Ross Ulbricht ชายวัย 31 ปีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ FBI บุกเข้าจับกุมตัวเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2013 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการสร้างตลาดมืดออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Silk Road เพื่อนำตัวฟ้องร้องต่อศาล ล่าสุด ก่อนการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในอีกหกสัปดาห์ข้างหน้า เขาได้ออกมายอมรับตรงๆ ว่า เขาคือผู้ที่สร้างเว็บไซต์ตามถูกกล่าวหาจริง แต่อย่างไรก็ตามปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลลึกลับที่รู้จักในชื่อของ Dread Pirate Roberts ตามที่ถูกกล่าวหา
Joshua Dratel ทนายความฝ่ายจำเลยให้ข้อมูลว่า การที่ลูกความของเขาสร้าง Silk Road ขึ้นมา ก็เพื่อทำการทดลองเศรษฐกิจแต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน การทำงานดังกล่าวกลับตึงเครียดเกินไปสำหรับ Ulbricht และทำให้เขาตัดสินใจที่จะถอนตัวออกมา
แต่ทว่า ไม่นานหลังจากนั้นก็มีบุคคลกลุ่มหนึ่งชักชวนให้ Ulbricht กลับไปทำงานที่เว็บไซต์อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาเริ่มรู้สึกว่ากำลังมีการไล่ปราบปรามตามกฏหมายเกิดขึ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Ulbricht ได้ถูกกลั่นแกล้งให้กลับไปรับผิดชอบความผิดแทนพวกเขาเหล่านั้น และกลายมาเป็นผู้โชคร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ
Dratel ยังให้การกับคณะผู้พิพากษาต่ออีกว่าเขามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า Ulbricht ไม่ใช่ Dread Pirate Roberts ผู้โหดร้ายด้วย ซึ่งบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ ได้มีการจ่ายเงินให้กับตำรวจเพื่อยุติการสอบสวนไปแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้ฝ่ายจำเลยจะมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ตนเอง แต่กระนั้น ฝ่ายโจทก์ก็มีหลักฐานอีกเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันที่แสดงให้เห็นว่า Ulbricht คือกุญแจสำคัญใน Silk Road รวมถึงสมุดบันทึกและคำยืนยันจากเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ระบุว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
ที่มา TechSpot
Ross Ulbricht ยอมรับเป็นคนสร้างเว็บตลาดมืด Silk Road แต่ยันไม่ใช่ Dread Pirate Roberts ตามที่กล่าวหา
Ross Ulbricht ชายวัย 31 ปีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ FBI บุกเข้าจับกุมตัวเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2013 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการสร้างตลาดมืดออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Silk Road เพื่อนำตัวฟ้องร้องต่อศาล ล่าสุด ก่อนการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในอีกหกสัปดาห์ข้างหน้า เขาได้ออกมายอมรับตรงๆ ว่า เขาคือผู้ที่สร้างเว็บไซต์ตามถูกกล่าวหาจริง แต่อย่างไรก็ตามปฏิเสธว่าไม่ใช่บุคคลลึกลับที่รู้จักในชื่อของ Dread Pirate Roberts ตามที่ถูกกล่าวหา
Joshua Dratel ทนายความฝ่ายจำเลยให้ข้อมูลว่า การที่ลูกความของเขาสร้าง Silk Road ขึ้นมา ก็เพื่อทำการทดลองเศรษฐกิจแต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน การทำงานดังกล่าวกลับตึงเครียดเกินไปสำหรับ Ulbricht และทำให้เขาตัดสินใจที่จะถอนตัวออกมา
แต่ทว่า ไม่นานหลังจากนั้นก็มีบุคคลกลุ่มหนึ่งชักชวนให้ Ulbricht กลับไปทำงานที่เว็บไซต์อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาเริ่มรู้สึกว่ากำลังมีการไล่ปราบปรามตามกฏหมายเกิดขึ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Ulbricht ได้ถูกกลั่นแกล้งให้กลับไปรับผิดชอบความผิดแทนพวกเขาเหล่านั้น และกลายมาเป็นผู้โชคร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ
Dratel ยังให้การกับคณะผู้พิพากษาต่ออีกว่าเขามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า Ulbricht ไม่ใช่ Dread Pirate Roberts ผู้โหดร้ายด้วย ซึ่งบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ ได้มีการจ่ายเงินให้กับตำรวจเพื่อยุติการสอบสวนไปแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้ฝ่ายจำเลยจะมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ตนเอง แต่กระนั้น ฝ่ายโจทก์ก็มีหลักฐานอีกเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันที่แสดงให้เห็นว่า Ulbricht คือกุญแจสำคัญใน Silk Road รวมถึงสมุดบันทึกและคำยืนยันจากเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ระบุว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
ที่มา TechSpot