เราขึ้นเครื่องบินจากหาดใหญ่มาดอนเมือง ระหว่างนั่งรอขึ้นเครื่อง ก็มีเด็กคนนึงอายุราวๆ 3-4 ขวบ พูดจารู้เรื่องแล้วค่ะ วิ่งกระโดดไปมา บริเวณแท่นตั้งทีวี ทีวีก็สั่นไปมา เรายังนั่งมองหน้าแฟนเลย ทีวีจะหล่นทับอยู่แล้วทำไม พ่อแม่ไม่ดุเลย อันตรายมากๆ
จนขึ้นเครื่องค่ะ คงเรียกได้ว่าเป็นคราวซวยของเรา ไม่ได้หยาบนะคะ เพราะถ้าคุณมาเจอสถานการณ์แบบเราคุณก็จะเรียกแบบนี้เหมือนกัน เราจองที่นั่ง 15A และ 15B ไว้ ซึ่งติดริมหน้าต่างและตรงกลาง แฟนเรานั่งริมหน้าต่าง และเรานั่งตรงกลาง
และ!! เด็กคนเดิมนั่งข้างหลังเราพอดี คือ 16B ค่ะ
ขั้นที่ 1 :: เครื่องยังไม่ทันขึ้นก็เริ่มแล้วค่ะ เราก็เอ๊ะ ทำไมเบาะสั่นๆ ทั้งที่เครื่องยังไม่ขึ้น
เราก็หันไปมองแต่เบาะตรงกันมองไม่ถนัดค่ะ แฟนเราสังเกตุเห็นเบาะเรากระเทือน เลยหันไปดูให้ ปรากฏว่าเด็กเปิดปิดถาดที่ติดอยู่หลังเบาะเราค่ะ หลายครั้งมาก เปิดปิดเล่น จนแฟนเรามองจริงจัง ป้าข้างๆ เลยบอกให้หลานหยุด
เราก็นั่งต่อ ไม่ถึง 1 นาที เอาอีกแล้ว เราเลย ลุกขึ้นหันมอง เห็นกับตา เด็กเอาเท้าทีบเบาะเราเล่น พอเราลุกมองป้าก็ห้ามเด็ก แต่พอลงนั่งเหมือนเดิมค่ะ เรารอจนเครื่องใกล้ออก ดูให้แน่ใจว่าที่ข้างๆ ว่าง เราเลยขออนุญาติแอร์เปลี่ยนที่ค่ะ เป็น 15C สุดท้ายเราต้องนั่งเว้นกับแฟน 1 เบาะเพราะเด็กคนนี้ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เดี๋ยวก็หลับแล้ว
ขั้นที่ 2 :: บินเที่ยวกลางคืน นักบินประกาศขออนุญาติหรี่ไฟ ทีนี้ คำถามมาเป็นชุดเลยค่ะ ยาย ไปไหน ทำไมต้องปิดไฟ เราไปหา...กันเนอะ ยิงยาวเลยค่ะ ระหว่างนี้ เบาะเราก็ยังกระเทือนอยู่นะคะเพราะเก้าอี้มันติดกัน แต่เบาลง เพราะไม่โดนกระแทกหลังจังๆ คุยตลอดเลยค่ะ เราก็ใช้ความอดทนมากๆ ทั้งเบาะ ทั้งเสียงคุย แต่เสียงคุยของเด็กเราก็พยายามคิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ
ขั้นที่ 3 :: ร้องเพลงค่ะ ย้ำว่า ร้องค่ะ ไม่ใช่ฮำเพลง ร้องเต็มที่ ขนาดที่ว่านักบินประกาศเตรียมเครื่องลง น้องเค้าร้องเสียงดังกว่าเสียงประกาศค่ะ ยิ่งประกาศดังเท่าไหร่ น้องเค้าก็จะตะเบ็งเสียงให้ดังกว่า ซึ่งไร้วี่แววการห้ามปรามใดๆ จากป้าที่นั่งข้างๆ
ณ จุดนี้ ความอดทนเราสุดๆแล้วค่ะ นั่งนับเลข ควบคุมอารมณ์ตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กค่ะ เด็กคงเป็นแบบนี้ทุกคน เรารอเวลาเตรียมตัวลงอย่างเดียวเลยค่ะ พอเครื่องจอดปุ๊บ เรารีบลุกหยิบกระเป๋าเลยค่ะ (ตอนนี้ก็ยังร้องเพลงอยู่) ระหว่างถือกระเป๋าจะออกจากเครื่อง ก็เห็นมีเด็กอีกค่ะบนเครื่อง 2-3 คน ทั้งเด็กกว่าคนนั้นอีก แต่ทำไมไม่เห็นน้องเค้าจะมีเสียงหรือทำอะไรรบกวนคนอื่นเลย เรารีบเดินหนีไปไกลๆเลยค่ะ กลัวทนไม่ไหวเดินไปต่อว่า ทำไมไม่ห้ามเด็กบ้าง
