคิดน้อยไม่ได้
เราเจอพ่อเค้าบ่อยค่ะ คุยกับแม่เค้าครั้งนึง ผ่านทางโทรศัพท์ เพราะแม่เค้าจะเสนอให้เค้าแต่งงานกับผญที่นู่น เค้าเลยบอกแม่เค้าไปว่าเค้าจะแต่งงานกับเรา แม่เค้าเลยขอคุยกับเราครั้งแรกในรอบ4ปีค่ะ คุยกันไม่กี่คำ เราใช้ภาษาอังกฤษกับแฟนแม่เค้าไม่รู้อังกฤษ เรารู้อารบิก นิดหน่อย แต่ พ่อกับพี่ชายคุยกับเรารู้เรื่องค่ะเพราะผชที่นุ่นเค้าพูดอังกฤษกันคล่องค่ะ

ยาวววว เลยส่วนตัวแล้วเราอยากแต่งงานนะคะแต่แม่นี่สิ อยากให้เราเรียนจบทำงานสักปีค่อยแต่ง แต่ลองคิดสิคะตอนนี้คบกันมา3ปีแล้วรอเรียนจบบวกไปอีก2 ทำงานปีนึง สรุปคบกัน6ปี นานมากอ่าาาา แล้วคุณคิดดูนะคะถ้าเราแต่งกัน ผลออกมาก็เท่าเดิมแต่ เราสามารถไปมาหาสู่เค้าได้สบายเค้าก็สะดวกเรื่องธุรกิจจแล้ว เดินไปไหนมาไหนก็พูดได้นี่สามีฉัน นี่ภรรยาผมเราแต่งงานกันแล้ว (อันนี้ความคิดแฟนเราค่ะเพราะเค้าถือเรื่องนี้เค้าบอกไม่สบายใจที่คบกันแบบนี้มันไม่ถูกต้องเค้าอยากทำให้มันถูกต้องซักที)

เพื่ออนๆช่วยหาวิธีคุยให้แม่หันมามองมุมที่ดิฉันคิดหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
น้องเด็กมากนะคะ ชีวิตโสดยังไม่ได้ใช้ รออีกหน่อยค่อยแต่งไม่สายไปหรอกค่ะ รีบแต่งไปก็ไม่ดี แรกๆอะไรก็หอมหวาน แต่แต่งสักพัก  คนที่จะอึดอัด จะไม่ใข่แฟน แต่เป็นตัวน้องเอง ต่อไปเรียนจบ เพื่อนทำงาน เฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนไปเที่ยว แต่ตัวน้องจะทำอะไรไม่ได้ เพราะติดแฟน ถึงวันนั้นจะมานั่งเสียใจว่ารีบไป

ส่วนความขี้หึงของน้อง แต่งกันแล้วมันก็ไม่ช่วยให้ลดลงหรอกค่ะ หากแฟนต้องเดินทาง น้องคงตามไปไม่ได้ตลอด ทะเบียนสมรสมันไม่ได้ช่วยให้ผู้ชายเจ้าชู้น้อยลง ถ้าคนมันเจ้าชู้ซะอย่าง

ที่แม่น้องดึงไว้น่ะแหละดีแล้วค่ะ รออีกหน่อย ให้แฟนเข้าหาแม่ ให้แม่เห็นว่าเค้าเป็นยังไง ต่อไปแม่อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ที่เค้าบอกอยากให้แต่งไทย เพราะเค้าเป็นห่วง ถ้าน้องต้องไปอยู่ไกลๆ

ยิ่งต้องย้ายไปซาอุ เคยหาอ่านหรือเปล่าคะว่าซาอุ ไม่ปลื้มไทย วีซ่าก็ยุ่งยาก ไหนจะชีวิตที่นู่นอีก ผู้หญิงไปไหนมาไหนเองไม่ได้ ขับรถก็ไม่ได้ (ไม่ได้อ่านจากข่าวค่ะ แต่มีคนรู้จักอยู่ซาอุ เห็นเค้าบ่น) ไหนจะครอบครัวเค้า แม่เค้าที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ชีวิตที่รออยู่ไม่ได้สดใส ราบรื่นอย่างที่คิดนะคะ

ผู้หญิงเรา การแต่งงานคือเปลี่ยนชีวิต ยิ่งต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง คิดดีๆ คิดนานๆ อย่ามองแต่เส้นทางที่สวยงามที่ฝันไว้  คิดถึง worst case ด้วย ถ้าแต่งไปแล้วเกิดเดินทางไปกลับไืยอย่างที่ใจต้องการไม่ได้จะทำอย่างไร  ถ้าแต่งแล้วไม่เวิคจะทำอย่างไร ถ้าสามีเสีย หรือเลิกกัน ขีวิตจะทำอย่างไร  หาทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย
ความคิดเห็นที่ 7
ขอแนะนำในฐานะที่เคยแต่งงานตอนอายุ 19 เพราะ ในความคิดที่ว่า มาเรียนแล้วไม่อยากกลับประเทศไทย ก็เลยขี้เกียจต่อวีซ่านักเรียน เพราะมันมีระยะสั้นแค่ไม่กี่ปี เลยแต่งงานซะเลย  ถ้าย้อนกลับไปได้ พี่คงอยากครองโสดสัก 25 - 30 ค่อยแต่ง เพราะชีวิตหลังแต่งงานมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราวาดฝันไว้เลย

น้องเชื่อคำที่คุณแม่บอกจะดีกว่านะคะ ( คุณแม่ของน้องเค้ารักและเป็นห่วงจริงๆ ท่านถึงอยากให้เรียนและทำงานไปก่อน ) อย่าเพิ่งตัดสินใจ อายุยังน้อย อย่าคิดว่า 6 ปี มันนานหรืออะไร บางคนคบกันเป็น 10 กว่าปี แล้วแต่งก็มีเยอะไปค่ะ ค่อยๆศึกษานะคะ และอีกอย่าง น้องต้องศึกษาหลักศาสนาของเขาด้วย และต้องดูทางบ้านเขาด้วยว่า เคร่งศาสนามากแค่ไหน เพราะเรื่องนี้มีผลต่อชีวิตการแต่งงานและครอบครัวของน้องเองในอนาคตนะคะ อยากให้น้องศึกษา และต้องเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม ที่จะเปลี่ยนศาสนา ต้องเปลี่ยนด้วยใจจริงๆ ไม่ใช่แค่สถาณการณ์บังคับนะคะ เพราะมันจะไม่สบายใจในภายภาคหน้า
เรียนให้จบเหมือนคุณแม่บอกเถอะค่ะ ถ้าเค้ารอได้ ก็แสดงว่าเขารักและพร้อมที่จะแต่งงานกับเราจริงๆ  การเป็นแฟนมันไม่ใช่การเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ  การเริ่มต้นชีวิตคู่คือ หลังจากแต่งงานกันไปแล้ว นั้นคือ การเริ่มต้นของชีวิตคู่จริงๆ และยิ่งต่างชาติ ต่างศาสนา ต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ศึกษากันให้เยอะๆก็ไม่เสียหลายนะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่