เมื่อคืนวันที่ 30 ธันวาคม (นึกภาพ...ซึ่งพอออกมาถนนใหญ่ก้อจะเจอเป็น ถนนแบบเลนสวนกันฝั่งละ 2 เลน มีเส้นทึบกั้นระหว่างเลน ) เราได้ขับรถออกจากซอยแล้วขับรถชิดซ้ายมาสักพัก เพื่อดูรถที่ตามหลัง (เราต้องการจะยูเทรินกลับไปอีกเลนเพื่อจะกลับบ้าน) เมื่อเรามองดูแล้วแน่ใจแล้วว่ารถไม่มีเราจึงออกตัวช้าๆจากเลนซ้ายสุดเพื่อข้ามเส้นทึบไปอีกฝั่งแต่ยังไม่พ้นเลนที่สอง มีเสียงดังเห็นว่าหน้ารถมีมอไซต์แล้วก้อ คนเจ็บ 2 คน เราตกใจมาก ขับรถไปจอดอยู่อีกฝั่งหนึ่ง แล้วลงมาดูคนเจ็บ สักพักปอเต๊กตึ๊งก้อมา ในระหว่างนั้นก้อสนทนาอยู่ เป็นเด็กอายุ 12 และ 13 กำลังจะไปรับเพื่อน ปอเต๊กตึ๊งก้อรับพาคนเจ็บไปส่ง โรงพยาบาล สักพักตำรวจก็มาที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้นเราโทรคุยกับบริษัทประกันแจ้งเหตุไป (รถเราเป็นประกันชั้น 1) เรารอประกันประมาณ 30 นาที (ในระหว่างนั้นตำรวจเอารถคู่กรณีไปโรงพัก และรถเราจอดอยู่ข้างฟุตบาทอีกฝั่งเพราะขับไม่ได้ ช่วงหน้ามุมฝั่งขวาแตกขับต่อไม่ได้) พอประกันมาออกใบเคลมให้กับเรา แล้วก้อเขียนเล่าเหตุการณ์ และ เราเป็นฝ่ายประมาท ตอนนั้นประกันเรียกรถลากมารอรถลากอีก 40 นาที แล้วก้อลากรถไปโรงพัก ณ ตอนนั้นคนเจ็บสองคนอยู่ที่โรงพยาบาล เราก็ไปสถานีตำรวจพร้อมกับประกัน ระหว่างนั้นมีคนแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของมอร์เตอร์ไซต์คันเกิดเหตุ และได้ขอนำรถกลับ แต่ก่อนกลับประกันเราออกใบเคลมให้กับเจ้าของรถมอไซต์ แล้วเราก็คุยกับน้องเจ้าของมอไซต์กับพี่ประกัน เค้าบอกว่า คนบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถยนต์ พรบ.มอเตอร์ไซต์ จะจ่ายให้เบื้องต้นคนละ 30000 บาท ถ้าเกินวงเงิน พรบ.รถเก๋งจะต้องจ่ายให้ คนละ 30000 บาท เช่นกัน พอคุยเสร็จเจ้าของรถมอเตอร์ไซต์คุยกับพี่ตำรวจแล้วก้อขอเอารถกลับ รถเราก้อลากไปอู่ซ่อมประกัน พอเราออกจากโรงพัก มาที่โรงพยาบาล มาดูคนเจ็บ มาคุยกะพ่อแม่คนเจ็บ เราก็พูดว่า เรื่องค่ารักษาทาง พรบ. จะเป็นคนรับผิดชอบ พอคุยกันรุ้เรื่องเราก้อแยกย้ายกลับบ้าน ตื่นเช้ามา น้องเจ้าของรถมอไซต์โทรเข้ามาบอกกับเราว่า มอไซต์เค้า พรบ. ขาด เราก้อเอ่อ ไม่เป็นไร พอเข้าใจว่า เราเหลือ พรบ. ของรถเก๋งที่สามารถใช้ได้ วันที่ 31/12/57 เรารีบอาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปโรงพยาบาล ไปเจอกับพ่อแม่ของคู่กรณี ถึงได้ทราบว่า เด็กที่ อายุ 12 (คนซ้อน)ขาหัก(ช่วงขาอ่อน) เด็กที่ อายุ 13 (คนขับ)แขนหัก(ช่วงข้อศอก)หลังเดาะ และมีรอยแผลลึกฉีกช่วงขา แต่ช่วงนั้นเราพึ่งนึกออกว่าเราเหลือ พรบ. ที่เรายังไม่ได้แจ้งเหตุเรารีบโทรแจ้งกับเค้าพอเรารอ พี่ พรบ. มา เราเตรียมเอกสารการเบิกเงินจากพรบ. ครบถ้วนทั้งหมด เราเดินเข้าห้องสิทธิการรักษาพร้อมกับพี่พรบ. และพ่อแม่ของน้องคู่กรณี ทาง รพ.แจ้งว่า ไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายการรักษาได้ เพราะโรงพยาบาลนี้ไม่รับ พรบ. ของคู่กรณี รับแต่ พรบ.ของผู้บาดเจ็บ พี่พรบ.ที่เราเรียกเค้ามาเจรจาเค้าก็พยายามคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ไม่เป็นผล สรุปคือ เราต้องเป็นคนสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด แล้วไปเบิกคืนกับ พรบ.รถเก๋ง ซึ่งตอนนั้นก้อมืดแปดด้านเครียดมาก หลังจากที่ได้ผลสรุป เราก้อกลับบ้าน เครียดมากๆ เพราะต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเด็กทั้งสองคน วันที่ 1 และ วันที่ 2 เราไป ตจว. เราเข้าไปเยี่ยมเด็กอีกทีวันที่ 3 อาการเด็กปกติคุยรุ้เรื่อง เด็ก อายุ 12 ผ่าตัดใส่เหล็กเรียบร้อย เด็กอีกคนใส่เฝือก และแผลทางโรงพยาบาลก็ทำการเย็บแผล ทำแผลทุกวัน เราไปเยี่ยมเด็ก วันที่ 3,4,5, วันที่ 5 เราไปจ่ายค่ารักษาส่วนหนึ่ง คนขับ ค่ารักษาอยู่ที่ 8000 บาท คนซ้อน ค่ารักษาอยู่ที่ 21000 บาท สรุปยอดรวม วันที่ 5 เราจ่ายค่ารักษาไป 29000 บาท เราขอใบรับรองแพทย์ไว้ เพื่อที่จะเข้าไปเบิกเงินที่สำรองจ่ายไว้กับ พรบ.รถเก๋ง วันถัดมา วันที่ 6 คู่กรณีโทรมาตอนสิบโมงเช้า บอกว่าเด็กสองคนจะออกจาก รพ. วันนี้ ให้มาเคลียร์ค่าใช้จ่าย เราก้อลาครึ่งวัน วิ่งไปจ่ายเงินค่ารักษาให้ รวมบิล วันที่ 6 เด็กสองคน เป็นยอด 3340 บาท ตอนนี้เด็กกลับบ้านแต่ก็ทำแผลทุกวัน วันละ 140 บาท ซึ่งตอนนี้เราก็ยังดูแลเค้าอยู่ ตอนนี้หมอก็ยังนัดคู่กรณีให้ไปหา เป็นการรักษาต่อเนื่อง หลังจากนี้เราควรจะทำอย่างไรต่อไปดี สอบถามผู้เคยเกิดเหตุ และขอคำแนะนำด้วยนะคะ ทางฝั่งคู่กรณี ก็พยายามสอบถามเรื่องค่าใช้จ่าย ของเค้า เราก็ตอบไปแต่ว่าเดี๋ยวเรื่องนี้ค่อยคุยตอนที่เด็กหาย เราก็ยังให้สินน้ำใจค่ารถค่าราเค้าอยู่ เรายังไม่รุ้ว่าถึงตอนเรียกค่าสินไหมจะเป็นยังไง เราต้องทำอะไรบ้าง แล้วเค้าจะเป็นยังไง ?? เครียดดด
***..สอบถามกรณี "อุบัติเหตุ" รถเก๋ง + มอเตอร์ไซต์ (บาดเจ็บสาหัส)..***