ผมใช้มอเตอร์ไซค์ในชีวิตเป็นส่วนใหญ่ครับ ... เกือบจะทุกวัน มันสะดวกสำหรับเมืองที่รถโคตรติดแบบนี้ จะว่าเป็นความทุกข์เล็กๆอย่างหนึ่งตอนที่อยู๋บนท้องถนนก็ใช่ ขับไปไหนต่อไหนก็เหมือนว่า สิทธิในการใช้ถนนนั้นช่างน้อยนัก ใครที่ใช้ประจำทุกวันน่าจะเข้าใจกันดี กฎหมายที่ออกมาก็บังคับให้วิ่งเลนซ้ายสุด และซ้ายสุดมักจะมีรถจอด พี่แท็กซี่จอดแช่ พี่ๆรถตู้และรถเมล์ก็จอดส่งผู้โดยสารเลนกลาง หลายๆคนเคยเบี่ยงขวาเพื่อแซง แต่เจ้ากรรม...มีพี่หมวกขาวยืนดักรออยู่ข้างหน้า จะเถียงยังงัยก็โดนอยู่วันยันค่ำ...ผมคิดนะ ทำไมไม่ไปยืนอยู่ตรงที่พวกนั้นมันจอดกัน ทำไมไม่ไปไล่รถตู้ รถเมล์ที่มันจอดกลางถนนอย่างนั้น กลับมาดักรอจับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงนี้ หรือว่า เน้นนโยบายจับกุมผู้กระทำความผิด แต่ไม่เน้นนโยบายป้องกันให้คนทำผิด นี่ถ้ามีไปยืนอยู่ตัวป้ายรถเมล์สักคนนะ อะไรๆมันก็คงคลี่คลายกว่านี้...อีกอย่างนะ พวกเราโดนบังคับให้วิ่งเลนซ้ายสุดอยู่แล้ว แต่พี่ๆรถยนต์ทั้งหลายที่มากันแบบเร็วๆ ซึ่งตามกฎหมายและมารยาทก็บอกอยู่แล้วว่าให้แซงขวา แต่หลายๆคัน ผมเจอประจำทุกวัน เลนขวาไปไม่ได้ พี่ก็มาแซงเลนซ้าย เพราะความรีบหรืออะไรก็ไม่ทราบ ไม่บีบแตรไล่ หรือริบไฟให้เราไปเร็วขึ้น พี่ก็แบียดเราซะเกือบชิดขอบทางแล้วแซงฉิวผ่านไป...เฮ้ย กลัวนะเว้ย...นี่พวกเราถูกจำกัดขนาดนี้แล้ว ยังมาทำกันได้ลงคอ
มาถึงประเด็นที่ผมต้องการคิดออกมาดังๆวันนี้ สะพานข้ามแยก มันเป็นความข้องใจ...ทำไมรถจักรยานยนต์ข้ามไม่ได้ เพราะ? ปัญหาความปลอดภัยเหรอ มาดูกันดีกว่าครับว่าแยกไหนบ้างที่ผมข้องใจในตรรกะความคิดของผู้ออกกฎให้เราเหล่าชาวสองล้อ
ผมแนบแผนที่และมาร์คจุดเอาไว้เป็นระยะทางของสะพานตามรูป
1 ถนนจตุรทิศ ถึง แยก โรงพยาบาลสงฆ์
จุดแรกเริ่มจากถนนจตุรทิศมุ่งหน้าพญาไท หรือแยกโรงพยาบาลสงฆ์ อนุญาติให้รถวิ่งขึ้นได้ตั้งแต่เลยแยก RCA ขึ้นสะพานยาวมาเลยครับเลียบทางด่วนศรีรัศน์ (หมายเลข 1 สีแดง) บริเวณนี้มีทางโค้งหลายจุดและมีแผ่นปูนเก็บเสียงเกือบตลอดเส้นทาง อันนี้มอเตอร์ไซค์วิ่งได้สบาย
จุดที่สอง หมายเลข 2 สีฟ้า บริเวณนี้มีทางโค้งอยู่ซึ่งในความรู้สึกผมเวลาใช้เส้นทางนี้จะระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่มีแผ่นปูนกันเลนสวน มีแต่เสาสัญญาณที่เป็นพลาสติกวางเรียงมีรอยโดนสอยล้ม หัก หายมาบ้างแล้วหลายต้น ตรงนี้รถเลนสวนมีสิทธิ์แหกโค้งมาได้โดยไม่มีอะไรบังให้เลย ไม่มีผนังปูนเก็บเสียง ตัวผมเองเคยเจอประสบการณ์ตรงที่รถยนต์ที่ตามมาหลุดโค้งมาเกือบเบียดตกสะพานก็โค้งตรงนี้แหล่ะครับ ทำผนังให้เราหน่อยก็ดีนะครับ (ตามรูป)
จุดที่สาม วงกลมสีขาว จุดนี้ครับที่เป็นจุดข้องใจของผมมาก คือเราวิ่งมาได้ตั้งสองสะพานในถนนจตุรทิศ และต่างก็มีโค้งเยอะ ซึ่งแน่นอนกว่าอันตรายกว่าสะพานข้ามแยกถนนพญาไท ตรงนี้มีทั้งแผ่นปูนกั้นรถสวนเลน มีผนังกันเสียง และเป็นสะพานสั้นๆที่มีโค้งเปิดกว้างๆ แต่กลับไม่สามารถให้ข้ามได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยข้ามมาแล้วหล่ะ สุดท้ายพอลงสะพานหน้า สน พญาไท จะได้เจออะไรไปดูคลิปที่แนบมา
ลักษณะถนนบนสะพานเป็นอย่างนี้ครับ ในความคิดผม ไม่อันตรายขนาดห้ามรถมอเตอร์ไซค์วิ่ง
นี่เป็นเส้นทางแรกครับที่ผมข้องใจกับการให้เราถุกออกกฏไม่ให้วิ่ง ผมคนนึงหล่ะอยากรู้เหตุผลและตั้งคำถามและตอบกับตัวเอง
1. อันตราย ป้องกันอุบัติเหตุ?
