เหตุการณ์มันมีอยู่ว่า เอเพิ่งจะถอยรถได้เกือบจะปีนึงแล้วค่ะ มีนา 58 ก้อจะครบปี เดิมทีเอใช้ประกันของธนชาต เพราะปีแรกทางศูนย์บังคับ แต่เอไม่ประทับใจการบริการมาก เพราะเคลมรอนานมากๆๆๆ(หมายถึงรอเจ้าหน้าที่มายังที่เกิดเหตุ)และไม่ประทับใจในการบริการ ก้อเลยคิดไว้ว่าปีหน้ากูเปลี่ยนบริษัทแน่ เอเลยเอาให้คุ้มเลยค่ะ เคลมทั้งหมด3รอบเลย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก้อไม่ได้เกิดขึ้นกับธนชาตนะค่ะ แต่เกิดหลังจากนั้น สืบเนื่องจากประกันใกล้จะหมด และเป็นเวลาช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี ปลายปี 57-58 บริษัทประกันต่างๆๆก้อจะพากันปิดยอด ต้องการยอดในการขายเลยกระหน่ำโทรหาเรา แต่มีของบริษัทนึงที่โทรมาบ่อยที่สุด นั่นคือ A L L INSURE BROKER โทรมา 3 รอบ ทั้งๆๆที่ก่อนหน้านี้เราก็ปฏิเสธไปแล้ว และด้วยนิสัยส่วนตัวคือ ขี้เกียจรำคาญ เอเลยแก้ปัญหาด้วยการตัดสินใจทำประกันกับที่นี่ เพราะเจ้าหน้าที่ ที่โทรมา บอกว่าโทรมาจากสำนักงานใหญ่ของศูนย์ฮอนด้า เขาสามารถบอกรายละเอียดของรถเราได้ถูกต้อง ทั้งทะเบียน ยี่ห้อ และช่วงเวลาที่หมดประกัน(คือเอามาจากไหน ใครอนนุญาต??? ฝากถามศูนย์ฮอนด้าด้วยนะคะ)และได้ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ การต่อประกันภัยรถยนต์เลย เราก้อเชื่อ และตกลงทำประกันภัยกับเขาโดยเป็นของบริษัท KP ชื่อย่อ(ขอไม่เอ่ยขื่อแล้วกัน) เบี้ยประกัน 18000 ทุนประกัน 500000 สามารถแบ่งจ่ายได้ แล้วเราก้อจ่ายงวดแรกไป 3000 บาท แล้วเจ้าหน้าที่ ชื่อกาญน์ ก้อบอกว่าพรุ่งนี้จะให้พนักงานเข้าไปจดเลขตัวถังรถ และเอาใบเสร็จการรับเงินมาให้ ผ่านไป 2 วัน เอาก้อยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอดูเลขตัวถังรถ และได้มีอีกบริษัทนึงโทรเข้ามา บอกเหมือนกันว่า โทรมาจากสำนักงานใหญ่ของศูนย์ฮอนด้า เราก้อ เอ๊า แล้วอีที่โทรมาเมื่อวานเป็นใคร เอเลยถามเขาว่า เมื่อวานก้อโทรมานี่ค่ะ จากสำนักงานใหญ่เหมือนกัน ทำไมถึงโทรมาบ่อยจัง เขาเลยบอกว่า เพิ่งโทรมาวันนี้วันแรก เอเลยคิดว่า เอาแล้วโดนหลอกเสียตังฟรีแล้วตรู เราเลยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้บริษัทที่ 2 ฟัง เขาบอกว่าไม่เคยได้ยินชื่อของบริษัทนี้มาก่อน เราเลยเตี๊ยมกันกับบริษัทที่2 ว่าเป็นพี่ชายของเรา (ขอแทนว่าคุณบีแล้วกัน ) ให้คุณบีโทรไป โดยได้เอาเบอร์โทรจากเราไป และได้เกิดการสาวไส้กันเกิดขึ้น ระหว่าง 2 บริษัท และทันทีที่คุณบีโทรหาคุณกาญน์เสร็จก้อได้โทรกลับหาเอ คุณบีบอกว่า คุณกาญน์เป็นแค่โบรคเกอร์ ของบริษัทเท่านั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องได้ๆๆเลยกับทางศูนย์ฮอนด้า และไม่สามารถตอบคำถามใดๆๆของคุณบีได้เลย เอก้อ เอาแล้วไงโดนหลอกแล้วมั้ยหล่ะตรู หลังจากนั้นเอเลยโทรไปหาคุณกาญน์ บอกว่าขอยกเลิกการทำประกัน คุณกาญน์บอกว่ายกเลิกไม่ได้ค่ะ เพราะเราได้ทำหนังสือเรียบร้อยแล้ว เราก้อหรอคะ เราเริ่มก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรม และได้โทรหาคุณบีอีกครั้ง คุณบีบอกว่ายกเลิกได้ เราเลยโทรหาคุณกาญน์ บอกว่าจะขอยกเลิกเพราะมันสามารถยกเลิกได้ และเอได้ถามว่าตัดเงินไปหรือยัง ปรกฎว่า