[CR] Review ศูนย์สอบ TOEFL IBT เกษมบัณฑิต vs. OBAC

กระทู้รีวิว
สวัสดีค่ะ เนื่องจากปลายปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปสอบ TOEFL IBT โดยสมัครสอบไปทั้งหมดสามครั้ง วันนี้เลยจะมารีวิวสนามสอบที่เคยไปสอบให้ฟังตามความคิดเห็นเห็นส่วนตั๊วส่วนตัวจริงๆนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังตัดสินใจเนื่องจากอย่างที่ทราบกันดีว่าสภาพแวดล้อมของสนามสอบค่อนข้างส่งผลต่อการทำข้อสอบพอสมควรค่ะ
ครั้งแรก    สอบวันเสาร์ OBAC ลาดกระบัง จากการสังเกตจะเป็นศูนย์สอบที่เหลืออยู่เป็นที่สุดท้ายสมัครวินาทีสุดท้ายแค่ไหนก็ยังเหลือที่ให้สอบ
ครั้งที่สอง สอบวันเสาร์ เกษมบัณฑิต ศูนย์สอบท็อปฮิตเห็นติดทุกโผทุกที่ที่รีวิวสนามสอบ ถ้าไม่สมัครล่วงหน้าหน่อยก็หมดโอกาสค่ะ
ครั้งที่สาม สอบวันอาทิตย์ OBAC ลาดกระบังเช่นเดิมค่ะ
ทำไมต้องแบ่งวันเสาร์วันอาทิตย์จะมีเกี่ยวข้องกับรายละเอียดเล็กน้อยค่ะ
รีวิวแค่ 2 ศูนย์สอบนะคะ ที่อื่นไม่เคยไปเลยจริงๆ อาจจะดีกว่าหรือแย่กว่าไม่ทราบจริงๆค่ะ ถ้าท่านใดอยากร่วมแบ่งปันข้อมูลศูนย์สอบที่อื่นก็มาร่วมกันได้นะคะ
เอกสารที่ใช้เข้าสอบอันนี้ทั่วๆไปนะคะศูนย์สอบไหนก็เหมือนกันคือ บัตรเข้าสอบที่ทาง ETS ออกให้ บัตรประชาชน และพาสปอร์ต 3 อย่างนะคะ อันนี้จากที่หาข้อมูลมามีแต่คนแนะนำว่าให้เอาไปทั้งบัตรประชาชนและพาสปอร์ตก็เลยเอาไปหมด ตอนไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าดูยังไง เอาเป็นว่าเอาไปทั้งหมดก่อนเลยค่ะชัวร์ๆ

1. สมัครสอบ

       เกษมบัณฑิต  : อย่างที่บอกว่าเนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าสนามสอบที่นี่ดีมาก ก็จะต้องจองล่วงหน้านานหน่อยอย่างตอนที่เราสมัครก็จองล่วงหน้าประมาณสองเดือนค่ะ

       OBAC  : สนามสอบนี้จากการสมัครสอบทั้งสามครั้งจะสังเกตว่ามักจะเหลือเป็นที่สุดท้ายตลอดค่ะ ครั้งแรกที่เราจะสมัครสอบเราสมัครล่วงหน้าแค่ไม่ถึงสองอาทิตย์ก็ยังเหลือที่นั่งให้สอบค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าเอาล่ะ ที่นี่ก็ที่นี่ ในเมื่อมันต้องใช้คะแนนสอบก็ต้องไป

2. การเดินทาง
จริงๆหัวข้อนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่ามาจากที่ไหนนะคะ แต่ถ้าใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ – ชลบุรี สายใหม่

       เกษมบัณฑิต : จะต้องออกร่มเกล้าแล้ววิ่งต่อไปอีกค่อนข้างไกลเกือบถึงมีนบุรีค่ะ

       OBAC : ออกจากมอเตอร์เวย์ปุ๊ปจะถึงเลยค่ะ
ส่วนแผนที่โดยละเอียดลองเสิชหากันดูนะคะทั้งสองที่ไปไม่ยากเลยค่ะ

