***แก้ไขคือใส่ลายน้ำนะครับ พอดีเพื่อนบอกให้ใส่
แอบตื่นเต้นเล็กๆนะครับ พอดีเป็นกระทู้แรกที่เขียนใน Pantip เลย
ถ้ามีอะไรผิดพลาดช่วยแนะนำด้วยครับ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือคุณเพื่อนท่านหนึ่งของผมเองได้ชวนไปเที่ยวที่อังกฤษแล้วจะเป็นคนพาทัวร์เอง
ผมรีบเปิดดูราคาตั๋วทันที อยากไปมานานแล้วประเทศนี้ คว้าตั๋วทำวีซ่าเรียบร้อย แต่เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นก่อนเดินทางไม่กี่วัน
คุณเพื่อนสุดที่รักบอกว่าไม่ว่างแล้ว คงไม่เที่ยวด้วยไม่ได้.... อึ้งไปเลยสิครับ รีบไลน์หาเพื่อนคนอื่นหวังเป็นที่พึ่ง แล้วก็ได้ข่าวดีจากเพื่อนที่มาเที่ยวลอนดอนพอดี
เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่าก่อนที่จะยืดเยื้อไปกว่านี้
ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 8วัน 7คืน (26 ธันวาคม ถึง 2 มการาคม) แต่วันที่ 26 กับ 2 อย่าไปนับมันเลยครับ ไปถึงดึกกลับก็เช้า
วันที่ 26 ธค
ออกเดินทางจากเยอรมัน Koln/Bonn airport ตอนประมาณ 3ทุ่ม ลืมบอกไปผมเรียนอยู่ที่เยอรมันครับ
หลังจากใช้เวลาเดินทาง 1ชม. ก็ถึงสนามบิน Gatwick จากสนามบินใช้เวลานั่งรถบัสอีกประมาณ 2ชม. เพื่อเข้าไปตัวเมือง London (นานกว่าเดินทางจากเยอรมันมาซะอีก
) กว่าจะถึงที่พักก็ดึกแล้วเลยขอนอนตายก่อนนะครับ สำหรับวันแรก
วันที่ 27 ธค
เดินทางไปสถานี Paddington เพื่อไปเจอเพื่อนที่นัดเอาไว้ ตามแผนที่เพื่อนบอกวันนี้จะไป Bath กัน แต่!!!!!!!!!!!!!!!
รถไฟไม่วิ่งครับวันนี้ เนื่องจากเหตุใดก็แล้วแต่ คาดว่าเป็นเพราะหลังวัน Christmas พอดี.... ทริป Bath วันนี้จึงถูกยุบไป เปลี่ยนเป็นเที่ยวใน London แทน
จากสถานี Paddington นั่ง underground ไม่นานก็จะถึง สถานี Waterloo ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นทริปอังกฤษอย่างแท้จริง
เดินตามป้าย London Eye ไปซักพัก จะหลุดออกมาจากสถานี และแล้ว....
เจอ Landmark ที่แรกแล้วคร้าบบบบบบบบบบบ London Eye แต่มองไปมองมาทำไมมันให้ความรู้สึกเหมือนชิงช้าสวรรค์ที่ Asiatique เลยก็ไม่รู้แฮะ
เอารูปมุมด้านล่างมาฝากกันมั่ง ถ่ายผ่านต้นไม้แห้งๆซะเลย
ตอนแรกก็คิดว่าจะขึ้นนะครับ แต่ว่าด้วยความยาวของแถวประกอบกับราคา เลยคิดว่าไม่ดีกว่า แหะๆ
เอาล่ะครับเดินต่อๆ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เป้าหมายต่อไปอยู่ข้างหน้าแล้ววววว
คุณลุง Big Ben!!!!!!! เห็นมันอยู่ไกลๆแล้ว ระหว่างทางไปถ่ายรูปให้ไกด์นิดนึง
จาก London Eye ไป Big Ben เดินไปนิดๆข้ามสะพานอีกหน่อยก็ถึงละครับ
เอารูปบรรยากาศบนสะพานมากฝากกันนะครับ เอาล่ะครับถึงกันแล้วกับคุณลุง Big Ben!!!