ตัดเงินไปแล้ว 3000 ค่ะ เราเลยถามว่าแล้วจะเอายังไงต่อ(พูดเริ่มมีอารมรณ์แล้ว) คุณกาญน์บอกว่าจะคืนเงินให้ แต่จะต้องรอฝ่ายบัญชีของบริษัทติดต่อกลับ เดี๋ยวคุณกาญน์จะดำเนินเรื่องให้ ผ่านไป 2 เดือนจะเข้า 3 เดือนแล้ว เอ ก้อยังไม่ได้เงินคืนเลยค่ะ โทรหานางทุกอาทิตย์ ตอนนั้นสิ้นเดือน พย  เดือนธันวาก้อโทรทุกอาทิตย์ แต่เมือ่วันที่ 12 ธันวา นางติดต่อกลับมา บอกว่าขอเอกสารบัตร ปชช และหน้าบุ๊คของเอ บอกว่าจะคืนเงินให้ แต่จะได้ไม่เต็มจำนวน 3000 โดยบริษัทจะหักค่าดำเนินการ 1000 เงินเอก้อจะเหลือแค่2000 เอเลยถามว่าแพงไปหรือป่าว ค่าดำเนินการอะไรของคุณ คุณกาญน์เลยบอกว่าเป็นค่าดำเนินการค่ะ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าค่าอะไรบ้าง เอก้อเริ่มโมโหแล้ว คิดในใจ ว่าจะเอาเงินกูไปกินฟรีๆๆสินะ และประโยคเด็ดของนางที่พูดทุกรอบที่เอโทรไปคือหากคุณเอ เปลี่ยนใจกลับมาทำประกัน กาญน์ จะมีส่วนลดให้พิเศษ  เอก้อเลยว่า นี่เริ่มต้นด้วยการหลอกลวงยังจะให้กูเชื่อใจได้อีกหรอ เอบอกว่า ไม่หล่ะค่ะ แล้วนางก้อบอกว่าสิ้นเดือน กุมภา ถึงจะได้เงินคืน เราก้อแบบว่า นานจังเลยนะคะ เงินก้อเงินฉันพวกคุณเอาไปหมุนกันอยู่หลายเดือนเลยทีเดียว นางบอกว่าถ้าเกิดโอนเงินให้ซึ้งจะมาในรูปแบบเช็ค (เราเลยสงสัยว่าในเมื่อจะคืนใบรูปแบบเช็คทำไมจะต้องเอาหน้าบุ๊คด้วย) จะแจ้งให้เอ ทราบ เอก้อได้แต่รอ แล้วรออีก ว่าจะได้เงินคืนหรือป่าว ถ้ายังไงแล้ว เอจะมาอัปเดทความคืบหน้าให้ทุกคนฟังนะค่ะ แต่ตอนนี้ได้แค่รอ นี่เป็นความโง่ส่วนตัวล้วนๆๆเลยค่า ความยล้วนๆๆไม่มีวัวผสมเลย และข้อคิดที่เอได้จากเรื่องนี้คือ
1. ก่อนจะทำสัญญาอะไรกับใคร ให้ถามชื่อ นามสกุลของเจ้าหน้าที่ไว้ และเขียนไว้
2. ให้ถามเลขใบอนุญาตการขายประกันของเขา ซึ่งคุณบีฝากบอกมาว่าจะต้องมี 10 หลักถึงจะเป็นของจิง ถ้ามีน้อยกว่านั้นถือว่าเป็นมิจฉาชีพ และเราก้อสามารถตรวจสอบได้ในเว็ปของ สคบ
3. ขอที่อยู่ของบริษัท
4. ให้อัดเสียงการสนทนาเอาไว้ด้วยนะค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์ในการณ์ข้างหน้า
5. ถ้าจะให้ดีที่สุด ปฎิเสธแบบเสียงแข็งไปเลยค่ะว่า ไม่ทำ
6. อันนี้สำคัญมาก หากต้องการความชัวร์เลยแบบไม่ถูกหลอกแน่นอน คือ โทรหาศูนย์ที่เราออกรถ แล้วบอกว่าจะขอต่อประกันกับเขา มันจะมีหลายบริษัทให้เลือก เราก้อเลือกเอาตามความสนใจของเรา หรือไม่ก้อ โทรหาเซลล์ที่ขายรถ ถามว่ามีบริษัทไหนรู้จักกันบ้างหรือป่าว เผื่อได้ส่วนลดพิเศษ
สุดท้ายแล้ว เอ ได้แต่ปลงกับตัวเองว่า หากไม่ได้เงินคืนจิงๆๆ คงเป็นเวรกรรมของเอเอง ชาติที่แล้วคงไปเอาของเขามา ชาตินี้เลยโดนเอาคืน เอทำใจแล้วค่ะว่าจะไม่ได้เงินคืน แต่อีกใจก้อแอบหวังอยู่เหมือนกัน ก้อเงินเรานี่หน่า ตั้ง 2000 แหน่ะ เอเลยอยากให้ประสบการณ์ของเอ ได้มีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง เพราะมันเป็นบทเรียนที่แพงมากๆ หากใครอยากได้เบอร์โทร หรือต้องการทราบข้อมูลที่เอ ไม่ได้ลงรายละเอียดไป ถามได้หลังไมค์นะค่ะ กระทู้นี้ อับ 3 รอบ แต่ทำไมข้อมูลมันไม่ขึ้นก้อไม่รู้ หรือ เอ ทำไม่เป็นก้อไม่รุ้นะค่ะ ท่านที่เข้ามาอ่านเลยไม่เห็นรายละเอียด ต้องขอโทษมา ณ โอกาศนี้นะค่ะ