3. ที่จอดรถ

       เกษมบัณฑิต : พอเข้าไปในตัวมหาวิทยาลัยก็จะสามารถไปจอดที่ข้างๆตึกสอบหรือตามแนวรอบๆรั้วได้ค่ะ ตึกที่สอบจะเป็นตึกที่สองหลังจากเข้าไปในตัวมหาวิทยาลัยแล้วนะคะ จำชื่อตึกไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนั้นเราเข้าไปแล้วก็หลงเพราะนึกว่าคงไม่ยาก ปรากฎต้องวนกลับออกมาถามยามค่ะ พี่ยามก็รู้ข้อมูลหมดทุกอย่างเลยค่ะ ตอนจอดรถถ้าไปเร็วหน่อยก็จะมีที่จอดข้างๆตึกก็เดินเข้าตึกไปขึ้นลิฟท์ได้เลยค่ะ ถือว่าไม่ลำบากมาก ลักษณะศูนย์สอบจะเป็นตึกใหญ่มีหลายๆชั้น ตอนที่ไปสอบก็คอยถามทางพี่ยามกับแม่บ้านว่าไปสอบ TOEFL ทางไหน ชั้นไหน ลิฟท์ไหนเค้าจะรู้กันค่ะ

       OBAC : วันแรกที่ไปสอบวันเสาร์สามารถเข้าไปจอดในบริเวณสถานศึกษาได้เช่นกันค่ะ ลักษณะศูนย์สอบจะเป็นตึกเล็กๆมีอยู่ตึกเดียวเลยค่ะไปถึงก็จะรู้เลยห้องสอบก็ชั้นแรกเลย อารมณ์จะเหมือนโรงเรียนเด็กอนุบาลเล็กๆอะค่ะ ไม่งงแน่นอน อย่างที่บอกว่ามันเล็กไปถึงก็จะรู้เลยว่าอยู่ตรงไหน บวกกับเจ้าหน้าที่ก็จะยืนอยู่ตรงนั้นเลยค่ะ แต่พอไปสอบครั้งหลังซึ่งเป็นวันอาทิตย์เค้าไม่เปิดให้เข้าไปจอดรถในรั้วก็ต้องจอดฝั่งตรงข้ามแต่แทบไม่แตกต่างค่ะ เพราะมันก็จะอยู่หน้าสถานศึกษาเลยแค่ไม่ได้ไปจอดในรั้วแค่นั้นเองค่ะ

4. การลงชื่อเข้าสอบ

       เกษมบัณฑิต : ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเริ่มเปิดให้ลงชื่อได้ตอน 8.30 นะคะจะให้เข้าแถวรอลงทะเบียนทีละ 6 คนค่ะ โดยเค้าก็จะมีกระดาษให้กรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วก็ให้ลอกข้อความตามทำนองว่าเราจะไม่เปิดเผยข้อสอบอะไรทำนองนี้เป็นภาษาอังกฤษ เจ้าหน้าที่ 2 คนคอยควบคุมตรวจสอบอยู่รู้สึกคนนึงจะเป็นอาจารย์นะคะ ที่เกษมบัณฑิตบังคับว่าให้เขียนเป็นตัวเขียนเท่านั้นนะคะ ไม่มีตัวอย่างให้ด้วย ก็ต้องนั่งแกะกันไปค่ะ 555 ตอนแรกเราก็งงว่าทำไมลงชื่อกันนานจัง พอไปนั่งเขียนเองถึงได้รู้ค่ะ

       OBAC : ใครไปถึงกี่โมงก็ไปลงทะเบียนได้เลยค่ะ เค้าก็จะเปิดห้องนึงไว้สำหรับลงทะเบียน พอไปถึงก็ยื่นเอกสารแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเอาใบลงทะเบียนสอบให้เราไปนั่งหาที่นั่งว่างกรอกเลยค่ะ ตรงไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องรอเข้าแถว ไปถึงก็เข้าไปลงทะเบียนได้เลยค่ะและที่สำคัญ ไม่ต้องเขียนเป็นตัวเขียนค่ะ เขียนตัวพิมพ์ธรรมดาค่ะ แล้วก็ลงชื่อ เสร็จก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่แล้วก็รอเข้าห้องสอบได้เลยค่ะ บรรยากาศจะสบายๆกว่าที่เกษมบัณฑิตค่ะ