พวกเรารักตัวกลัวตายกันทุกคน ไอ้สะพานก่อนหน้านี้ อันตรายกว่าเยอะ
2. กลัวรถตกลงไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ทำผนังกั้นสูงๆเลยครับ...ไม่ตกแน่
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เราไม่มีแอร์เย็นๆให้นั่งรอในรถระหว่างรอไฟเขียว ไม่มีร่มให้หลบแดดเท่าไหร่นักเพราะต้นไม้สูงพอจะได้ร่มเงาเค้าก็มาตัดทิ้ง
พวกเราต้องจอดรอไฟเขียวท่ามกลางควันเสียจากท่อรถเราเองและรถอื่นๆ ไม่ได้มีกระจกปิดกั้นเอาไว้
รถจักรยานยนต์ที่ใช้ใน กทม ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน แต่ถ้ารถทุกคันที่มาจอดรออย่างนี้รวมๆแล้วควันพิษที่ปล่อยออกมานั้นมหาศาล ถ้าปล่อยให้พวกเราได้โอกาสในความสะดวกบ้าง เราก็ได้รีบกลับบ้าน ได้กลับไปพัก อากาศเสียๆที่ออกมาจากรถเรามันก็น้อยลงไปด้วย ถ้ากลัวอุบัติเหตุว่าเราจะตกสะพานไปทำคนอื่นเดือดร้อน อย่างที่บอกทำผนังกั้นเสียงไว้เลยครับ มีเงินมั้ย.? เงินไม่พอ ถ้าเรียกเก็บภาษีรถจักรยานยนต์เพิ่มจาก 100 บาท เป็น 200 สำหรับผมยอมจ่ายครับ เพื่อชีวิตที่สะดวกมากขึ้น และหลายๆคนก็ยอมจ่าย แล้วเอาเงินนั่นหน่ะ ไปทำซะที่ว่าตรงไหนไม่ปลอดภัย ทำให้มันดี ถ้ามันดีเราก็ยินดีจ่าย
ยังมีอีกหลายแยกที่ผมข้องใจ ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ หรือทางข้ามอย่างเช่น แยกรัชโยธินแยกบางพลัด แยกท่าพระ แยกปิ่นเกล้า แยกนางเลิ้ง แยกทั้งหลายบนถนนเพชรบุรี...สะพานเหล่านี้เป็นทางตรงล้วนๆ ไม่มีโค้งอันตรายให้ต้องระวัง หรือใครมีแยกไหนที่คิดว่า เฮ้ยมันไม่เข้าใจ ทำไมไม่ให้ข้ามก็มาเพิ่มเติมหน่อยครับ
ส่วนผมเองจะมาอัพเดทแยกอื่นๆไปเรื่อยๆ ชาวสองล้อเข้ามาแชร์กัน
รถมอเตอร์ไซค์...ใช้ชีวิตดั่งดั่งชนชั้นล่างบนท้องถนน
มาถึงประเด็นที่ผมต้องการคิดออกมาดังๆวันนี้ สะพานข้ามแยก มันเป็นความข้องใจ...ทำไมรถจักรยานยนต์ข้ามไม่ได้ เพราะ? ปัญหาความปลอดภัยเหรอ มาดูกันดีกว่าครับว่าแยกไหนบ้างที่ผมข้องใจในตรรกะความคิดของผู้ออกกฎให้เราเหล่าชาวสองล้อ
ผมแนบแผนที่และมาร์คจุดเอาไว้เป็นระยะทางของสะพานตามรูป
1 ถนนจตุรทิศ ถึง แยก โรงพยาบาลสงฆ์
จุดแรกเริ่มจากถนนจตุรทิศมุ่งหน้าพญาไท หรือแยกโรงพยาบาลสงฆ์ อนุญาติให้รถวิ่งขึ้นได้ตั้งแต่เลยแยก RCA ขึ้นสะพานยาวมาเลยครับเลียบทางด่วนศรีรัศน์ (หมายเลข 1 สีแดง) บริเวณนี้มีทางโค้งหลายจุดและมีแผ่นปูนเก็บเสียงเกือบตลอดเส้นทาง อันนี้มอเตอร์ไซค์วิ่งได้สบาย
จุดที่สอง หมายเลข 2 สีฟ้า บริเวณนี้มีทางโค้งอยู่ซึ่งในความรู้สึกผมเวลาใช้เส้นทางนี้จะระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่มีแผ่นปูนกันเลนสวน มีแต่เสาสัญญาณที่เป็นพลาสติกวางเรียงมีรอยโดนสอยล้ม หัก หายมาบ้างแล้วหลายต้น ตรงนี้รถเลนสวนมีสิทธิ์แหกโค้งมาได้โดยไม่มีอะไรบังให้เลย ไม่มีผนังปูนเก็บเสียง ตัวผมเองเคยเจอประสบการณ์ตรงที่รถยนต์ที่ตามมาหลุดโค้งมาเกือบเบียดตกสะพานก็โค้งตรงนี้แหล่ะครับ ทำผนังให้เราหน่อยก็ดีนะครับ (ตามรูป)