ยิ่งใหญ่มากครับ หอนาฬิกาขนาดยักษ์เฝ้ารอมาแต่เด็กว่าซักครั้งต้องมาให้ได้
จาก Big Ben เดินไปอีกนิดหน่อยไม่ไกลมากก็จะถึง Westminster Abbey ซึ่งเป็นสถานที่แต่งงานของเจ้าชาย William กันนะครับ
อันนี้เป็นตัวโบสถ์ด้านนอกดูยิ่งใหญ่มากครับ ที่นี่เพื่อนอยากเข้าไปดูเลยโอเคต่อแถวยาวเป็นงุเหลือมพันรอบต้นไม้ 250 รอบก็ถึงเวลาจ่ายเงินค่าตั๋ว
สำหรับนักเรียนจะมีส่วนลดนะครับ แนะนำว่ามาที่นี่ยื่นไปก่อนครับ จะเป็นบัตรนักเรียนประเทศไหนก็แล้วแต่ แล้วให้คนขายตัดสินใจครับว่าโอเครึเปล่า
สำหรับผมใช้บัตรนักเรียนเยอรมัน ได้ส่วนลดนักเรียนมานิดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ
จ่ายเงินเสร็จแล้วอย่าลืมไปรับแผนที่กับเครื่องบรรยายนะครับจะได้ดื่มด่ำกับโบสถ์เก่าแห่งนี้กันหน่อย(เอาให้คุ้มค่าบัตร
) ภายในตัวอาคารเค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ เสียดายมากบอกเลย
แต่หลังจากเดินชมตัวอาคารภายในหมดทั้ง 20 จุดตามแผนที่ที่ได้มา ยังไม่จบครับ... ออกไปดูด้านนอกกันอีกนิดนึง ตรงนี้สามารถถ่ายรูปได้แล้วครับ เอารูปมาฝากกันเล็กน้อย
โอเคคับ จบไปอีก 1ที่กับ Westminster Abbey ออกมาด้านหน้าก็มาเจอเพื่อนอีกคนที่จะมาร่วมทริปกันตั้งแต่เช้า แต่เนื่องจากเจอปัญหารถไฟเลยพึ่งได้เจอกัน ต่อกันครับ จากโบสถ์ถ้ามองย้อนกลับไปก็จะเห็น หอนาฬิกา Big Ben นะครับก็สวยดี
พอได้เวลาบ่ายกว่าๆ ท้องของผู้ร่วมเดินทางทั้ง 4 คนเริ่มร้องรุนแรง พวกเราเลยเดินไปถึงส่วนของ China Town ของ London กัน
มื้อเที่ยงของพวกผมก็จบลงกันที่นี่แหละครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะถ่ายของกินมาด้วย แต่พออาหารมาความคิดมันหายไปทันทีเลย แหะๆ
หลังจากท้องอิ่มกันเรียบร้อยแล้วก็เดินอยู่แถวๆนั้นซักพักครับ จนไปเจอป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่มีคนมาถ่ายรูปกันเต็มไปหมดเลย
ได้เวลาไปดุ Buckingham Palace กันแล้ว พวกผมใช้วิธีนั่งรถเมล์กันนะครับ ไปลงแถวๆ Green Park ใช้เวลาไม่นานครับ
พอถึงป้ายรถเมล์ก็เดินผ่านสวนกัน ใบไม้ไม่เหลือแล้ว.... เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วแหละครับ ก่อนพ้นเขตสวนเราก็จะพบกับน้องหมี 1 ตัว (ตั้งเฉพาะช่วงนั้นนะครับ) ใครไปทีหลังหาน้องหมีไม่เจอไม่ต้องเสียเวลาหานะครับ
หันหลังจากน้องหมีมาเดินข้ามถนนอีกหน่อย ก็จะถึง Buckingham Palace คนเกาะรั้วกันเยอะมากครับ
ผมเลยฝ่าเข้าดูหน่อยว่าเค้าถ่ายอะไรกัน ที่แท้ก็ถ่ายทหารยามนี่เอง ตอนแรกผมคิดว่าเค้าจะใส่ชุดแดงๆซะอีก
ฝั้งตรงข้ามจะเป็น Victoria Memorial ครับ ก็สวยดี
ด้วยความที่ผมมีเวลาไม่มากนักเพราะช่วงหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกเร็วมากกกกกกกกกกก แถมรถ Tube (Underground) ก็ไม่ค่อยมี เลยต้องใช้รถเมล์แทน ผมก็เลยขอลาจาก Buckingham Palace ก่อนละกันนะครับ เพราะยังต้องไป Tower Bridge กันอีก