5. เวลาเข้าสอบ

       เกษมบัณฑิต : ลงทะเบียน 8.30 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบทุกคน ซึ่งมันก็เลทค่ะ 9 โมงกว่ายังไม่ได้สอบเลยค่ะเพราะทุกอย่างต้องรอทุกคนพร้อมกัน กลายเป็นว่าเริ่มเลทก็เลิกเลท คือมันจะแล้วแต่เลยว่าทุกคนลงทะเบียนนั่งเขียนตัวเขียนกันเสร็จหรือยัง ถ้ายังไม่เสร็จก็ต้องรอให้เสร็จทุกคนจริงๆค่ะ พอลงทะเบียนเสร็จก็จะให้ไปเข้าแถวหน้าห้อง เจ้าหน้าที่หญิงก็จะจับๆตรวจร่างกายเพราะห้ามนำทุกอย่างเข้ายกเว้นบัตรสอบ กับ ID นาฬิกาก็ห้ามค่ะ เจ้าหน้าที่จะสั่งให้ถอด พอเรียบร้อยก็เข้าห้องสอบไปรอถ่ายรูปอีกค่ะ ถึงจะได้ไปนั่งโต๊ะสอบจริงๆ

       OBAC : เริ่มสอบได้ตั้งแต่ 8 โมงเลยค่ะ ถึงในใบจะระบุว่า 9 โมงก็ตาม วันแรกที่ไปสอบตื่นเต้นเลยไปตั้งแต่ 8 โมงปรากฎพอไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าลงชื่อแล้วเข้าห้องสอบได้เลย พอถามเค้าบอกว่าสนามนี้เริ่มได้ตั้งแต่ 8 โมงค่ะ ประทับใจอีกเพราะจะได้สอบเสร็จเร็วๆ พอลงทะเบียนห้องนึงเสร็จก็ไปเข้าห้องสอบต่อใครพร้อมก่อนก็เข้าไปถ่ายรูปก่อนแล้วก็ไปที่โต๊ะเริ่มสอบได้เลยค่ะ
เรื่องตรวจร่างกาย วันเสาร์ตอนเราไปครั้งแรกไม่มีตรวจร่างกายเลยค่ะ แต่พอไปสอบครั้งหลังวันอาทิตย์กลับมีเอาเครื่องตรวจจับโลหะมาตรวจเลย แต่เค้าก็เหมือนไม่เคร่งมาก เราไม่โดนอะค่ะ เหมือนใครอยู่ตรงนั้นพอดีก็ตรวจใครเข้าไปแล้วก็แล้วไปทำนองนี้ ที่นี่เอานาฬิกาเข้าห้องสอบได้ค่ะ

6. มิตรสัมพันธ์เจ้าหน้าที่

       เกษมบัณฑิต : ภาพลักษณ์จะดูดุๆโหดๆไม่ค่อยยิ้ม มีเจ้าหน้าที่อยู่แค่ 2 คนค่ะแต่ถ้าเราไม่ทำอะไรไม่ถูกต้องก็ไม่มีปัญหาค่ะ อย่าไปขัดเค้าก็พอค่ะ 555 แต่จริงๆเค้าก็ไม่ได้ดุหรือพูดไม่ดีอะไรนะคะ แค่ว่าภาพลักษณ์จะดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากอยู่แล้วแหละค่ะ

