Blackhat ผลงานแนวอาชญากรรมทริลเลอร์เรื่องใหม่ล่าสุดจากผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ ที่เชี่ยวชาญการทำหนังแนวแอคชั่นดราม่าเกี่ยวกับตำรวจไล่ล่าผู้ร้าย ซึ่งคราวนี้เป็นการไล่ล่าอาชญากรแฮกเกอร์ที่เจาะระบบความปลอดภัยขององค์กรใหญ่ระดับโลก โดยตำรวจทั้งจากอเมริกาและจีนต้องใช้ความช่วยเหลือจากยอดแฮกเกอร์อีกคนที่ติดคุกอยู่เพื่อไล่ล่าคนร้ายคนนี้
โดยปกติ การกำกับหนังของ ไมเคิล มานน์ นั้นเป็นแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวา และอาศัยบทหนังที่แข็งแรงกับพลังของนักแสดงนำในการดำเนินเรื่องให้น่าติดตาม แต่การดำเนินเรื่องแบบช้าๆนั้นดูไม่เข้ากับเรื่องราวของการไล่ล่าแฮกเกอร์บนโลกอินเตอร์เน็ทเท่าไร เพราะโลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความรวดเร็ว น่าจะเหมาะกับการดำเนินเรื่องแบบรวดเร็วหวือหวามากกว่า แม้จะมีฉากแอคชั่นใส่มาบ้าง แต่โดยรวมแล้วหนังก็มีความยาวมากเกินไป และไม่อาจช่วยให้คนดูรู้สึกมันส์ขึ้นมาได้
ในด้านของนักแสดงนั้นก็ยังไม่มีพลังพอที่จะแบกรับหนังทั้งเรื่องให้อยู่ได้ ทำได้แค่พอประคองหนังให้มันจบๆไป คริส เฮมเวิร์ท ยังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือในบทแฮกเกอร์ชั้นเซียน ด้านคาแรกเตอร์ก็ยังดูมั่วๆอยู่ จะดิบก็ไม่ดิบ จะสุภาพบุรุษก็ไม่ใช่ เป็นแฮกเกอร์เฉยๆก็ดูไม่ค่อยเหมือนแล้ว ยังมีบทให้แกแอคชั่นแบบ เจสัน บอร์น อีก ตกลงพี่เป็นแฮกเกอร์หรือนาวีซีล หวังลี่หง กับนักแสดงสาวจีนอีกในบทพี่น้องจากทางการจีน ซึ่งมีบทบาทการแสดงเยอะเลยทีเดียว ก็ดูเด็กเกินไปกับภารกิจระดับอินเตอร์เนชั่นแนลขนาดนี้
ด้านบทหนังก็ไม่ได้มีอะไรลุ่มลึกมาก แม้หนังจะเกี่ยวกับอาชญากรในโลกไซเบอร์ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่ได้สานต่อประเด็นเรื่องของผลกระทบที่เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์มีต่อชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันเลย ส่วนเรื่องราวของการใช้ยอดแฮกเกอร์เพื่อล่ายอดแฮกเกอร์นั้นก็เล่าออกมาได้ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร การถ่ายหนังแบบใช้กล้อง hand held เป็นหลัก ก็ทำให้งานด้านภาพดูมีความหวือหวา สวยแปลกตาอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องนั่งดูภาพแนวนี้เป็นเวลาสองชั่วโมงก็ทำให้รู้สึกเวียนหัวอยู่บ้าง
แต่ข้อดีของหนังของ ไมเคิล มานน์ ก็คือมีบรรยากาศการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ของความเป็นผู้ใหญ่ชัดเจน มีฉากแอคชั่นยิงกันที่เน้นความสมจริง ทำให้หนังดูมีมิติลุ่มลึกที่แตกต่างจากหนังตลาดๆที่มีอยู่เกลื่อน ซึ่งอาจถูกใจคนดูกลุ่มผู้ใหญ่บ้าง
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสารหนังใหม่ล่าสุด และพูดคุยกันเรื่องหนังได้ที่ facebook fanpage นี้นะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "Blackhat" หนังไล่ล่าแฮกเกอร์อารมณ์ผู้ใหญ่ๆ แต่ใช้เด็กๆแสดง (ไม่มี spoil)
โดยปกติ การกำกับหนังของ ไมเคิล มานน์ นั้นเป็นแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวา และอาศัยบทหนังที่แข็งแรงกับพลังของนักแสดงนำในการดำเนินเรื่องให้น่าติดตาม แต่การดำเนินเรื่องแบบช้าๆนั้นดูไม่เข้ากับเรื่องราวของการไล่ล่าแฮกเกอร์บนโลกอินเตอร์เน็ทเท่าไร เพราะโลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความรวดเร็ว น่าจะเหมาะกับการดำเนินเรื่องแบบรวดเร็วหวือหวามากกว่า แม้จะมีฉากแอคชั่นใส่มาบ้าง แต่โดยรวมแล้วหนังก็มีความยาวมากเกินไป และไม่อาจช่วยให้คนดูรู้สึกมันส์ขึ้นมาได้
ในด้านของนักแสดงนั้นก็ยังไม่มีพลังพอที่จะแบกรับหนังทั้งเรื่องให้อยู่ได้ ทำได้แค่พอประคองหนังให้มันจบๆไป คริส เฮมเวิร์ท ยังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือในบทแฮกเกอร์ชั้นเซียน ด้านคาแรกเตอร์ก็ยังดูมั่วๆอยู่ จะดิบก็ไม่ดิบ จะสุภาพบุรุษก็ไม่ใช่ เป็นแฮกเกอร์เฉยๆก็ดูไม่ค่อยเหมือนแล้ว ยังมีบทให้แกแอคชั่นแบบ เจสัน บอร์น อีก ตกลงพี่เป็นแฮกเกอร์หรือนาวีซีล หวังลี่หง กับนักแสดงสาวจีนอีกในบทพี่น้องจากทางการจีน ซึ่งมีบทบาทการแสดงเยอะเลยทีเดียว ก็ดูเด็กเกินไปกับภารกิจระดับอินเตอร์เนชั่นแนลขนาดนี้
ด้านบทหนังก็ไม่ได้มีอะไรลุ่มลึกมาก แม้หนังจะเกี่ยวกับอาชญากรในโลกไซเบอร์ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่ได้สานต่อประเด็นเรื่องของผลกระทบที่เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์มีต่อชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันเลย ส่วนเรื่องราวของการใช้ยอดแฮกเกอร์เพื่อล่ายอดแฮกเกอร์นั้นก็เล่าออกมาได้ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร การถ่ายหนังแบบใช้กล้อง hand held เป็นหลัก ก็ทำให้งานด้านภาพดูมีความหวือหวา สวยแปลกตาอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องนั่งดูภาพแนวนี้เป็นเวลาสองชั่วโมงก็ทำให้รู้สึกเวียนหัวอยู่บ้าง
แต่ข้อดีของหนังของ ไมเคิล มานน์ ก็คือมีบรรยากาศการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ของความเป็นผู้ใหญ่ชัดเจน มีฉากแอคชั่นยิงกันที่เน้นความสมจริง ทำให้หนังดูมีมิติลุ่มลึกที่แตกต่างจากหนังตลาดๆที่มีอยู่เกลื่อน ซึ่งอาจถูกใจคนดูกลุ่มผู้ใหญ่บ้าง
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสารหนังใหม่ล่าสุด และพูดคุยกันเรื่องหนังได้ที่ facebook fanpage นี้นะครับ https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