สรุปเลยนะคะสั้นๆ ทำไมพ่อแม่เด็กถึงไม่ห้ามปรามสั่งสอนคะ จะบอกว่าเป็นเด็ก แต่เด็กคนอื่นๆไม่เห็นเป็นเลย ดีนะคะบินในประเทศ แค่ ชม.กว่า ถ้าบินนานกว่านี้เราคงไม่ไหวค่ะไมเกรนจะเล่นงานเอา เสียค่าโรงหนัง 200 โดนทีบเบาะก็แย่แล้ว นี่เสียค่าที่นั่งเป็นพันๆ ต้องมาทนกระเทือนถีบเบาะ และเสียงรบกวนที่ดังมาก ชม.กว่าๆ ไม่ไหวจริงๆค่ะ ฝากถึงพ่อแม่ทุกคนที่พาเด็กขึ้นเครื่องนะคะ ช่วยห้ามปรามเด็กหน่อย มันเป็นพื้นที่ส่วนรวมค่ะ หลายชีวิตอยู่ในที่เดียวกับคุณเดินหนีก็ไม่ได้ อุดหูก็เอาไม่อยู่ หรือไม่ก็หาอะไรให้เด็กทำค่ะ เกมกดที่ยิงคล้องห่วงในน้ำ หรือเกมเลื่อนตัวเลขให้เรียง 1-13 อะไรก็ได้ ขอเถอะค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้ที่ยืดยาว และเป็นการระบายอารมณ์ล้วนๆค่ะ
ปล.จริงๆ ถ่ายรูปเบาะกับขาเด็กที่ถีบ แล้วก็อัดเสียงร้องเพลงมาด้วยค่ะ แต่แฟนห้ามไว้ว่าไม่สมควร
ขอแท็กห้องบลูแพลนเน็ตนะคะ เพราะนั่งเครื่องบินไปท่องเที่ยว และห้องชานเรือนเพราะเป็นเรื่องครอบครัวค่ะ
ถ้าแท็กผิดขออภัยค่ะ
ขอเถอะค่ะ สำหรับ ผู้ปกครองที่พาเด็กขึ้นเครื่องบิน มันไม่ไหวจริงๆ!
จนขึ้นเครื่องค่ะ คงเรียกได้ว่าเป็นคราวซวยของเรา ไม่ได้หยาบนะคะ เพราะถ้าคุณมาเจอสถานการณ์แบบเราคุณก็จะเรียกแบบนี้เหมือนกัน เราจองที่นั่ง 15A และ 15B ไว้ ซึ่งติดริมหน้าต่างและตรงกลาง แฟนเรานั่งริมหน้าต่าง และเรานั่งตรงกลาง
และ!! เด็กคนเดิมนั่งข้างหลังเราพอดี คือ 16B ค่ะ
ขั้นที่ 1 :: เครื่องยังไม่ทันขึ้นก็เริ่มแล้วค่ะ เราก็เอ๊ะ ทำไมเบาะสั่นๆ ทั้งที่เครื่องยังไม่ขึ้น
เราก็หันไปมองแต่เบาะตรงกันมองไม่ถนัดค่ะ แฟนเราสังเกตุเห็นเบาะเรากระเทือน เลยหันไปดูให้ ปรากฏว่าเด็กเปิดปิดถาดที่ติดอยู่หลังเบาะเราค่ะ หลายครั้งมาก เปิดปิดเล่น จนแฟนเรามองจริงจัง ป้าข้างๆ เลยบอกให้หลานหยุด
เราก็นั่งต่อ ไม่ถึง 1 นาที เอาอีกแล้ว เราเลย ลุกขึ้นหันมอง เห็นกับตา เด็กเอาเท้าทีบเบาะเราเล่น พอเราลุกมองป้าก็ห้ามเด็ก แต่พอลงนั่งเหมือนเดิมค่ะ เรารอจนเครื่องใกล้ออก ดูให้แน่ใจว่าที่ข้างๆ ว่าง เราเลยขออนุญาติแอร์เปลี่ยนที่ค่ะ เป็น 15C สุดท้ายเราต้องนั่งเว้นกับแฟน 1 เบาะเพราะเด็กคนนี้ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ค่ะ เดี๋ยวก็หลับแล้ว