       OBAC : น่ารักมากกกกก มีเจ้าหน้าที่วิ่งไปวิ่งมาหลายคน แต่ละคนใจดีมาก จะคอยช่วยเหลือและเป็นห่วงเป็นใยตลอด โดยเฉพาะพนักงานผู้ชายอยู่คนนึงแต่ไม่แน่ใจว่าสาวรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยอย่างสูงค่ะ เวลาเราขออะไรทำอะไรเค้าก็จะยิ้มแป้นเลยค่ะ เวลาไปลงชื่อเข้าห้องสอบจริง ตอนถ่ายรูปตอนไปนั่งโต๊ะ เค้าจะพูดดีมากเป็นกันเองสุดๆ แต่ทุกคนที่นี่คือน่ารักหมดค่ะ บรรยากาศจะรู้สึกเป็นกันเองมากกว่าค่ะ

7. อาหารว่าง

       เกษมบัณฑิต : ที่นี่จะมีอาหารว่างแจกให้ตั้งแต่ตอนที่ลงทะเบียนสอบค่ะ มีขนม 2 อย่าง น้ำผลไม้ 1 กล่องค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นออกมาทานกันตอนเบรค 10 นาทีค่ะ

       OBAC : ไม่มีอาหารว่างให้ค่ะ มีน้ำเปล่าขายขวดละ 10 บาทค่ะ

8. ล็อคเกอร์

       เกษมบัณฑิต : มีล็อคเกอร์ให้ค่ะ กุญแจเก็บไว้กับตัว ตอนพักเบรคสามารถเปิดหยิบของได้ค่ะ ถ้าใครอยากจะทวนคำศัพท์หรือหยิบของก็สามารถมาเปิดได้ค่ะ

       OBAC : เป็นลักษณะรับฝากกระเป๋าค่ะ เมื่อเริ่มเข้าห้องสอบแล้วจะไม่สามารถเปิดได้อีกจนกว่าจะสอบเสร็จ ตอนพักเบรคก็ไม่สามารถมาขอหยิบของได้เลยค่ะ แต่จะมีโต๊ะไว้ให้วางของอยู่หน้าห้องสอบค่ะ ถ้ารู้ตัวว่าตอนพักเบรคอยากดื่มน้ำก็วางไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าสอบตอนแรกเลยค่ะ เพราะถ้าใส่กระเป๋าไว้ในล็อคเกอร์จะไม่สามารถไปหยิบได้ จะวางขนมไว้ก็ได้นะคะเห็นมีคนวางขนมปังทิ้งไว้ตอนพักเบรคออกมาทาน
       ที่อ่านๆดูเค้ามักจะบอกว่าสนามสอบนี้ให้เอากระเป๋าเข้าได้ ไม่จริงนะค้า เอาเข้าไม่ได้ค่ะ อันนั้นอาจจะนานมากแล้วตอนนี้เปลี่ยนแล้วค่ะ

9. โต๊ะ

       เกษมบัณฑิต : ไม่แน่ใจว่ามีคำศัพท์เฉพาะสำหรับลักษณะโต๊ะแบบนี้หรือเปล่านะคะ แต่จะเป็นเหมือนคล้ายๆโต๊ะกลมแล้วมีพาร์ทิชั่นกั้นให้นั่งได้เป็น 4 คนเข้าหากันทำนองนั้นน่ะค่ะ ความเห็นส่วนตัวคือ จะได้ยินเสียงคนข้างๆค่อนข้างชัดค่ะ คิดว่าลักษณะโต๊ะมันค่อนข้างเปิดและใกล้กับคนข้างๆพอสมควร เหมือนกั้นแค่ไม่เห็นหน้าแต่ยังคงได้ยินเสียงอะค่ะ ส่วนตัวไม่ค่อยประทับใจค่ะ

       OBAC : ลักษณะโต๊ะจะเป็นโต๊ะเดี่ยวๆของแต่ละคนเลยค่ะ แล้วแต่ละโต๊ะก็จะเป็นคอกค่ะ ไม่เห็นคนข้างๆเลย ชะเง้อออกมาก็ยังไม่เห็นค่ะ (ตอนนั้นชะเง้อออกมาจะขอกระดาษทดเพิ่มค่ะ กลายเป็นขอลำบากนิดหน่อย)ประทับใจมากเพราะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ถึงขนาดใครในห้องพูดเสียงดังก็จะยังคงรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกรบกวนเลยค่ะ