จากตรง Buckingham Palace ใช้เวลา45นาทีครับกว่าจะถึง Tower Bridge นานมากกกกกกก
ไปถึงมืดพอดีครับตามที่คิดเลย
แต่วิวตอนกลางคืนก็สวยครับ คอนเฟิร์มเลย
สวยขนาดนี้ก็ถ่ายกันหน่อยละกันครับ
ผู้ร่วมทางจะกินหัวไกด์ซะแล้ว
ผมขอถ่ายกับไกด์มั่ง
นอกจาก Tower Bridge ก็จะมี London Tower อยู่ข้างๆครับ จริงๆมีโอกาสก็น่าจะไปดูนะครับ
เดินตามแม่น้ำไปอีกนิดนึง จะมีวิวจากอาคารสวยๆ The Shard Tower เปิดไฟยิงขึ้นไปบนฟ้ากระทบก้อนเมฆสวยมากๆเลย
หลังจากดื่มด่ำกับแสงไฟยามค่ำคืนของ Tower Bridge พวกผมก็เดินทางกลับไป Waterloo กันอีกครั้งเพื่อเตรียมการแยกย้าย
ระหว่างรอรถ พวกเพื่อนผมก็เข้าไปซื้อของกันใน Boots ส่วนผมขอวิ่งไปถ่ายรูป London Eye ยามค่ำคืนอีกซักรูป
ระหว่างทางวื่งกลับมาก็ขอถ่ายบรรยากาศถนน London ยามค่ำคืนซักหน่อย
พอสุดท้ายมารวมตัวกันอีกครั้งเตรียมตัวบอกลากัน คุณไกด์ผู้น่ารักชวนไปกินข้าวเย็นที่บ้านครับ
โอ้ว... แผนเปลี่ยนอีกครั้งแต่รอบนี้โอเครเลยเพื่อของฟรี อิอิ
ผมขอจบกับ London เอาไว้เท่านี้นะครับ
เดี๋ยวผมจะมาต่อกับ Cambridge Oxford Bath กันต่อไปนะครับ
[CR] เที่ยวอังกฤษหนึ่งอาทิตย์ London Cambridge Oxford Bath
แอบตื่นเต้นเล็กๆนะครับ พอดีเป็นกระทู้แรกที่เขียนใน Pantip เลย
ถ้ามีอะไรผิดพลาดช่วยแนะนำด้วยครับ
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือคุณเพื่อนท่านหนึ่งของผมเองได้ชวนไปเที่ยวที่อังกฤษแล้วจะเป็นคนพาทัวร์เอง
ผมรีบเปิดดูราคาตั๋วทันที อยากไปมานานแล้วประเทศนี้ คว้าตั๋วทำวีซ่าเรียบร้อย แต่เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นก่อนเดินทางไม่กี่วัน
คุณเพื่อนสุดที่รักบอกว่าไม่ว่างแล้ว คงไม่เที่ยวด้วยไม่ได้.... อึ้งไปเลยสิครับ รีบไลน์หาเพื่อนคนอื่นหวังเป็นที่พึ่ง แล้วก็ได้ข่าวดีจากเพื่อนที่มาเที่ยวลอนดอนพอดี
เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่าก่อนที่จะยืดเยื้อไปกว่านี้
ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 8วัน 7คืน (26 ธันวาคม ถึง 2 มการาคม) แต่วันที่ 26 กับ 2 อย่าไปนับมันเลยครับ ไปถึงดึกกลับก็เช้า
วันที่ 26 ธค
ออกเดินทางจากเยอรมัน Koln/Bonn airport ตอนประมาณ 3ทุ่ม ลืมบอกไปผมเรียนอยู่ที่เยอรมันครับ
หลังจากใช้เวลาเดินทาง 1ชม. ก็ถึงสนามบิน Gatwick จากสนามบินใช้เวลานั่งรถบัสอีกประมาณ 2ชม. เพื่อเข้าไปตัวเมือง London (นานกว่าเดินทางจากเยอรมันมาซะอีก) กว่าจะถึงที่พักก็ดึกแล้วเลยขอนอนตายก่อนนะครับ สำหรับวันแรก
วันที่ 27 ธค
เดินทางไปสถานี Paddington เพื่อไปเจอเพื่อนที่นัดเอาไว้ ตามแผนที่เพื่อนบอกวันนี้จะไป Bath กัน แต่!!!!!!!!!!!!!!!