ขั้นที่ 2 :: บินเที่ยวกลางคืน นักบินประกาศขออนุญาติหรี่ไฟ ทีนี้ คำถามมาเป็นชุดเลยค่ะ ยาย ไปไหน ทำไมต้องปิดไฟ เราไปหา...กันเนอะ ยิงยาวเลยค่ะ ระหว่างนี้ เบาะเราก็ยังกระเทือนอยู่นะคะเพราะเก้าอี้มันติดกัน แต่เบาลง เพราะไม่โดนกระแทกหลังจังๆ คุยตลอดเลยค่ะ เราก็ใช้ความอดทนมากๆ ทั้งเบาะ ทั้งเสียงคุย แต่เสียงคุยของเด็กเราก็พยายามคิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ
ขั้นที่ 3 :: ร้องเพลงค่ะ ย้ำว่า ร้องค่ะ ไม่ใช่ฮำเพลง ร้องเต็มที่ ขนาดที่ว่านักบินประกาศเตรียมเครื่องลง น้องเค้าร้องเสียงดังกว่าเสียงประกาศค่ะ ยิ่งประกาศดังเท่าไหร่ น้องเค้าก็จะตะเบ็งเสียงให้ดังกว่า ซึ่งไร้วี่แววการห้ามปรามใดๆ จากป้าที่นั่งข้างๆ
ณ จุดนี้ ความอดทนเราสุดๆแล้วค่ะ นั่งนับเลข ควบคุมอารมณ์ตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กค่ะ เด็กคงเป็นแบบนี้ทุกคน เรารอเวลาเตรียมตัวลงอย่างเดียวเลยค่ะ พอเครื่องจอดปุ๊บ เรารีบลุกหยิบกระเป๋าเลยค่ะ (ตอนนี้ก็ยังร้องเพลงอยู่) ระหว่างถือกระเป๋าจะออกจากเครื่อง ก็เห็นมีเด็กอีกค่ะบนเครื่อง 2-3 คน ทั้งเด็กกว่าคนนั้นอีก แต่ทำไมไม่เห็นน้องเค้าจะมีเสียงหรือทำอะไรรบกวนคนอื่นเลย เรารีบเดินหนีไปไกลๆเลยค่ะ กลัวทนไม่ไหวเดินไปต่อว่า ทำไมไม่ห้ามเด็กบ้าง
สรุปเลยนะคะสั้นๆ ทำไมพ่อแม่เด็กถึงไม่ห้ามปรามสั่งสอนคะ จะบอกว่าเป็นเด็ก แต่เด็กคนอื่นๆไม่เห็นเป็นเลย ดีนะคะบินในประเทศ แค่ ชม.กว่า ถ้าบินนานกว่านี้เราคงไม่ไหวค่ะไมเกรนจะเล่นงานเอา เสียค่าโรงหนัง 200 โดนทีบเบาะก็แย่แล้ว นี่เสียค่าที่นั่งเป็นพันๆ ต้องมาทนกระเทือนถีบเบาะ และเสียงรบกวนที่ดังมาก ชม.กว่าๆ ไม่ไหวจริงๆค่ะ ฝากถึงพ่อแม่ทุกคนที่พาเด็กขึ้นเครื่องนะคะ ช่วยห้ามปรามเด็กหน่อย มันเป็นพื้นที่ส่วนรวมค่ะ หลายชีวิตอยู่ในที่เดียวกับคุณเดินหนีก็ไม่ได้ อุดหูก็เอาไม่อยู่ หรือไม่ก็หาอะไรให้เด็กทำค่ะ เกมกดที่ยิงคล้องห่วงในน้ำ หรือเกมเลื่อนตัวเลขให้เรียง 1-13 อะไรก็ได้ ขอเถอะค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้ที่ยืดยาว และเป็นการระบายอารมณ์ล้วนๆค่ะ
ปล.จริงๆ ถ่ายรูปเบาะกับขาเด็กที่ถีบ แล้วก็อัดเสียงร้องเพลงมาด้วยค่ะ แต่แฟนห้ามไว้ว่าไม่สมควร
ขอแท็กห้องบลูแพลนเน็ตนะคะ เพราะนั่งเครื่องบินไปท่องเที่ยว และห้องชานเรือนเพราะเป็นเรื่องครอบครัวค่ะ
ถ้าแท็กผิดขออภัยค่ะ