10. หูฟัง

       เกษมบัณฑิต : ส่วนตัวคิดว่าอุปกรณ์เริ่มเก่าเล็กน้อย แต่ไม่ได้มาก ยังใช้งานได้ดี 100% ค่ะ แต่แค่ว่าตอนที่เราใส่หูฟังพอสอบเสร็จถอดออกมาก็มีเศษๆฟองน้ำที่มันนิ่มๆครอบหูติดแก้มมาด้วย ไม่รู้เรียกว่าอะไรอ่ะค่ะ == แต่ล้างน้ำก็ออกค่ะ ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนเวลาพูดต้องเอาไมค์มาจ่อที่ปากนะคะ ไม่งั้นพูดไม่ติด ตอนแรกเจ้าหน้าที่เค้าเห็นเราทำเค้าก็เดินมาบอกว่าไม่ต้องเอาไมค์จ่อปากให้พูดปกติ แต่เอาเข้าจริงตอนทดสอบไมค์มันไม่ติดอะค่ะ พอเราลองเอาไมค์จ่อปากถึงใช้ได้ เราเลยดื้อไม่สนที่เจ้าหน้าที่พูดอะค่ะ

       OBAC : อุปกรณ์ใหม่มากค่ะ ไม่มีคำบรรยาย ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แต่ต้องเอาไมค์จ่อปากเช่นกัน

11. ห้องน้ำ
ทั้งสองที่ระยะทางพอกันค่ะ ไม่ใกล้ ไม่ไกล
ความสะอาดพอกันค่ะ ปกติธรรมดา

12. บรรยากาศตอนสอบโดยรวม

ทั้งสองที่ก็เงียบดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ที่ OBAC ที่จะชอบมีคนบอกว่ามีเสียงเครื่องบิน ไปสอบ 2 ครั้งได้ยินครั้งนึงและแค่ลำเดียวแต่ไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ เสียงมันไม่ได้ดังสนั่นขนาดนั้นจริงๆคือแทบไม่ได้ยินอะค่ะ แต่อย่างที่บอกว่า OBAC ที่นั่งสอบจะเป็นคอกๆของตัวเองเลยก็จะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ถ้าคนในห้องไม่ได้ตะโกนตอบออกมาเหือนที่เราซวยไปเจอตอนไปสอบครั้งแรก เป็นคนอินเดียค่ะ มั่นใจในการตอบสูงสุดตะโกนลั่นห้องกลัวไม่ได้คะแนน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ที่เกษมบัณฑิตเราไม่ค่อยประทับใจอะค่ะอย่างที่บอกเหมือนกันว่ามันค่อนข้างเปิดไม่ได้กั้นอะไรมิดชิด เสียสมาธิง่าย
อีกนืดนึงค่ะ ตอนสอบเจ้าหน้าที่ที่เกษมบัณฑิตจะคอยเอากระดาษทดมาเติมให้เองโดยที่เราไม่ต้องขอเลยค่ะ แต่ OBAC เราต้องขอเองค่ะ แล้วตอนนั้นเราดันกระดาษหมดระหว่างสอบฟัง เลยต้องรีบสละการฟังไป 5 วินาทีวิ่งไปหยิบกระดาษทด เนื่องจากอย่างที่บอกว่าโต๊ะเป็นคอกๆมันมองเห็นกันยากมาก ยกมือแล้วเจ้าหน้าที่ไม่เห็นอะค่ะ == ถ้าใครรู้ตัวว่าตัวเองใช้เยอะก็ขอมาไว้ก่อนตั้งแต่ตอนเบรคเลยค่ะ

หมดแล้วค่า ตอนนี้เท่าที่นึกได้ก็จะมีเท่านี้นะคะ ถ้าท่านใดมีคำถามเพิ่มเติมยินดีตอบด้วยความเต็มใจค่ะ อยากแบ่งปัน ^^
ชื่อสินค้า:   ศูนย์สอบ TOEFL IBT
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่