จุดที่สาม วงกลมสีขาว จุดนี้ครับที่เป็นจุดข้องใจของผมมาก คือเราวิ่งมาได้ตั้งสองสะพานในถนนจตุรทิศ และต่างก็มีโค้งเยอะ ซึ่งแน่นอนกว่าอันตรายกว่าสะพานข้ามแยกถนนพญาไท ตรงนี้มีทั้งแผ่นปูนกั้นรถสวนเลน มีผนังกันเสียง และเป็นสะพานสั้นๆที่มีโค้งเปิดกว้างๆ แต่กลับไม่สามารถให้ข้ามได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยข้ามมาแล้วหล่ะ สุดท้ายพอลงสะพานหน้า สน พญาไท จะได้เจออะไรไปดูคลิปที่แนบมา
ลักษณะถนนบนสะพานเป็นอย่างนี้ครับ ในความคิดผม ไม่อันตรายขนาดห้ามรถมอเตอร์ไซค์วิ่ง
นี่เป็นเส้นทางแรกครับที่ผมข้องใจกับการให้เราถุกออกกฏไม่ให้วิ่ง ผมคนนึงหล่ะอยากรู้เหตุผลและตั้งคำถามและตอบกับตัวเอง
1. อันตราย ป้องกันอุบัติเหตุ?
พวกเรารักตัวกลัวตายกันทุกคน ไอ้สะพานก่อนหน้านี้ อันตรายกว่าเยอะ
2. กลัวรถตกลงไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ทำผนังกั้นสูงๆเลยครับ...ไม่ตกแน่
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เราไม่มีแอร์เย็นๆให้นั่งรอในรถระหว่างรอไฟเขียว ไม่มีร่มให้หลบแดดเท่าไหร่นักเพราะต้นไม้สูงพอจะได้ร่มเงาเค้าก็มาตัดทิ้ง
พวกเราต้องจอดรอไฟเขียวท่ามกลางควันเสียจากท่อรถเราเองและรถอื่นๆ ไม่ได้มีกระจกปิดกั้นเอาไว้
รถจักรยานยนต์ที่ใช้ใน กทม ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน แต่ถ้ารถทุกคันที่มาจอดรออย่างนี้รวมๆแล้วควันพิษที่ปล่อยออกมานั้นมหาศาล ถ้าปล่อยให้พวกเราได้โอกาสในความสะดวกบ้าง เราก็ได้รีบกลับบ้าน ได้กลับไปพัก อากาศเสียๆที่ออกมาจากรถเรามันก็น้อยลงไปด้วย ถ้ากลัวอุบัติเหตุว่าเราจะตกสะพานไปทำคนอื่นเดือดร้อน อย่างที่บอกทำผนังกั้นเสียงไว้เลยครับ มีเงินมั้ย.? เงินไม่พอ ถ้าเรียกเก็บภาษีรถจักรยานยนต์เพิ่มจาก 100 บาท เป็น 200 สำหรับผมยอมจ่ายครับ เพื่อชีวิตที่สะดวกมากขึ้น และหลายๆคนก็ยอมจ่าย แล้วเอาเงินนั่นหน่ะ ไปทำซะที่ว่าตรงไหนไม่ปลอดภัย ทำให้มันดี ถ้ามันดีเราก็ยินดีจ่าย
ยังมีอีกหลายแยกที่ผมข้องใจ ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ หรือทางข้ามอย่างเช่น แยกรัชโยธินแยกบางพลัด แยกท่าพระ แยกปิ่นเกล้า แยกนางเลิ้ง แยกทั้งหลายบนถนนเพชรบุรี...สะพานเหล่านี้เป็นทางตรงล้วนๆ ไม่มีโค้งอันตรายให้ต้องระวัง หรือใครมีแยกไหนที่คิดว่า เฮ้ยมันไม่เข้าใจ ทำไมไม่ให้ข้ามก็มาเพิ่มเติมหน่อยครับ
ส่วนผมเองจะมาอัพเดทแยกอื่นๆไปเรื่อยๆ ชาวสองล้อเข้ามาแชร์กัน