เราชอบอ่านกระทู้มาก แต่ไม่ได้ตั้งคำถามมานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้เรามีเรื่องค้างคาใจ ไม่รู้จะทำไงดี
คือ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เรามีอาการปวดท้อง ประจำเดือนมามาก มีอาการปวดท้องมากทุกครั้ง ปวดถึงขนาดเป็นลมหมดสติได้เลย
อาการจะเกิดขึ้นทุกเดือนที่มีประจำเดือน วันนั้นเราปวดท้องประจำเดือนมาก ประจำเดือนกำลังมาเลย ไปหาคุณหมอ คุณหมอ(ผู้ชาย)ที่ตรวจบอกว่า
ให้ขึ้นขาหยั่งดูภายใน เราก็อายนะ แต่ด้วยความที่ปวดท้องเราก็ขึ้นขาหยั่ง คุณหมอก็ใช้กล้องอัลตราซาวน์เข้าไปตรวจ แล้วพบว่าเรามีก้อนซีส 3 ซม.
หมอถามว่าเราต้องการผ่าตัดเอาออกไหม ด้วยความกลัวเราเลยไม่กล้า ขอรักษาแบบอื่นดูได้ไหม คุณหมอก็ตอบตกลง โอเค เดี๋ยวจะให้ยาคุมกำเนิดไป
รับประทานดูนะ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็มาพบตามนัดทุกครั้ง มีการส่องกล้องตรวจดูอีก หลังหมดประจำเดือน เพราะ คุณหมอแจ้งว่า ควรมาตรวจดูบ่อยๆจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของซีสว่ามีการแตก หรือเล็กลงหรือไม่ เราก็กินบ้างหยุดบ้างตามประสาคนขี้ลืม แล้วพอดีช่วงที่ผ่านมาหลายๆเดือนมีงานเยอะมาตลอด ไม่ได้กลับไปตรวจอีก แต่มีโอกาสเจอคุณหมอบ้างเป็นครั้งคราวเวลาคุณหมอมาที่ทำงานเรา(ที่ทำงานเรากะที่ทำงานคุณหมอไม่ไกลกันค่ะ) แต่ไคลแมกซ์มาอยู่ที่ช่วงนี้เราหยุดทานยาเม็ดคุมกำเนิด แล้วช่วงประจำเดือนมาเดือนที่แล้วเราปวดท้องมาก หลังหมดประจำเดือน เราก็มีอาการปวดท้องต่อเป็นพักๆ บางคืนปวดท้องจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ปวดท้องเหมือนมดลูกบีบตัวแรงมาก เราเกือบจะเป็นลม เลยกลับไปพบคุณหมอท่านนี้อีก ปรากฏว่า ซีสเราจาก 3 ซม. โตขึ้นเป็นลูก 5 ซม. เราแทบตกใจ คุณหมอแจ้งว่าถ้าประจำเดือนมารอบหน้า ให้มาตรวจแบบเดิมกับคุณหมออีก แล้วมีการพูดคุยซักถามอาการโดยละเอียด คุณหมอเลยขอเบอร์โทรเราไป เผื่อติดต่อธุระ เราก็เลยให้ ปรากฏว่าหลังจากนั้นคุณหมอโทรมาคุย คุยตลอด จนสุดท้ายหมอได้บอกว่าถ้าเป็นไปได้หมอจะจีบเรา (ขุ่นพระ) เราไม่ได้คิดอะไรกับคุณหมอเลยค่ะ แล้วเนี่ยถ้าประจำเดือนมาแล้วต้องไปขึ้นขาหยั่งเราคงทำไม่ได้แล้ว เราอายค่ะ เราควรจะบอกคุณหมอยังไงดีคะว่าเราเคารพคุณหมอในฐานะคุณหมอ เราไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แล้วเราทราบมาว่าคุณหมอมีแฟนอยู่แล้ว เราตอนนี้ค่อนข้างหนักใจค่ะ อยากตรวจซีสมาก แต่ไม่กล้ากลับไปหาคุณหมอเจ้าของไข้อีก มีใครพอแนะนำหมอสูติเก่งที่เป็นคุณหมอผู้หญิงไหมคะ ที่ผ่าตัดเก่งๆยิ่งดีค่ะ เผื่อว่าต้องเอาซีสออก แนะนำรพ.ให้ทีสิคะ แล้วตรวจสูติต้องตรวจภายในขึ้นขาหยั่งอย่างเดียวเหรอคะ แล้วเราควรบอกคุณหมอยังไงดี กลัวคุณหมอ และกลัวทั้งอาการตัวเองค่ะ
เป็นคนไข้คุณหมออยู่ดี แต่คุณหมอแอบคิดอะไรด้วย ทำไงดีคะ???