รถไฟไม่วิ่งครับวันนี้ เนื่องจากเหตุใดก็แล้วแต่ คาดว่าเป็นเพราะหลังวัน Christmas พอดี.... ทริป Bath วันนี้จึงถูกยุบไป เปลี่ยนเป็นเที่ยวใน London แทน
จากสถานี Paddington นั่ง underground ไม่นานก็จะถึง สถานี Waterloo ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นทริปอังกฤษอย่างแท้จริง
เดินตามป้าย London Eye ไปซักพัก จะหลุดออกมาจากสถานี และแล้ว....
เจอ Landmark ที่แรกแล้วคร้าบบบบบบบบบบบ London Eye แต่มองไปมองมาทำไมมันให้ความรู้สึกเหมือนชิงช้าสวรรค์ที่ Asiatique เลยก็ไม่รู้แฮะ
เอารูปมุมด้านล่างมาฝากกันมั่ง ถ่ายผ่านต้นไม้แห้งๆซะเลย
ตอนแรกก็คิดว่าจะขึ้นนะครับ แต่ว่าด้วยความยาวของแถวประกอบกับราคา เลยคิดว่าไม่ดีกว่า แหะๆ
เอาล่ะครับเดินต่อๆ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เป้าหมายต่อไปอยู่ข้างหน้าแล้ววววว
คุณลุง Big Ben!!!!!!! เห็นมันอยู่ไกลๆแล้ว ระหว่างทางไปถ่ายรูปให้ไกด์นิดนึง
จาก London Eye ไป Big Ben เดินไปนิดๆข้ามสะพานอีกหน่อยก็ถึงละครับ
เอารูปบรรยากาศบนสะพานมากฝากกันนะครับ เอาล่ะครับถึงกันแล้วกับคุณลุง Big Ben!!!
ยิ่งใหญ่มากครับ หอนาฬิกาขนาดยักษ์เฝ้ารอมาแต่เด็กว่าซักครั้งต้องมาให้ได้
จาก Big Ben เดินไปอีกนิดหน่อยไม่ไกลมากก็จะถึง Westminster Abbey ซึ่งเป็นสถานที่แต่งงานของเจ้าชาย William กันนะครับ
อันนี้เป็นตัวโบสถ์ด้านนอกดูยิ่งใหญ่มากครับ ที่นี่เพื่อนอยากเข้าไปดูเลยโอเคต่อแถวยาวเป็นงุเหลือมพันรอบต้นไม้ 250 รอบก็ถึงเวลาจ่ายเงินค่าตั๋ว
สำหรับนักเรียนจะมีส่วนลดนะครับ แนะนำว่ามาที่นี่ยื่นไปก่อนครับ จะเป็นบัตรนักเรียนประเทศไหนก็แล้วแต่ แล้วให้คนขายตัดสินใจครับว่าโอเครึเปล่า
สำหรับผมใช้บัตรนักเรียนเยอรมัน ได้ส่วนลดนักเรียนมานิดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ
จ่ายเงินเสร็จแล้วอย่าลืมไปรับแผนที่กับเครื่องบรรยายนะครับจะได้ดื่มด่ำกับโบสถ์เก่าแห่งนี้กันหน่อย(เอาให้คุ้มค่าบัตร ) ภายในตัวอาคารเค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ เสียดายมากบอกเลย แต่หลังจากเดินชมตัวอาคารภายในหมดทั้ง 20 จุดตามแผนที่ที่ได้มา ยังไม่จบครับ... ออกไปดูด้านนอกกันอีกนิดนึง ตรงนี้สามารถถ่ายรูปได้แล้วครับ เอารูปมาฝากกันเล็กน้อย
โอเคคับ จบไปอีก 1ที่กับ Westminster Abbey ออกมาด้านหน้าก็มาเจอเพื่อนอีกคนที่จะมาร่วมทริปกันตั้งแต่เช้า แต่เนื่องจากเจอปัญหารถไฟเลยพึ่งได้เจอกัน ต่อกันครับ จากโบสถ์ถ้ามองย้อนกลับไปก็จะเห็น หอนาฬิกา Big Ben นะครับก็สวยดี