คือ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เรามีอาการปวดท้อง ประจำเดือนมามาก มีอาการปวดท้องมากทุกครั้ง ปวดถึงขนาดเป็นลมหมดสติได้เลย
อาการจะเกิดขึ้นทุกเดือนที่มีประจำเดือน วันนั้นเราปวดท้องประจำเดือนมาก ประจำเดือนกำลังมาเลย ไปหาคุณหมอ คุณหมอ(ผู้ชาย)ที่ตรวจบอกว่า
ให้ขึ้นขาหยั่งดูภายใน เราก็อายนะ แต่ด้วยความที่ปวดท้องเราก็ขึ้นขาหยั่ง คุณหมอก็ใช้กล้องอัลตราซาวน์เข้าไปตรวจ แล้วพบว่าเรามีก้อนซีส 3 ซม.
หมอถามว่าเราต้องการผ่าตัดเอาออกไหม ด้วยความกลัวเราเลยไม่กล้า ขอรักษาแบบอื่นดูได้ไหม คุณหมอก็ตอบตกลง โอเค เดี๋ยวจะให้ยาคุมกำเนิดไป
รับประทานดูนะ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็มาพบตามนัดทุกครั้ง มีการส่องกล้องตรวจดูอีก หลังหมดประจำเดือน เพราะ คุณหมอแจ้งว่า ควรมาตรวจดูบ่อยๆจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของซีสว่ามีการแตก หรือเล็กลงหรือไม่ เราก็กินบ้างหยุดบ้างตามประสาคนขี้ลืม แล้วพอดีช่วงที่ผ่านมาหลายๆเดือนมีงานเยอะมาตลอด ไม่ได้กลับไปตรวจอีก แต่มีโอกาสเจอคุณหมอบ้างเป็นครั้งคราวเวลาคุณหมอมาที่ทำงานเรา(ที่ทำงานเรากะที่ทำงานคุณหมอไม่ไกลกันค่ะ) แต่ไคลแมกซ์มาอยู่ที่ช่วงนี้เราหยุดทานยาเม็ดคุมกำเนิด แล้วช่วงประจำเดือนมาเดือนที่แล้วเราปวดท้องมาก หลังหมดประจำเดือน เราก็มีอาการปวดท้องต่อเป็นพักๆ บางคืนปวดท้องจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ปวดท้องเหมือนมดลูกบีบตัวแรงมาก เราเกือบจะเป็นลม เลยกลับไปพบคุณหมอท่านนี้อีก ปรากฏว่า ซีสเราจาก 3 ซม. โตขึ้นเป็นลูก 5 ซม. เราแทบตกใจ คุณหมอแจ้งว่าถ้าประจำเดือนมารอบหน้า ให้มาตรวจแบบเดิมกับคุณหมออีก แล้วมีการพูดคุยซักถามอาการโดยละเอียด คุณหมอเลยขอเบอร์โทรเราไป เผื่อติดต่อธุระ เราก็เลยให้ ปรากฏว่าหลังจากนั้นคุณหมอโทรมาคุย คุยตลอด จนสุดท้ายหมอได้บอกว่าถ้าเป็นไปได้หมอจะจีบเรา (ขุ่นพระ) เราไม่ได้คิดอะไรกับคุณหมอเลยค่ะ แล้วเนี่ยถ้าประจำเดือนมาแล้วต้องไปขึ้นขาหยั่งเราคงทำไม่ได้แล้ว เราอายค่ะ เราควรจะบอกคุณหมอยังไงดีคะว่าเราเคารพคุณหมอในฐานะคุณหมอ เราไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แล้วเราทราบมาว่าคุณหมอมีแฟนอยู่แล้ว เราตอนนี้ค่อนข้างหนักใจค่ะ อยากตรวจซีสมาก แต่ไม่กล้ากลับไปหาคุณหมอเจ้าของไข้อีก มีใครพอแนะนำหมอสูติเก่งที่เป็นคุณหมอผู้หญิงไหมคะ ที่ผ่าตัดเก่งๆยิ่งดีค่ะ เผื่อว่าต้องเอาซีสออก แนะนำรพ.ให้ทีสิคะ แล้วตรวจสูติต้องตรวจภายในขึ้นขาหยั่งอย่างเดียวเหรอคะ แล้วเราควรบอกคุณหมอยังไงดี กลัวคุณหมอ และกลัวทั้งอาการตัวเองค่ะ