พอได้เวลาบ่ายกว่าๆ ท้องของผู้ร่วมเดินทางทั้ง 4 คนเริ่มร้องรุนแรง พวกเราเลยเดินไปถึงส่วนของ China Town ของ London กัน
มื้อเที่ยงของพวกผมก็จบลงกันที่นี่แหละครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะถ่ายของกินมาด้วย แต่พออาหารมาความคิดมันหายไปทันทีเลย แหะๆ
หลังจากท้องอิ่มกันเรียบร้อยแล้วก็เดินอยู่แถวๆนั้นซักพักครับ จนไปเจอป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่มีคนมาถ่ายรูปกันเต็มไปหมดเลย
ได้เวลาไปดุ Buckingham Palace กันแล้ว พวกผมใช้วิธีนั่งรถเมล์กันนะครับ ไปลงแถวๆ Green Park ใช้เวลาไม่นานครับ
พอถึงป้ายรถเมล์ก็เดินผ่านสวนกัน ใบไม้ไม่เหลือแล้ว.... เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวแล้วแหละครับ ก่อนพ้นเขตสวนเราก็จะพบกับน้องหมี 1 ตัว (ตั้งเฉพาะช่วงนั้นนะครับ) ใครไปทีหลังหาน้องหมีไม่เจอไม่ต้องเสียเวลาหานะครับ
หันหลังจากน้องหมีมาเดินข้ามถนนอีกหน่อย ก็จะถึง Buckingham Palace คนเกาะรั้วกันเยอะมากครับ
ผมเลยฝ่าเข้าดูหน่อยว่าเค้าถ่ายอะไรกัน ที่แท้ก็ถ่ายทหารยามนี่เอง ตอนแรกผมคิดว่าเค้าจะใส่ชุดแดงๆซะอีก
ฝั้งตรงข้ามจะเป็น Victoria Memorial ครับ ก็สวยดี
ด้วยความที่ผมมีเวลาไม่มากนักเพราะช่วงหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกเร็วมากกกกกกกกกกก แถมรถ Tube (Underground) ก็ไม่ค่อยมี เลยต้องใช้รถเมล์แทน ผมก็เลยขอลาจาก Buckingham Palace ก่อนละกันนะครับ เพราะยังต้องไป Tower Bridge กันอีก
จากตรง Buckingham Palace ใช้เวลา45นาทีครับกว่าจะถึง Tower Bridge นานมากกกกกกก ไปถึงมืดพอดีครับตามที่คิดเลย
แต่วิวตอนกลางคืนก็สวยครับ คอนเฟิร์มเลย
สวยขนาดนี้ก็ถ่ายกันหน่อยละกันครับ
ผู้ร่วมทางจะกินหัวไกด์ซะแล้ว
ผมขอถ่ายกับไกด์มั่ง
นอกจาก Tower Bridge ก็จะมี London Tower อยู่ข้างๆครับ จริงๆมีโอกาสก็น่าจะไปดูนะครับ
เดินตามแม่น้ำไปอีกนิดนึง จะมีวิวจากอาคารสวยๆ The Shard Tower เปิดไฟยิงขึ้นไปบนฟ้ากระทบก้อนเมฆสวยมากๆเลย
หลังจากดื่มด่ำกับแสงไฟยามค่ำคืนของ Tower Bridge พวกผมก็เดินทางกลับไป Waterloo กันอีกครั้งเพื่อเตรียมการแยกย้าย
ระหว่างรอรถ พวกเพื่อนผมก็เข้าไปซื้อของกันใน Boots ส่วนผมขอวิ่งไปถ่ายรูป London Eye ยามค่ำคืนอีกซักรูป
ระหว่างทางวื่งกลับมาก็ขอถ่ายบรรยากาศถนน London ยามค่ำคืนซักหน่อย
พอสุดท้ายมารวมตัวกันอีกครั้งเตรียมตัวบอกลากัน คุณไกด์ผู้น่ารักชวนไปกินข้าวเย็นที่บ้านครับ
โอ้ว... แผนเปลี่ยนอีกครั้งแต่รอบนี้โอเครเลยเพื่อของฟรี อิอิ
ผมขอจบกับ London เอาไว้เท่านี้นะครับ
เดี๋ยวผมจะมาต่อกับ Cambridge Oxford Bath กันต่อไปนะครับ